แผ่นเสียงตกร่องร้องซ้ำๆ การศึกษาไทยตกต่ำเพราะครูไม่มีคุณภาพ ( จริงหรือ?) ๑
แผ่นเสียงตกร่องที่ร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเป็นเรื่องธรรมด๊าธรรมดา
ที่มาจากทั้งภาคสังคมและหน่วยเหนือของภาคการศึกษาเมืองไทยอีกประการหนึ่งก็คือ...
"ครูไม่มีคุณภาพ"
และสรุปแบบชี้เปรี้ยงว่า "เพราะคนเก่งๆไม่เรียนครู"
แต่หนีไปเรียน "แพทย์" เรียน "วิศวะ" หรืออื่นๆ กันหมด
นัยว่ามีเหตุผลเรื่อง "รายได้น้อย" ไม่สมราคาค่า "สมองเลิศ"
นั่นแสดงว่า การศึกษาไทยที่ผ่านมาได้สร้างให้ "คนเก่งๆเห็นแก่....?(เติมเองนะครับ) แทนการเห็นแก่ "ความสุขมวลรวมของสังคม" ใช่ไหม?"
นั่นก็เสมือนฟันธงกันตรงๆว่า "ครูไทย" มีแต่คน "โง่ๆ"
ส่วนใหญ่เป็นเด็กหลังชั้น อย่างมากก็หัวปานกลาง ที่ไม่ใคร่มีทางอื่นให้เลือก จึงจำใจต้องเรียน "ครู"
ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงก็แสดงว่า
สถาบันการศึกษาที่มีหน้าที่ "ผลิตครู" ก็ยังขาดฝีมือ
เพราะไร้สิ้นซึ่งปัญญาที่จะพัฒนา "เด็กหลังห้อง" เหล่านั้น ให้เป็นครูที่เก่งๆตามที่สังคมคาดหวังได้
ทั้งๆที่เพียบพร้อมไปด้วยอาคารสถานที่ วัสดุอุปกรณ์ บุคลากร และงบประมาณมหาศาล
แต่ทำไม...ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ .... และทำไม.....นะ?
สถาบันเหล่านั้นก็ยังสามารถ "ผลิตครูไร้คุณภาพ" ออกมาให้ล้นตลาดอยู่ได้ตลอดมา
และที่น่าแปลกใจยิ่งขึ้นไปอีกก็คือ
เหตุไฉน?... +...ทำไม?... หน่วยเหนือของโรงเรียนทั้งหลาย จึงยังไว้วางใจมอบภารกิจ "การพัฒนาครูประจำการ" ตลอดถึง "การชี้เป็นชี้ตายชีวิตครู (ว่าสมควรได้หรือไม่ได้วิทยฐานะ)"ให้สถาบันการศึกษาเหล่านี้อยู่ได้อย่างไม่เคยเปลี่ยนแปลง
เอะอะ ก็ให้สถาบันระดับอุดมศึกษาเป็นองค์กร "พัฒนาครูประจำการ"
เอะอะ ก็สั่งให้ "ครูโง่" (ทิ้งบ้าน-ทิ้งนักเรียน-ทิ้งโรงเรียน) ไปนอนให้...(ใครก็ไม่รู้ ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการสอนเด็กในโรงเรียนเลย เคยสอนแต่นักศึกษาที่คัดกรองไปแล้วหลายชั้น) เป่ากระหม่อมให้
บางคราวก็ ๒-๓ วัน แต่บางกาลก็ล่อเป็นสัปดาห์
(ล่าสุดครูวุฒิไปนอนกินอาหารโรงแรมอยู่ ๘ คืน ๙ วัน ที่อุบลราชธานี)
ค่าใช้จ่ายก็มีบ้างที่มาจากหน่วยเหนือจัดให้ (ใครก็ไม่รู้ได้ประโยชน์)
แต่ส่วนใหญ่ "ต้องควักเอง" (ตอกย้ำความจนของครูหนักซ้ำเข้าไปอีก)
ยิ่งที่เกี่ยวกับการจะมีและเลื่อนวิทยฐานะละก็ "ครูต้องจ่ายเองแบบเต็มๆและแพงๆ" เลยล่ะ
(๑๔-๑๘ พ.ค. ๕๕ นี้ ครูที่โรงเรียนท่านหนึ่งก็ไปเข้าอบรมทำวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ที่ มรภ.ศรีสะเกษ ค่าลงทะเบียน ๕,๐๐๐ + ค่าที่พัก ๒,๔๐๐ = ๖,๔๐๐ ค่าเดินทางและอื่นๆอีกต่างหาก)
นอกจากนั้น ยังมีระบบการพัฒนาออนไลน์ผ่านอินเตอร์เน็ต ในนามการพัฒนาครูทั้งระบบ (UTQ) ใช้เวลาถึง ๔ ซ้า ๕ เดือน อีก
เป็นภาระให้ครูต้องหาเวลาเข้าอ่านเข้าศึกษา E-B00k และทำข้อสอบผ่านเน็ตเป็นระยะๆ จนกว่าจะผ่าน
ซึ่งยุ่งยากมากความ อันเนื่องมาจากปัญหาเกี่ยวกับความไม่พร้อมของระบบอินเตอร์เน็ตในชนบท
ไม่รู้คนคิดเขาเข้าใจว่าระบบ 3 G มีใช้ครอบคลุมทั่วประเทศเหมือนลาวแล้วหรือไงก็ไม่รู้
นี่ไม่นับการที่นักวิชาการเอกชน, เครือข่ายกลุ่มโรงเรียน และ สถานศึกษา ดำเนินการจัดอบรมพัฒนา ทั้งจากงบประมาณที่หน่วยเหนือจัดและกำหนดให้ และจากงบประมาณที่ร่วมลงขันกันเองอีกต่างหากนะขอรับ
ครับ.....
จะเห็นได้ว่าเป็นการพัฒนาแบบซ้ำซ้อนกันหลายระดับในแต่ละปี แต่ละยุครัฐบาล แต่ละยุค รมว.ใหม่ ได้ก่อให้เกิดความสิ้นเปลืองทั้งงบประมาณ เวลา (และโดยเฉพาะโอกาสในการเรียนรู้ของเด็ก) ไปอย่างน่าเสียดาย
และทั้งๆที่พัฒนาครูอย่างเอาเป็นเอาตาย จนครูจะกรอบเป็นข้าวเกรียบกันขนาดนี้แล้ว
แต่ผลคะแนน O-NET ปี ๕๔ ก็เพิ่งฟ้องออกมาอย่างแจ่มชัดว่า การพัฒนาในแบบที่ผ่านมา "ไร้ผล"
เพราะ... คะแนนออกมาก็ไม่ต่างไปจากปีที่ผ่านๆมามากนัก
(และมีปัจจัยอื่นมากมายที่เป็นตัวแปร)
ครับ... ก็เมื่อคิดกันได้แค่ "เล่นงูกินหาง แบบแผ่นเสียงตกร่อง" กันอยู่แค่นี้ แล้วส้งคมจะคาดหวังอะไรจากครูครูไทยมากไปกว่านี้เล่า?
เรื่องนี้ทำเอาครูวุฒิเป็นงงอยู่ตลอดมาว่า....
ทำไมไม่ตั้งเงินเดือนสูงๆ และ "รายได้นอกเวลามหาศาล" ล่อให้พวก "หัวกระทิ" ทั้งหลาย เข้ามาเป็นครูเล่า?
จะได้เลิกหูหนวกตาบอดดูหมิ่นเหยียดหยามและดูแคลนกันว่า "ที่การศึกษาไทยคุณภาพตกต่ำ เพราะครูไทยไม่มีคุณภาพ" ซะที...!....
แต่ขอร้องอย่างหนึ่งนะ !
ขอให้ระวังคนพวกนี้จะ "หักคอ" เด็กที่เรียนรู้ช้าไว้หน่อย
เพราะพวกเขาเคยแต่เรียนรู้อะไรๆได้อย่างปรู้ดปร้าดเหนือคนอื่นมาตลอด
การที่จะให้เข้าใจเด็ก LD ที่เรียนรู้ช้าหลายรูปแบบ นั้นคงยาก
ฝากแค่นี้แหละครับท่าน
................................
ความเห็น (1)
การศึกษาขาดคุณภาพเพราะนักการแก้ระเบียบหักไม้เรียว ไว้ผมเพื่อแต่งตัว วางรัฐมนตรีที่ขาดวิสัยทัศน์