นายหัว
นาย เจ้าชาย ณ เมืองห้วยแร่

ตังเก…มหาลัยชีวิต (ภาค 2)


ตังเก…มหาลัยชีวิต (ภาค 2)

ตังเก…มหาลัยชีวิต (ภาค 2)

ความตื่นเต้นมันพุ่งพล่านในกระแสโลหิต คิดไม่ออกว่าในยามรุ่งขึ้นจะเจอะเจออะไรอีกบ้าง ตอนนั้นชีวิตของข้าพเจ้าเข้าสู่ภวังค์การวิตกกังวลที่เริ่มจะเพิ่มมากขึ้นๆทุกที เฮ้อ!

วันรุ่งขึ้นย่างกายเข้ามาอีกแล้วในวันนี้เช่นเดิม แต่เป็นอีกวันหนึ่ง ณ ต่างแดนต่างถิ่นฐานบ้านเกิด แดนเมืองเกาะตามประสาคนเฒ่าคนแก่ใช้เรียกขานเกาะลังกาวี ข้าพเจ้าจำได้เวลาของมาเลเซีย เมื่อเทียบเวลาประเทศไทย เฉพาะเขตลังกาวีเขตอื่นไม่ทราบ แต่ที่รู้คือเวลาที่นั่นเร็วกว่าบ้านเรา 1ชม. ส่งผลให้ระบบชีวิตมีความแตกต่างจากเดิมหลายอย่าง แรกๆก็งงๆกับชีวิตและเวลาที่เปลี่ยนไป มันรู้สึกว่าอะไรๆมันดูเร็วขึ้นพิกลนัก ข้าพเจ้าเมาเวลามาเลย์ ข้าพเจ้าจำเป็นต้องปรับตัวอย่างรีบเร่ง ไม่ว่าเรื่องเวลาหรือเรื่องกิจวัตรประจำตัว ด้วยความที่ข้าพเจ้าถือว่ายังโง่งมหรือไร้เดียงสา ข้าพเจ้าหลงเข้าใจว่าทั่วโลกเวลาที่ไหนๆคงเท่ากัน มันคงไม่น่าจะต่างกันมาก แต่เมื่อเจอกับของจริงเจอกับตัวเอง มันก็เข้าใจ มันรู้เองชัดเจน ไม่ต้องอธิบายอะไรอีก จะไปบอกเพื่อนบอกญาติที่บ้านเขาก็คงไม่เข้าใจ อย่างที่เขาบอกจริงๆ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่ามือคลำ ต้องเจอจริงๆ ต้องเจอเอง ชีวิตของแต่ละคนจะได้มีรสชาติที่ลิ้มลองรส ทราบรส ซาบซึ้ง อย่างสมบูรณ์แบบชีวิตในทุกๆเรื่อง

4.00 น. ณ เกาะลังกาวี เรือประมงลำใหญ่หมายเลข 23 เริ่มทะยานออกจากน่านน้ำมาเลย์ ในลำเรือหลายคนก็หลับใหล หลับใหลจากการเล่นไพ่ เล่นไฮโลที่หัวสะพานเมื่อยามค่ำจนยามรุ่ง หัวสะพานที่ทอดยาวประมาณ 30 เมตร เรือลำใหญ่ค่อยๆพุ่งหัวเรือสู่ปากน้ำลังกาวี แต่ก็เลียบหัวสะพานไปเรื่อยๆ วัยรุ่นเด็กเรือหลายคนวิ่งตามมาเป็นขบวนอย่างรีบเร่งเหาะกระโจนขึ้นเรืออย่างฉับพลันเข้าขั้นชำนาญการ แรกๆกว่านายหัวเรือจะถอนสมอ ปลดเชือกหัวเรือก่อนออกเรือนั้นก็หัวเสียกับพวกเด็กหนุ่ม เพราะไปติดพัน ไปเฝ้าเด็กสาวร้านน้ำชาหัวสะพานปลา นายหัวก็หัวเสียกว่าจะมาขึ้นเรือหมดทุกคน แถมได้ข่าวว่าเมื่อคืนกลางดึก เด็กเรือลำอื่นตีกันอุตลุต ฟันกันเละเทะเพราะแย่งจีบสาวร้านน้ำชา

ข้าพเจ้ามองไปที่ท้ายเรือ หันหูหันตาจากกลางลำเรือที่นายหัวเรือสวดยับวัยรุ่นติดสาวทั้งหลาย ชายฝั่งสะพานปลาดูยิ่งห่างๆ จนเหลือแต่ทะเลกับท้องฟ้า ผ่านไป 2ชม. เข้าสู่เขตช่องแคบมะละกา ใกล้ๆเขตไทยไม่มาก ไม่ห่างจากเกาะตะรุเตาและเกาะอื่นๆที่สวยงามของไทย ดวงตะวันถีบตัวออกจากท้องทะเลฝั่งตะวันออก ส่องแสงชอนไชมาในลำเรือ วัยรุ่นวัยแก่ต่างงัวเงียหลับปุ๋ย เพราะไฮโลเจ้ากรรมที่ดันซะหมดตูด ป็อกเด้งตัวดีที่ดันติดหนี้ไปหลายร้อย ฤทธิ์กัญชาที่หลอนให้หลับสงบสบาย ทุกคนต่างคว้าผ้าห่มผืนใหญ่ที่กองอยู่ปลายเท้าคว้ามาคลุมตัว นาทีนี้ทุกคนอยากหลับสักครึ่งวันให้หายอยาก แต่นั่นนะสิเวลางานวิ่งแจ้มาทันใดแล้ว

เมื่อเรือออกจากท่าทุกคนในลำเรือต่างหลับฝันสบาย ยกเว้นชมพู่เฒ่าและไต่ก๋ง ไต่ก๋งก็ขับเรือทะยานออกไป พลางดูซาวน่าและเรดาร์เรือ ดูแนวโขดหินโสโครกมิให้พลาด ถ้าหากพลาดทุกชีวิตคงเป็นอาหารไอ้หลามแน่นอน เรือราคาเป็นล้านคงหายไปกับน้ำ ไต่ก๋งกับนายหัวเรือที่นั่งปรึกษากันพลางดูซาวน่าเรือและวิเคราะห์จำนวนปลา พูดไปพลางบ่นไปพลาง ชมพู่เฒ่าก็จัดแจงหุงข้าวเช้าให้เราได้กิน เช้านี้ข้าวเหนียวปลาเค็ม ข้าพเจ้าแรกนั้นอยากหลับต่อแต่เมื่อกลิ่นปลาเค็มหอมๆมาเตะจมูก น้ำลายก็เริ่มไหล ท้องก็เริ่มโวยวาย จึงสลัดมาห่ม มาล้างหน้าล้างตาและซัดมันสองจานเด็ดๆ แม่งหลับไป กูกินให้หมดคอยดู นึกขำในใจคนเดียว

ผ่านไปร่วม 3ชม.เข้าใกล้เกาะบาจาก เกาะเล็กๆไร้ผู้คนอยู่อาศัยนอกจากลิงและนกนานาชนิดที่ดูเป็นเจ้าของเกาะ เราวิ่งเรือวนเกาะไปมาพวกมันเริ่มโวยวายโห่ร้องเพราะเครื่องยนต์เรื่องแหกปากรบกวนพวกมัน เรือก็ตรวจพบฝูงปลาขนาดใหญ่พอจะได้งานเช้านี้ คำสั่งลงอวนเริ่มดังขึ้นพร้อม แตรเรือที่ดัง แปร็ดดดๆๆๆ ได้เวลางานแล้วหนุ่มๆเอ๋ย

แปร็ดดดดๆๆๆเสียงดังสนั่นรอบเกาะ แตรเรือแหกปากแข่งกับเครื่องยนต์เรือ สัตว์ประหลาดตัวใหญ่ติดใบพัดแหกปากไม่หยุดไม่หย่อน ฝูงนกฝูงลิงแตกป่าหนีหาย รู้ว่าสงครามนี้เริ่มขึ้นแล้ว พวกมันยอมแพ้กระจัดกระจายหนีหาย สัญชาตญาณหนุ่มๆเรือตีก็ต้องลุกขึ้นทันใด ไม่มีการล้างหน้าล้างตา ทุกคนวิ่งไปท่อนหัวเรือช่วยกันทิ้งอวนขนาดใหญ่ลงทะเล วัยรุ่นที่ยังหลับ นายหัวเรือก็จัดแจงปลุกด้วยการถีบตกเปล ที่หลับอีกก็โดนกรอกหูตะโกนลั่น ทุกคนฮาสนั่นพร้อมวิ่งมาช่วยกันอีก สนุกจัง สนุกแบบโหดๆ

ส่วนพวกเรือต้มก็หลับใหลได้อีกนานเป็นชั่วโมงๆ เพราะต้องรอให้พวกเรือตีเอาปลาขึ้นมาก่อน ก่อนที่จะเริ่มงานพวกเขาหน้าที่เขา หลับสบายแต่รายได้เทียบแล้วน้อยกว่าพวกเรือต้ม 3,000บาท แต่เหนื่อยต่างกันคนละแบบ

ข้าพเจ้าสังกัดอยู่กับพวกเรือตี วิ่งออกไปที่กองอวนปลากองใหญ่ นายหัวเรือร่วมด้วยคุ้ยอวนลงน้ำ ทุกคนช่วยกัน เรือก็วิ่งเป็นวงกลมขนาดใหญ่ ประมาณ 1กิโลเมตรกว่าๆ ข้าพเจ้าดูมันใหญ่มากๆ กว้างอย่างแรงเลย วงกลมล้อมปลา ข้าพเจ้าพยายามไปช่วยทุกคน แต่ข้าพเจ้าก็โดนตวาดเสียจ๋อย เพราะดันไปยืนที่จุดอันตราย ใกล้กับเชือกจุดวิ่งและอวนใกล้พันขาข้าพเจ้า เกือบลากลงทะเล ข้าพเจ้างงๆ โฮ่ ! เรื่องมากจัง เห็นว่ากูเป็นเด็กหรือวะ ตวาดเอ๊าตวาดเอา

ปลากะตักฝูงใหญ่โดนล้อมเรียบร้อยโดนขังอยู่ในวงล้อมอวน วงกลมอวนถูกรวบให้เล็กลงๆทีละนิดด้วยปั่นจั่นเพลาหมุนรอกสลิงขนาดใหญ่เสียงครืดๆ พี่ๆบอกว่าให้หลบไปดูไกลนะ เพราะมีเหตุการณ์สลิงขาดดีดใส่คนตายมาแล้วหลายคน ข้าพเจ้าเสียบวูบ ข้าพเจ้าเป็นเด็กใหม่ในวงการเรือ ทำอะไรไม่เป็นแถมชอบถามมาก คนอื่นจึงหัวเสียประจำ ทุกคนโห่สนั่นเรือทันใด ภาพปลาฝูงใหญ่ พื้นน้ำจากสีฟ้ากลายเป็นสีดำสนิททันใดเพราะปลามีจำนวนมาก งานของข้าพเจ้าที่ได้รับมอบหมายคือการเก็บเชือกมานเรือ เชือกขนาดเท่าแขน รวมๆแล้วยาวประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นสองเท่าของขนาดอวน ข้าพเจ้าขดเป็นครึ่งวัน ดีที่มีเครื่องช่วยเก็บเชือก สบายไปบ้าง เฮ้อเหนื่อย…

วงกลมอวนใหญ่ดูแคบลงทุกทีๆ ปลาถูกล้อมเป็นวงกลมขาดเล็กลง รอกไฮโดรลิกพร้อมสลิงทำงานดังเอียดอ๊าดๆน่าหวาดเสียว ปั่นจั่นยักษ์มือกลจับรอกที่ผูกหัวอวนยกขึ้นมาทางกราบขวาเรือ ได้เวลาพวกเรือต้มลุกขึ้นทำงานแล้ว ลุกขึ้นมาต้มปลา เครื่องต้มปลาหม้อน้ำ เกลือและอุปกรณ์ถูกเตรียมภายในเวลาจำกัด ควันดำโขมงใหญ่ปุดๆขึ้นจากปลายท่อเครื่องต้มปลาที่ท้ายเรือใกล้ครัวเรือ เครื่องดีเซลปั่นไฟพ่วงแหกปากแข่งกับเครื่องยนต์เรือ มันแผดร้องแข่งกันดั่งปีศาจจะฟาดฟันใส่กัน ฝูงนางนวล นกอินทรีที่แอบมาโฉบขโมยปลา ในแรกๆเฉพาะเครื่องยนต์มันก็แอบมาขโมยเสียงว่าดังแล้ว มันยังไม่เกรงใส่ แต่เมื่อเครื่องดีเซลดังประกอบอีกรอบ พร้อมควันดำๆโขมงใหญ่ ฝูงนกขี้ขโมยทั้งหลายต่างแหกกระเจิงหายหน้า สงสารมันนะ มันไม่ได้ตั้งใจมาเป็นขโมย มันหากินเพื่อความจำเป็นและเพื่อมีชีวิตอยู่ต่างหาก เรากับมันไม่ได้ต่างกันมากเท่าใดทีเดียวเลย เราเห็นแก่ตัวและขี้ขโมยมากกว่านกพวกนั้นเสียอีก เราไม่เคยพอเลย ข้าพเจ้าพึมพำๆ เครื่องปีศาจทั้งสองก็แหกปากสนั่นทะเล เวลานี้ทุกคนตื่นจากภวังค์ตื่นจากอาการหลับๆตื่นๆ ไม่มีใครอยากหลับอีกเลย ทะเลก็ตื่นแล้วเช่นกันเวลานั้น ต่างที่มันไม่เคยหลับเลย

สวิงมือขนาดยักษ์ผูกสลิงที่หัว กำลังจุ่มตัวลงไปในวงกลมอวนปลา มันจุ่มตัวลงไปทางกราบขวาเรือ ปลากะตักฝูงใหญ่จำนวนมหาศาลแต่ตัวมันขนาดเท่าไม้ขีด ข้าพเจ้าอุทาน อัลลอฮฮูอักบัร! เยอะจริงๆสุดยอด เมื่อมือสวิงยักษ์ถูกยกขึ้นมาบนเรือพร้อมปลาจำนวนมาก แล้วคว่ำลงข้างกราบเรือเอียงไปทางท้ายเรือ เป็นฟากขนาดใหญ่ เป็นช่องไว้ใส่ปลาขนาดกว้าง 2 เมตร ยาว 4 เมตร เมื่อตักปลาครั้งแรกคว่ำสวิงลง ปลาเกือบเต็มฟากใส่ปลา

ข้าพเจ้าวิ่งไปดูที่หลังเรือที่พวกเรือต้มกำลังจะต้มปลา ปลาตัวเล็กๆนับร้อยๆพันๆตัวดิ้นพรวดพราดอุตลุต หมึกหอม ปลาอินทรี ปลาทู ปูม้า ปลาจะละเม็ด ถูกคัดแยกเป็นเข่งๆ ปลากะตักถูกตักใส่ถ้าย แล้วเอาไปจุ่มในน้ำร้อนๆที่ต้มกับเกลือ ลวกประมาณสองนาทีกับน้ำเกลือเดือดๆแล้วยกไปตากบนหลังคาเรือ

1 ถ้าย เท่ากับ 1 เข่งเล็ก แล้วนำมาจัดเรียงซ้อนกันประมาณ 15 ถ้าย เรียงกันเป็นตับๆ ให้ได้ 10 ตอน 10 ตอน เท่ากับ 1 แถว ส่วนใหญ่วันๆหนึ่งจะได้ประมาณ 1-2 แถว ถือว่าใช้ได้แล้ว ถ้าได้เยอะๆ 3-4 แถว ยิ่งได้เยอะทุกคนจะได้โบนัส เรือตีเรือต้มจะได้โบนัส 1 แถว จะได้เงิน 1 เหรียญมาเลย์ เท่ากับ 10 บาท และน้ำอัดลม 1กระป่อง ทุกๆคน

เป็นอย่างนี้ทุกๆวันตลอดเวลา 2 เดือน ยามเมื่อทำงานในทะเล มีแต่ฟ้ากับน้ำ ยิ่งเป็นวัยรุ่นเวลางานเกียจคร้านนักแล ยามเมื่อถึงพลบคล่ำกลับหัวท่าสะพานปลาทุกคนต่างมีชีวิตชีวา ต่างดีใจ กลับถึงอาบน้ำแต่งตัว ทาน้ำหอมฉุยๆ เพื่อจะไปเที่ยวร้านน้ำชา ร้านคาราโอเกะ ส่วนใหญ่จะไปเฝ้าร้านน้ำชา เพราะมีเด็กเสริฟสวยๆตาคม ข้าพเจ้าก็ไปด้วยทุกคืน ยิ่งเราเป็นเด็กกว่าเพื่อนเวลาไปกับผู้ใหญ่ เด็กเสริฟส่วนใหญ่อายุก็ไล่เลี่ยกับข้าพเจ้าก็มาพูดคุยด้วย สร้างความมันไส้ให้คนอื่นๆข้าพเจ้าก็งงๆเพราะไม่คิดอะไรมาก เมื่อถึงฝั่งทุกทีพวกเรือตีจะสบายหน่อย เหนื่อยแต่ในทะเล มีหน้าที่เพียงหาปลาเท่านั่น ส่วนพวกเรือต้ม ต้องขนปลาจากหลังคาเรือ วางไม้พาดที่หัวสะพานแล้วทิ้งปลาลงมาตามกระดานไม้ ต้องขนปลาขึ้นแพปลา ถัดจากร้านน้ำชาพอประมาณ ทุกคนเรือต้มช่วยขนปลาขึ้นรถอีแต๋นพ่วง แล้วซิ่งลากปลาขึ้นแพปลา ใกล้สำนักงานแพปลาเถ้าแก่ยืนยิ้มแฉ่งฟันขาว เมื่อเห็นปลาเยอะ ส่วนใหญ่กิจการนี้เป็นของชาวจีนเสียมากที่ประกอบกิจการ ลูกน้องกรรมกรส่วนใหญ่ก็เป็นชาวไทยมุสลิมเสียส่วนมาก ไม่นิยมใช้คนพุทธ คนพม่า เขมร ลาว เหตุเพราะคนแขกไม่กินเหล้า ไม่เมามาย อย่างมากคนนอกคอกก็สูบกัญชา เล่นการพนันแค่นั้นเอง พวกนี้ไม่ขี้เหล้า ไม่เมาไม่ทะเลาะกัน ดูแลง่ายกว่าคนพุทธ คนพม่า แต่ก็อย่างว่าไม่พ้นเรื่องผู้หญิงซักราย เป็นเรื่องทุกทีเสมอๆ

นั่นเป็นเหตุผลที่แตกต่างกันของแต่ละเรื่อง เหตุผลของเถ้าแก่ เหตุผลของพวกเรือตี พวกเรือต้ม ทีใครทีมัน เหนื่อยก่อนเหนื่อยหลัง สบายก่อนสบายหลัง สบายก่อนเหนื่อยทีหลัง หรือเหนื่อยก่อนสบายทีหลัง เป็นข้อคิดที่ข้าพเจ้าได้มา ข้าพเจ้าเป็นคนหนึ่งในหมู่พวกเรือตี พวกนี้ส่วนใหญ่เป็นพวกตัวใหญ่ ใจร้อน อารมณ์ฉุนเฉียว ชอบใช้กำลัง เพราะวันๆทำงานใช้กำลังอย่างเดียว ตากแดดทั้งวัน เวลามีเรื่องมีข่าวตีกันในร้านน้ำชา ก็พวกเรือตีแต่ละลำเรือนั่นแหละเจ้าปัญหา ข้าพเจ้าก็เสียวๆหลังเสมอเช่นกัน เวลาเดินไปเดินมาบนฝั่ง หรือเวลาไปนั่งร้านน้ำชากับพี่ๆเพื่อนๆ ไม่รู้ว่าคืนไหน สักที…

เจ้าชาย

17 / 4 / 55

หมายเลขบันทึก: 487550เขียนเมื่อ 9 พฤษภาคม 2012 22:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 สิงหาคม 2016 13:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

แต่วันนี้เด็กมุสลิมเราเป็นทาสน้ำเมาตามๆกัน

อย่าลืมส่งเข้าร่วม...รางวัลพานแว่นฟ้านะครับ...ผมเอาใจช่วยครับ...มีความสุขมากๆ ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท