(ขอบคุณภาพจากรศ.พญ.สุวรรณา อรุณพงค์ไพศาล ประกอบการให้ความรู้ประชาชนที่ชุมชนสามเหลี่ยม จ.ขอนแก่น)
วันก่อนได้คุยกับผู้ป่วยซึมเศร้า
ป่วยมาหลายปี มาโรงพยาบาลคราวนี้เพราะขาดยา หยุดยาเองเพราะคิดว่าหายแล้ว คราวนี้แพทย์ให้ข้อมูลว่าเขาจะต้องรับประทานยาอีก 5 ปี
ผมไม่อยากจะรับประทานยานานถึง 5 ปี
ทาน 1 ปีได้ไหม
จะเลือกรับประทานยาบางตัว
เพียงทำใจและออกกำลังกายเพื่อรักษาโรคซึมเศร้าก็น่าจะพอ
ยามันจะสะสมไหม
แล้วตับไตผมจะเป็นอย่างไร
แล้วยามันดีอย่างไร มันไปปรับสารเคมีในสมองได้อย่างไร
ได้ให้ความรู้ ให้ข้อมูล
ผลข้างเคียงยามีได้แต่ส่วนใหญ่เป็นช่วงที่ได้ยาใหม่ๆ ต่อมาร่างกายจะปรับตัวกับยา ช่วงที่ได้ยา มีปัญหาอะไรปรึกษาแพทย์ พยาบาลได้ตลอด อาจมีการปรับยาตามความเหมาะสม ยาต้านเศร้าไม่ทำให้เสพติด ไม่ได้สะสมจนเกิดอันตรายถ้ารับประทานในขนาดแพทย์สั่ง
ให้มีทางเลือก
การรับประทานยา 1 ปี แต่โรคกำเริบทีหลังได้ แล้วต้องรับประทานยาตลอดชีวิต
เริ่มชั่งใจ
ชั่งน้ำหนัก
การให้ข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญมาก
ได้จับเข่าคุย
จริงๆแล้วเขาคิดอย่างไร
มีจุดเล็กจุดน้อยให้เราได้ตระหนักเสมอ
ช่วงอยู่โรงพยาบาล เป็นโอกาสทองที่เราจะได้พูดคุย ประเมิน ให้ความรู้ และค้นหาปัญหาในการรับประทานยาของผู้ป่วยแต่ละคน
ใส่ใจ ...ให้เวลา ... ค้นหา... เติมเต็ม
ขอบคุณน้องทิมดาบและคุณพ.แจ่มจำรัสมากค่ะ อาการข้างเคียงของยา ในแต่ละบุคคลต่างกัน ไม่ได้มีครบทุกอาการ บางคนแทบจะไม่มีเลยค่ะ พยาบาลมีบทบาทมากค่ะในการให้ข้อมูล ให้เขาเกาะติดยา เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีค่ะ
ใส่ใจ...ให้เวลา...ค้นหา...เติมเต็ม
ขอนำไปใช้เลยนะคะ
ขบคุณมากค่ะ
ขอบคุณมากค่ะคุณTawandin ให้เวลา ค้นหาปัญหา มองจุดเล็กจุดน้อย ค่อยๆแก้ เข้าถึงปัญหาเพราะอะไรเขาถึงไม่กินยา แต่ละคนจะมีเหตุผลต่างกันค่ะ
ให้ความรู้ความไว้วางใจ และให้กำลังใจ
ชื่นชมค่ะ
สวัสดีค่ะพี่KRUDALA
สาเหตุที่ผู้ป่วยมีอาการกำเริบที่พบบ่อยได้แก่การขาดยา ความเครียด การดื่มเหล้า การอดหลับอดนอนค่ะ เรื่องยานี้อันดับต้นๆเลย ที่ตึกจะมีการให้ความรู้เป็นระยะ เปิดโอกาสให้ซักถาม ระบายความรู้สึก วันกลับประเมินอีกครั้งค่ะทั้งผู้ป่วยและญาติ ให้เบอร์โทรของตึกไปด้วย มีปัญหาโทรมาถามได้ค่ะ
ขอบคุณมากค่ะพี่ครู สบายดีนะคะ
ขอบคุณดอกไม้จากคุณอักขณิชและคุณดอกราตรีค่ะ