โซ่ตรวนกับความรักของแม่


3 พฤษภาคม 2555

 

ทุกวันที่ 1 ของทุกเดือน...ผมจะไปฉีดยาเกี่ยวกับโรคทางจิตเวชที่แพทย์จากโรงพยาบาลสั่งให้ฉีดกับ “ชาย” (นามสมมติ)

โดยแม่ของชายจะเดินมาที่อนามัย...ระยะทางประมาณพอเหนื่อย...มาตามผมไปฉีดยาให้

ซึ่งผมมักจะลืมเสมอ ๆ ว่า วันที่ 1 ของเดือน ต้องไปฉีดยาให้ชาย...

 

 

และคำพูดที่ผมบอกกับแม่ของชายเสมอ ๆ เมื่อยามมาตามผม ก็คือ “เดี๋ยวสาย ๆ ผมจะไป เพราะยังมีคนไข้รอตรวจอยู่ครับ....”

แต่ถึงจะสาย ๆ อย่างไร  ? ผมกลับไปถึงบ้านชายก่อนแม่ของชายทุกครั้ง

เพราะเมื่อแม่ของชายเดินทางกลับบ้าน...จะมีคนขอให้นวดให้บ้าง...ถอนผมหงอกให้บ้าง...สนุกสนามจนลืมหมอก็มี

 

 

ครั้งนี้...ฉีดยาในวันที่ 3 เพราะแม่ของชายบอกว่า อนามัยน่าจะหยุดวันแรงงานวันที่ 1 และวันที่ 2 ไม่เห็นรถผมจอดอยู่ เลยเกรงใจหมอท่านอื่น จึงไม่กล้ารบกวน ทั้งที่คุณหมอทุกท่านใจดีและอาสาอยู่แล้ว

 

 

จากที่ครั้งล่าสุดที่ไปเยี่ยมบ้านพร้อมกับทีมคุณหมอจากโรงพยาบาล...พร้อมกับครอบครัว ญาติพี่น้อง  อสม. และผู้นำชุมชน อยากให้ชายปลดโซ่ตรวน

 

 

คุณหมอเลยเปลี่ยนยาสูตรใหม่ให้...เพราะประเมินอาการของชายแล้ว...ยังมีการโวยวาย และมีความต้องการทางเพศอยู่สูงมาก

 

 

คุณหมอเลยเริ่มเปลี่ยนยากินในวันที่ 29 เมษายน....เมื่อวันนี้ผมมาฉีดยาให้จึงมีโอกาสคุยกับแม่ของชาย

 

แม่ของชายบอกว่า “ช่วงวันสองวันหลังกินยาใหม่...ว่าจะมาถามคุณหมอ เพราะสงสารลูก ลูกนอนตลอด ไม่ตื่นเลย บอกให้มากินข้าวก็ไม่กิน แขนขาอ่อนแรงกลัวเป็นอัมพาต …ไม่สวดมนต์เลย ไม่พูดคุย นอนตลอด แต่พอวันที่ 1 เริ่มอาการปกติ ถามกินข้าว อยากอาบน้ำ...ทาแป้ง...พูดคุยกับแม่เพราะ ๆ ...ไม่โวยวาย...สวดมนต์สั้น ๆ แล้วก็นอน...ไม่ทำการช่วยเหลือตนเอง (ทางเพศ) ซึ่งที่ผ่านมา...แม่บอกให้หยุด วันละหลายครั้ง...จนแม่สงสารและร้องไห้เมื่อเห็นลูกทำแบบนี้....รู้สึกว่า ยาสูตรใหม่จะดี...ให้ช่วยรายงานคุณหมอโรงพยาบาลให้ทราบอาการด้วย...”

 

 

เมื่อผมเตรียมยาฉีดเสร็จแล้ว จึงเดินมาหาชายกับที่อยู่ที่พักพิง....มองเห็นโซ่ที่ล่ามขาไว้...ผมอดสงสารและหดหู่ไม่ได้...ยิ่งไม่ได้มีความสัมพันธ์กันใกล้ชิดเหมือนแม่ชายยังอดมีความรู้สึกเช่นนี้...แล้วแม่ชายหล่ะความรู้สึกคงมากมายทวีคุณยิ่งกว่าผม

 

 

ผมขอฉีดยาชาย...ชายยิ้มให้ผม...และนอนคว่ำให้ฉีดโดยดี...ตอนนี้ผมเริ่มไม่กลัวชายเหมือนทุกครั้ง...เพราะเริ่มคุ้ยเคยกันบ้าง ฉีดยาเสร็จแล้ว...ผมคุยกับชายถึงอาการ...

 

 

ชายบอกเช่นเดียวกับแม่ว่า...”อาการดีขึ้น ไม่มีความรู้สึกโมโหบ่อย ถ้ามีอารมณ์หงุดหงิดก็รู้สึกตัว อยากหายเร็ว ๆ ไม่อยากให้แม่ทรมานกับตนเอง....”

 

ผมภาวนาในใจเสมอว่า...ผมอยากเห็นรอยยิ้มของแม่ของชาย...กับการปลดโซ่ตรวนออกจากชีวิตของชายอย่างถาวรเสียที...ขอให้วันนั้นเดินทางมาถึงโดยเร็ว

 

ภาพสุดท้ายที่ผมลาจากชายและแม่ของชาย…

ผมเห็นแม่ของชาย กำลังหวีผมและทาแป้งให้ชาย

ผมนึกย้อนเห็นภาพตนเองในสมัยเด็ก ๆ ที่แม่ของผม พับคอเสื้อนักเรียนให้เรียบร้อย...หวีผม...ทาแป้งหน้าขาวผ่อง…ผูกเส้นรองเท้า

และอวยพรให้ผมเป็นเด็กดี และตั้งใจเรียน......

 

 

หมายเลขบันทึก: 487344เขียนเมื่อ 7 พฤษภาคม 2012 15:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 21:34 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)
  • ไม่วาลูกจะเป็นเช่นไร แม่คือผู้ที่อยู่เคียงข้างเสมอ..
  • ชื่นชมและให้กำลังใจน้องทิมดาบค่ะ

สวัสดีค่ะ

อ่านตรงนี้แล้ว... "ผมนึกย้อนเห็นภาพตนเองในสมัยเด็ก ๆ ที่แม่ของผม พับคอเสื้อนักเรียนให้เรียบร้อย...หวีผม...ทาแป้งหน้าขาวผ่อง…ผูกเส้นรองเท้า และอวยพรให้ผมเป็นเด็กดี และตั้งใจเรียน..."

รู้สึกคล้ายกัน และคล้ายจะได้รับกระแสความละมุนละไมจากความรักของ "แม่"

ให้ดอกไม้ไว้ 10 ดอก สำหรับบันทึกนี้

ขอบคุณค่ะ

I had a talk with a traditional medicine 'buff'. We got to talk about blood chemistry and blood pH. There are theories about blood pH: -- our body operates with blood pH 7.35-7.45, ---- higher >7.45 (more alkalide) makes us more sensitive, but calm and meditative; ---- lower <7.35 (less alkalide) makes us restless, nervous and stressful -- what we eat can affect our blood pH ---- most fruits and vegetables increase blood pH (more alkalide) (lemons, pineapples and water melons are alkalide-increasers) ---- most cereals and grains, meat and animal products and processed/ready-to-eat food lower blood pH (sweeteners/artificial sugars, meats, coffee, fizzy soft drinks (like 'cola'), smoking cigarettes are acid makers) -- body has many systems that keep bloof pH in a narrow range, outside that range body can suffer even die. (So, usually it is difficult to vary blood pH by any significant value.) ... (please search "blood pH")

We are not medical doctors nor we are qualified in any public health areas ;-) But it seems that certain diets may be worth a try in your case. A gift of a watermelon or a pineapple or an orange may be well received.

ความรักของแม่ยิ่งใหญ่และค้ำจุนลูกเป็นนิจนิรันดิ์นะคะ..

 

สวัสดีค่ะน้องทิมดาบ

ดูแลด้วยหัวใจจริงๆ ชื่นชมและเป็นกำลังใจในการทำงานค่ะน้องทิมดาบ เป็นกำลังใจให้คุณแม่ของผู้ป่วยด้วยค่ะ
เห็นเขาอาการดีขึ้นก็ดีใจไปด้วยค่ะ ภาวนาเช่นกันที่จะเห็นอิสระภาพของเขาค่ะ     
คงได้ยาฉีด long acting  antipsychotic ได้ยากินด้วยไหมค่ะ บางตัวก็ลด sexual drive แต่ผลข้างเคียงอาจมีเรื่องง่วงและความดันต่ำขณะเปลี่ยนท่าค่ะ

"ภาพสุดท้ายที่ผมลาจากชายและแม่ของชาย…

ผมเห็นแม่ของชาย กำลังหวีผมและทาแป้งให้ชาย

ผมนึกย้อนเห็นภาพตนเองในสมัยเด็ก ๆ ที่แม่ของผม พับคอเสื้อนักเรียนให้เรียบร้อย...หวีผม...ทาแป้งหน้าขาวผ่อง…ผูกเส้นรองเท้า

และอวยพรให้ผมเป็นเด็กดี และตั้งใจเรียน......" ซึ้งมากค่ะ ด้วยรักและผูกพัน รักของแม่ช่างยิ่งใหญ่ ขอบคุณมากค่ะน้องทิมดาบ

I spotted this and thought it should be added here:

ตะลึง!โคราชพบผู้ป่วยจิตเวชถูกล็อกโซ่ตรวนมากที่สุด 22 ราย จากทั่วประเทศ 245 ราย [เดลินิวส์] http://www.dailynews.co.th/thailand/115174

"...จ.นครราชสีมา พบผู้ป่วยจิตเวชที่ถูกล่ามขังด้วยโซ่ตรวนมากที่สุด 22 คน สามารถปลดโซ่ตรวนได้แล้ว 2 คน เช่นเดียวกับ จ.ชัยภูมิ มีผู้ป่วย 22 คนเท่ากัน แต่สามารถปลดโซ่ตรวนได้แล้ว 10 คน จ.อุบลราชธานี มีผู้ป่วย 17 คน ปลดโซ่ตรวนแล้ว 2 คน ส่วนข้อมูลการสำรวจผู้ป่วยโรคจิตเรื้อรังเมื่อปี 2551 พบว่าคนไทยอายุ 15-59 ปี มีความชุกของโรคร้อยละ 0.8 หรือประมาณ 4 แสนคนทั่วประเทศ พบมากคืออาการจิตเภท หูแว่ว ประสาทหลอน ถึงร้อยละ 70 ของผู้ป่วยโรคจิตทั้งหมด ซึ่งมีอาการรุนแรงถึงขั้นที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัว และร้อยละ 35 ของผู้ป่วยจิตเภท จะมีอาการอยู่ตลอดเวลาโดยไม่ทุเลาลงเลย...."

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท