ให้เริ่มต้นอีกกี่ครั้งก็พร้อมและยอม….


ในช่วงสามสี่วันที่ผ่านมา   หลังจากผ่านแต่ละวินาทีที่บีบคั้นหัวใจ   ทำให้ผมเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้าโรยแรงในใจ

ยิ่งอากาศร้อนอบอ้าว...แสงแดดทะลุเข้ารูขุมขนได้ทุกอณู  ทำให้ร่างกายอ่อนล้าตามไปด้วย

แต่ก็ทำให้ได้เรียนรู้ว่า การเข้าใจชีวิตของตนเอง สิ่งหนึ่งที่ดีที่สุด คือ การผ่านพ้นช่วงเวลาที่วิกฤตของชีวิตไปให้ได้

ผ่านพ้นไปแบบกระท่อนกระแท่นยังดีกว่าจะเดินหนีและลืมปัญหาไว้ชั่วคราว

เพราะเมื่อมีสิ่งที่สะดุดใจให้นึกถึง...ต้องทุกข์กับมันอีก

 

19 เม.ย.55 เวลา 9.10 น.:  พี่ชายโทรมาทวง Passport กับรูปถ่าย เพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะยื่นเอกสาร เป็นการทวงหลายครั้งในหนึ่งสัปดาห์ จนผู้ทวงรู้สึกเอื้อมระอาและถามว่าผมจะไปหรือเปล่า? ผมต้องไปแน่นอนครับ เพราะ “หลวงพระบาง” เป็นเมืองหนึ่งที่ผมใฝ่ฝันอยากไป…เป็นเมืองมรดกโลก...และผมคิดว่าที่นั้นยังมีวิถีและการดำเนินชีวิตของผู้คนที่มีเสน่ห์...น่าจะมีช่องว่างระหว่างกลิ่นอายวัฒนธรรมกับความเจริญที่กำลังถาโถมเข้ามา

 

19 เม.ย.55 เวลา 9.15 น.: ผมทำงานไปเรื่อย ๆ แต่ยังมีรอยยิ้มเสมอ...ยิ้มได้ทั้ง ๆ ที่มีเรื่องกังวลในใจ...ผมว่าหลายหนผมชอบยิ้มมากเกินไป และตระหนักได้ดีที่สุด ผมยิ้มมากมายได้เฉพาะเมืองไทย เพราะถ้าอยู่ประเทศอื่น ๆ เช่น เกาหลีใต้ (คนเอเชียเดียวกัน) ที่ผมไปล่าสุด ผู้คนเขาไม่ชอบยิ้มแย้ม และยิ่งกับฝรั่งแล้ว เขายิ้มแบบมีเหตุผล ถ้าผมยิ้มแบบไม่มีเหตุผล ผมต้องโดนเขาเคืองแน่นอน...เผลอมาเขียนเรื่องยิ้มมากมาย...เพราะเป็นสิ่งที่มีค่าในการเดินทางทั้งในประเทศและนอกประเทศ...ที่ทำให้ผมเข้าใจและเรียนรู้ตนเอง และผู้อื่น...แต่แน่นอนที่สุด...เดินทางไปไหนไกลแสนไกล..ผมก็ไม่ลืมที่กลับมาเดินวนเวียนในหัวใจตนเอง

 

19 เม.ย.55 เวลา 12.05 น.: ผมเอา Passport กับรูปถ่าย ไปให้พี่ชาย เพราะพี่จะรีบไปจัดการ เราจะขับรถไปหนองคาย แรกเช้าตอนตีหนึ่งวันที่ 26 เม.ย.55 ข้ามไปที่ “เวียงจันทร์” แล้วต่อรถไปที่ “หลวงพระบาง” คงต้องอยู่บนรถตลอดทั้งวัน

 

“ทำไมเอามาให้ช้า” ผมไม่ตอบ แต่ในใจวันนี้ผมรอคำตอบที่ผมส่งผลงานของผม ให้ผู้จัดการอบรมคัดเลือกให้เราไปประชุมช่วงที่จะเดินทางไปหลวงพระบาง จึงมีความรู้สึกเหมือนเหยียบเรือสองแคม ใจหนึ่งอยากไปอบรม...ใจหนึ่งอยากไปหลวงพระบาง...แต่เมื่อเวลาตรงกันเช่นนี้...ผมต้องเลือกไปหลวงพระบาง เพราะต้องไปร่วมงานกับเครือญาติที่นั้น...แต่ในใจยังโหยหาและแอบหวังว่า ตนเองจะได้รับการคัดเลือกให้ไปอบรม....(อาจจะมีความรู้สึกไม่ดีแวบหนึ่งที่คิดว่า อยากให้คนเห็นความสามารถของผม)

 

19 เม.ย.55 เวลา 16.55 น.: ผู้จัดการอบรมประกาศผลทางเวปไซต์...ไม่มีชื่อผม...ผมมีความรู้สึกทั้งสมหวังที่ได้ไปหลวงพระบางอย่างไม่มีอะไรติดในใจ...ผิดหวังที่ผมไม่ได้คัดเลือกให้ไปอบรม ทั้งที่เราตั้งใจส่งผลงาน...ทำให้ผมเสีย self  และความมั่นใจไม่น้อย...แต่แน่แน่ “หลวงพระบาง” ก็คือ ความใฝ่ฝันของผม ซึ่งผมจะได้ไปเยือนเร็วนี้

 

 

22 เม.ย.55 เวลา 13.30 น. : ทิมดาบ-ลูกชายเล่นเปียโนให้ฟัง ผมรู้สึกเห็นความมีชีวิตของชีวิตอีกครั้ง...ชีวิตอาจเรามีสมหวัง ก็ต้องมีผิดหวัง และเมื่อมีการยอมรับ ก็ต้องมีการปฏิเสธ...เมื่อผมผ่านความเข้าใจทำให้ผมแกร่ง และพร้อมจะเดินตามฝันอีกครั้ง

 

22 เมย. 55 เวลา 15.05 น.: เพื่อนส่งกำลังใจมาให้เดินทางต่อไป...ใช่ชีวิตมีเรื่องราวให้เรียนรู้มากมาย...มีเรื่องดีดีให้ทำมากมาย...อย่าเอาเอาคิดที่ไม่ดี ใส่ในร่างกายเรามากเกินไป...ชีวิตไม่ยืนยาวให้เราอยู่กับความรู้สึกท้อแท้ และเอาบทกวีของ  Albert Camus   ผู้ได้รับรางวัลโนเบล แต่อายุสั้นมาก ไม่งั้น คงได้ทิ้งผลงานอะไรไว้อีกมากมาย...แต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องราว แต่ผมรู้สึกดีกับมิตรภาพระหว่างผมและเพื่อนครับ

 

 

22 เม.ย.55 เวลา18:10 น.:  ผมกลับมาเขียนบันทึกอีกครั้ง บันทึกล่าสุดตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย.55 เวลา 06:08 น. หลังจากที่เข้ามาดูกัลยาณมิตรทุกท่านในโกทูโนว์ และพยายามไม่เข้าระบบ แต่ความรู้สึกว่า ที่นี้มีความรัก มิตรภาพ และการแบ่งปันเกิดขึ้นมากมาย ทำให้อดที่จะเขียนบันทึกต่อไปไม่ได้ แม้ความฝันจะหลุดลอยอีกครั้ง...ผมก็ยังมีความฝันผุดขึ้นอีกมากมายหลายความฝัน... เพียงแต่ถ้าผมไม่หยุดที่จะอดทน...รอคอย...มั่งมั่น และตั้งใจทำความฝันให้เป็นจริง สักวันฝันนั้นผมไม่หลุดลอยจากผมอีกแน่นอน

 

 

23 เม.ย.55 เวลา8:10 น.:  ผมทำงานตามปกติ พร้อมกับรอยยิ้มที่พร่ำเพรื่อมากมายเช่นเดิม ยังมีสิ่งมากมายให้ผมได้ทำด้วยความรัก ทั้งชีวิตส่วนตัว ครอบครัว และงาน ที่งานเหล่านั้นมีประโยชน์บ้างสำหรับผู้คนอื่น ๆ ตอนช่วงเย็น ๆ ผมอ่านผมอ่านบันทึกนี้.....http://www.gotoknow.org/questions/14909....ผมรับรู้เสมอว่า...กัลยาณมิตรทุกท่านยังคงให้กำลังใจผมเสมอ และพวกเราให้กำลังใจกัน.....ต่อไปนี้จะให้ผมเริ่มต้นอีกกี่ครั้งก็พร้อมและยอม...กับที่นี้...มิตรภาพ และการแบ่งปันกัน...บันทึกแต่ละบันทึกอาจจะไม่ใช่เป็นการถอดประสบการณ์จัดการความรู้ เพราะเรื่องเล่าของผมส่วนใหญ่เป็นการรำพึงรำพันมากกว่า…รำพึงรำพันกับความฝัน มิตรภาพ และการแบ่งปัน.....แต่ขอให้เดินเคียงข้างผม และเป็นเพื่อนของผม...แล้วเดินทางไปด้วยกันนะครับ

 

 

 

Don’t walk in front of me

ขออย่าได้เดินนำหน้าฉัน

For I am not going to follow you

เพราะฉันคงไม่เดินตามหลังคุณ

 

Don’t walk after me

ขออย่าได้เดินตามหลังฉัน

For I am not going to lead you

เพราะฉันคงไม่เดินนำ (หน้า) คุณ

 

But walk beside me and be my friend

แต่ขอให้เดินเคียงข้างฉัน และเป็นเพื่อนของฉัน

(Albert Camus)   

 

หมายเลขบันทึก: 485903เขียนเมื่อ 24 เมษายน 2012 07:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 16:48 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ขอให้กำลังใจแก่ผู้้ยิ้มได้ในทุกสถานะการณ์..คุณค่าของความสุขที่เป็นของเรา..เผื่อแผ่แก่ทุกคนไม่สิ้นสุดนะคะ..

"เดินทางไปไหนไกลแสนไกล..ผมก็ไม่ลืมที่กลับมาเดินวนเวียนในหัวใจตนเอง"

ชอบมากกับวลีนี้ค่ะ

ขอให้มีคววามสุขในการเริ่มต้นใหม่ทุกๆ วันนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท