วันนี้ขอเสนอภาษาผู้ไทด้วยคำว่า อะเหญิงกับขี้เลด ค่ะ
พอดีเมื่อวานเห็นน้องเขาคุยกันน้องผู้ลาวถามน้องผู้ไทว่าอะเหญิงกับขี้เลดน่ะมันต่างกันจังได๋ ผู้เขียนเลยมาคิดตามอย่างที่น้องผู้ลาวว่าสองคำนี้มันก็แปลว่าขยะแขยงเหมือนกันแต่ทำไมเราใช้สองคำมาคิดๆดูแล้วพอจะแยกการใช้ของสองคำนี้ได้ว่าขี้เลดน่าจะขยะแขยงมากกว่าอะเหญิง
สองคำนี้มีความหมายคล้ายๆกันคือเป็นความรู้สึกในทางลบต่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเหมือนกันคำว่าอะเหญิงหรือพูดตามสำเนียงผู้ไทว่าอะเหญิ่งเป็นความรู้สึกขยะแขยงปนกลัวเช่นเราเห็นตัวหนอนผีเสื้อเกาะอยู่ถ้าไม่คุ้นเคยเราจะมีความรู้สึกว่าถ้ามันมาเกาะมือเราคงจะเหนียวๆเย็นๆรู้สึกขยะแขยง หรือเราเห็นมีคนกินลาบเลือดเรามีความรู้สึกขยะแขยงที่กินดิบๆรู้สึกว่าเหมือนกับกินของเป็นๆอยู่ความรู้สึกแบบนี้คืออะเหญิง ส่วน ความรู้สึกขี้เหลดหรือขี้ เลดนั้นเป็นความรู้สึกรังเกียจขยะแขยงเห็นว่าเป็นของสกปรกเช่นเราเห็นไส้เดือนอยู่ในกระป๋องหลายตัวเรารู้สึกอะเหญิงหากเราคิดว่าเราต้องจับเอาไว้ที่มือเราหลายๆตัวมายั้วเยี้ยๆที่มือเรา ขณะเดียวกันเรารู้สึกขี้เลดด้วยเพราะเราคิดว่าไส้เดือนสกปรกแต่หากเราไม่รังเกียจแม้เราจะจับเราก็ไม่เกิดความรู้สึกทั้งอะเหญิงและขี้เลดแต่อย่างใด
ตัวอย่างประโยคต่อไปนี้ค่ะ
กั่นอะเหญิ่งเด๋เฮ่อกั่นกิ่นก้อยป่าน้อยดี้นยู่แซ่วๆ(ฉันขยะแขยงจังให้ฉันกินก้อยปลาน้อยซึ่งยังดิ้นๆกันอยู่)
กั่นขี้เลดเด๋ขี้มุตู้ยซ้ายตู้ยขวายู่(ฉันขยะแขยงจังขี้มูกติดแก้มทั้งซ้ายทั้งขวา)
ก็ขอจบคำว่าอะเหญิ่งกับขี้เลด แต่เท่านี้ค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ