ถ้ามหาลัยโง่เสียแล้ว อย่าหวังว่าประเทศจะฉลาดได้( ทำไมเด็กไทยไอคิวต่ำที่สุดในโลก .ตอน ๕)


แทนที่ผมจะหน้าบาน ผมกลับหน้าม้าน เพราะผมรู้จักฝรั่งดี..ว่า...การที่เขาพูดแบบนี้มันเป็นการเสียดสี..ว่า มรึงจนแล้วยังโง่อีกต่างหาก ....

ด่ารร. ประถม มัธยมมานาน จนลืมด่ามหาประลัยไทยไปได้ (ความจริงด่ามานานแล้ว แต่ในสายความ (thread)  นี้ ยังไม่ได้ด่า)

 

งบประมาณการศึกษาที่สาดขึ้นไปยังมหาประลัย ก็เอาไปซื้อของหรูหรากันเสียมาก เช่น เทคโนโลยีการสอนอันหรูหรา

พาว”เว่อ” พอยท์ 

พรีเซ็นเตอร์

ระบบเสียง

อินเตอร์เน็ท

 

ส่วนห้องทดลอง (แหล็บ) ก็อลังการ์ ซื้อเขามาทั้งน้าน เพื่อฝึกให้เด็กนศ.กดปุ่มใช้เครื่องเป็น (ฝึกให้ไปเป็นขี้ข้าบริษัทต่างชาติในนามตำแหน่ง operator ที่แสนหรู)  โดยมหาไรไทยไม่เคยคิดจะสร้างเครื่องมือทดลองเองบ้างเลย

 

สมัยหนุ่มๆ ผมเป็นรองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ (ครูใหญ่) ได้มีโอกาสไปดูงาน “ต่างประเทศ” หลายแห่ง คนอื่นๆ เขาไปดูความทันสมัย แต่ผมแอบดอดไปดูห้องเรียนเพียงคนเดียว ...โห..มันเดิมๆมากเลย คือกระดานดำและชอล์ค ในห้องไม่มีเทคโนฯ อะไรเลย

 

ในขณะที่ของไทยเราเป็นกระดานขาว (ที่สะท้อนแสง ทำให้นศ.มองไม่เห็น  และแพงกว่ากระดานดำอีกต่างหาก) และยังมีเทคโนฯ เต็มห้อง ส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้อจ.มหาไรไทยไม่สอนด้วยแม้กระดานขาว แต่เป็น pp ไปหมดแล้ว ซึ่งน่าสยดสยองมากก

 

 

ส่วนห้องแหล็บระดับป.ตรี  ผมก็ได้มีโอกาสนำพาอธิการบดี และ คณบดีวิศวะ จากทั่วโลกเข้าเยี่ยมชมห้องแหล็บของเรามากมายหลายท่าน ..ทุกท่านอุทานเหมือนกันว่า โอ้โฮ..ของเราทันสมัยจริงๆ ยิ่งกว่าม.ของพวกเขาเสียอีก....แทนที่ผมจะหน้าบาน ผมกลับหน้าม้าน เพราะผมรู้จักฝรั่งดี..ว่า...การที่เขาพูดแบบนี้มันเป็นการเสียดสี..ว่า มรึงจนแล้วยังโง่อีกต่างหาก ....

 

อธิการและ คณบดี จากประเทศอารยะเหล่านั้นเขาสรุปปิดฝาโลงเหมือนกันทุกคนว่า ในม.ของเขา ในประเทศอริยะนั้น เครื่องมือพื้นฐานในการทดลองนั้นส่วนใหญ่ เขาให้นศ. สร้างเอาเองตาม”ยถากรรม”

 

ซึ่งประเด็นการสร้างเองนี้ ผมได้นำเสนอมาแต่ก่อนจะได้รับการเสียดสีจากพวกฝรั่งมังฆ้องเสียอีก แต่ไม่ได้รับการสนใจ

 

องค์กรไทยเราทุกระดับ ไม่เฉพาะองค์กรทางการศึกษา อึกอักอะไรก็ซื้อของนอก (คงเพราะมันแพงดี ทำให้ได้ค่าหัวคิวมากกว่าการผลิตด้วยตัวเอง) อีกทั้งประกวดประขันกันจังว่าห้องแล็บใคร “ทันสมัย” กว่ากัน ...นี่มันวงจรอุบาทว์แท้ๆ

 

ถ้ามหาลัยโง่เสียแล้ว อย่าหวังว่าประเทศจะฉลาดไปได้

(เพราะมหาลัยคือ “สมองของชาติ” )

 

...คนถางทาง (๖ เมษายน ๒๕๕๕)

 

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 484409เขียนเมื่อ 6 เมษายน 2012 11:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 กรกฎาคม 2012 03:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

Your observation (above) reminds me of of a phrase ลิงได้แก้ว Of course this is unkind, the monkey can evolve to make use of the sparkling jewel. But deeper in your message is that "we have a wish, and we want to get it quick"

there is no time to go thru' -- what is the problem -- what is the cause of this problem: factors, and dynamics -- what is the solution (selected from various options) -- how to make the solution happens

(We know full well this is อริยสัจจ์ 4, we just don't use it!) we want the solution yesterday (and a chance to make money on the side) ;-)

ท่าน sr ครับ ผมว่าคนไทยเราเก่งมาก (ที่สุดในโลกด้วยซ้ำไป) เหมือนจิตประภัสสร เดิมแท้ที่ฉายแสง แต่บุญมีแล้วโดนกรรมบัง เลยฉายแสงไม่ออกสักที มันต้อง "ตบกระโหลก" แรงๆ เหมือนเราตอบวิทยุโทรทัศน์ คอมพ์ ที่มันทำงานมาดี จู่ๆก็ไม่ทำงานซะงั้น

พอโดนตบ มันก็ทำงานได้ต่อไป แบบว่า "น๊อดหลวม" ๕5ห้า

สำนักข่าวอำเภอพร้าว

^_^ ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท