ชีวิตที่พอเพียง : ๑๕๒๖. เดินเล่นและวิ่งออกกำลังที่หาดภราดรภาพ ชุมพร


 

          เช้าวันที่ ๔ และ ๕ มี.ค. ๕๕ ผมมีโอกาสวิ่งออกกำลังที่หาดภราดรภาพ ปากน้ำชุมพร เป็นครั้งแรก   เพราะเราไปพักที่ โรงแรมโนโวเทล ชุมพร บีช รีสอร์ท แอนด์กอล์ฟ สองคืน

          หาดภราดรภาพถือเป็นหาดที่สวยงามหาดหนึ่งของชุมพร    แต่สู้หาดทุ่งวัวแล่นที่อยู่ทางเหนือไม่ได้ ส่วนหนึ่งเป็นธรรมชาติ และอีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะขาดการดูแลรักษาความสะอาด    ที่หาดทุ่งวัวแล่นมีการ เก็บขยะบำรุงรักษาความสะอาดอย่างดี  ผมแปลกใจที่ทางโรงแรมโนโวเทล ไม่คิดรณรงค์ทำความสะอาดชายหาด ภราดรภาพ

          ๑๗.๓๐ น. วันที่ ๓ มี.ค. หลังอาบน้ำและพักผ่อนในห้องพักสักครู่ สาวน้อยเป็นผู้ชวนผมไปเดินเล่นที่ชายหาด   มาชุมพรคราวนี้ผมเตรียมมาพักผ่อนและตากอากาศเต็มที่   เพราะน้องสะใภ้แนะนำโรงแรมโนโวเทล ซึ่งอยู่ชายหาด   โรงแรมนี้เมื่อกว่ายี่สิบปีก่อน ชื่อโรงแรมพรสวรรค์ ผมเคยมาพักกับคณะของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์   โดยที่ตอนนั้นผมเป็นคณบดี   และคงจะเคยมาวิ่งแถวชายหาดนี้แล้ว แต่จำสภาพไม่ได้เลย 

          อากาศยามเย็นกำลังสบาย มีลมพัดเอื่อยๆ    น้องบอกว่าเมื่อวานอากาศร้อนอบอ้าว แต่วันนี้มีลม ตะวันออกพัดมา ทำให้เย็นลง    นับเป็นโชคดีของผม   เราเดินเล่นที่ชายหาด และขึ้นมานั่งที่ม้านั่งบริเวณพื้นที่ นั่งเล่นริมถนนเลียบชายหาด   ซึ่งคงจะเคยเป็นที่สวยงาม แต่ขณะนี้ทรุดโทรมมาก   ผมยิ่งแปลกใจว่าโรงแรม โนโวเทลปล่อยให้พื้นที่ตรงกันข้ามกับโรงแรมทรุดโทรมสกปรกเช่นนี้ได้อย่างไร  

          เรานั่งเล่นกินลมและถ่ายรูปวิวทะเลยามพระอาทิตย์ตกดินที่นั่นเกือบชั่วโมง จนเกือบหนึ่งทุ่ม น้องก็มารับ พาไปกินอาหารเย็นที่ร้ายลุย   เราได้กินอาหารที่หากินยาก ๒ อย่าง    อย่างแรกคือไข่ปลาเรียวเซียว (หรืออีเซียว  หรือปลาทูกัง ซึ่งเป็น catfish น้ำเค็มชนิดหนึ่ง) แกงส้มกับเนื้อปลากะพง และยอดมะพร้าว  ขนาดของไข่ ๑ เม็ดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๑ เซ็นติเมตร   อีกอย่างหนึ่งคือไข่แมงดาทะเล   ซึ่งน้องชายบอกว่ามักจะส่งมาจากฝั่งพม่า   

          วิวชายทะเลที่เห็นเขามัทรี และเกาะมัตโพน อยู่ไกลๆ ทำให้ผมระลึกชาติสมัยเป็นเด็ก   พ่อแม่พา ไปเที่ยวงานเทศกาลประจำปีเกาะมัตโพน   โดยนั่งรถยนต์จากบ้านมาลงเรือข้ามฟาก แล้วเดินไปจากปากน้ำเวลาน้ำลง   แล้วเดินขึ้นเขาไปจนถึงยอดเขาที่มีกระโจมไฟ ซึ่งวันนี้เราก็ยังเห็นแสงไฟเมื่อพลบค่ำ   

          ตรงหน้าเราเป็นเกาะเสม็ด ผมนึกถึงคำบอกของพ่อ “น้าทรัพย์เคยบอกยกที่ที่เกาะเสม็ดให้   แต่ไม่รับ เพราะไปอยู่ที่นั่น กลัวลูกโง่”   คือถ้าไปทำไร่ทำสวนอยู่ที่เกาะห่างไกล ลูกๆ ก็คงจะไม่ได้รับการศึกษาที่ดี   ผมโชคดีมากที่มีพ่อมองการณ์ไกลเรื่องการศึกษาของลูกๆ   น้าทรัพย์คือน้องสาวของย่าของผม เป็นคนที่มีฐานะดีมาก คนที่ปากน้ำชุมพรเรียกว่า “คุณนายทรัพย์”   สามีของท่านมีบรรดาศักดิ์เป็นท่านขุน   เป็นผู้สร้างปากน้ำชุมพรขึ้นมา ตามที่เล่าไว้ที่นี่ลูกสาวคนโตของย่าทรัพย์คืออาสมบูรณ์ เอกแสงศรี อายุมากกว่าแม่ผม ๑ ปี คืออายุ ๙๓ ยังเล่นหุ้นได้

          เช้ามืดวันที่ ๔ มี.ค. เวลา ๖ น. ยังมืดอยู่ ผมออกไปวิ่งริมถนนเลียบชายหาด ซึ่งมีไฟฟ้าแสงสว่างของถนน   ออกจากโรงแรมเลี้ยวขวาวิ่งไปทางใต้ ผ่านคลังน้ำมันของบริษัท iRPC   มีเจ้าหน้าที่คับคั่งและมีไฟสว่างไสว    ผมมองไปที่สถานีขนถ่ายน้ำมันกลางทะเล ที่เมื่อเย็นวานสาวน้อยกับผมสงสัยว่าคืออะไร   และน้องชายบอกว่า เป็นสถานีถ่ายน้ำมันจากเรือขนน้ำมันลงท่อมาขึ้นบก   ผมจึงได้เห็นเรือน้ำมันตอนกำลังถ่ายน้ำมัน และตอน แล่นออกไป  

          วิ่งไปประมาณ ๑ ก.ม. ผ่านร้านอาหารครัวชมวิว ซึ่งเป็นที่พักชื่อ Starlight Beach ด้วย    เลยนั้นไปเริ่มเปลี่ยว ผมจึงวิ่งกลับ   มาถึงหน้าโรงแรมโนโวเทลฟ้าเริ่มสาง    จึงลงไปวิ่งที่หาดทราย   วิ่งไปทางเหนือ ผ่านขยะมากมาย ไปจนถึงโขดหิน ปนขยะคอนกรีต (ช่วงนี้เราโจ๊กกัน โดยอ่านว่า คอ-นก-รีต) และทรากเรือ จึงวิ่งกลับไปทางใต้ ผ่านขยะมากมาย น่าอนาถใจ

          ผมตำหนิผู้จัดการโรงแรมโนโวเทล และฝ่ายกำกับดูแลนโยบายของโนโวเทลทั้งระบบ   ที่ไม่มีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อชุมชนที่ตนไปทำธุรกิจอยู่ (CSR)   ปล่อยให้ชายหาดที่เคยสวยงามสกปรก   ไม่ชักชวนประชาคมในท้องถิ่นลุกขึ้นช่วยกันทำความสะอาด    กำลังสำคัญยิ่งคือนักเรียนโรงเรียนปากน้ำวิทยา และโรงเรียนบ้านหาดภราดรภาพ ที่อยู่ใกล้ๆ    เมื่อชายหาดสะอาด ธุรกิจของโรงแรมก็จะดีขึ้น   หากสภาพชายหาดเป็นเช่นปัจจุบัน ผมไม่แนะนำให้แขกไปพักที่ โรงแรมนี้ เพราะราคาแพง และสวยแต่บริเวณโรงแรม   ออกไปเดินเล่นชายหาดไม่เจริญใจเลย 

          เช้านี้ท้องฟ้ามืดฝน ผมจึงไม่รอชมพระอาทิตย์ขึ้น เพราะเดาว่าจะไม่มีให้ชม  จนเวลา ๘ น. หลังกินอาหารเช้า    เราออกไปเดินหน้าโรงแรม ฟ้าก็ยังครึ้ม ทำท่าฝนจะตก  

          เย็นวันที่ ๔ อากาศร้อนอบอ้าว เราขับรถเที่ยวชมบริเวณ ไม่ได้เดินตากอากาศ

          เช้าวันที่ ๕ ผมออกไปวิ่งริมถนนตั้งแต่ยังไม่สว่าง    ออกจากโรงแรมแล้ยวซ้ายวิ่งไปทางทิศเหนือ   ไฟถนนสว่างดี   ผ่านหน้าร้านอาหารเจ๊อ่าง, ร้านลุย, โรงเรียนบ้านหาดภราดรภาพวิ่งไปจนถึงทางขึ้นพระตำหนัก ร. ๕ ก็วิ่งกลับ    อากาศยามเช้าเย็นสบาย ได้กลิ่นคาวของอาหารทะเล   ป้ายโรงเรียนบ้านหาดภราดรภาพ แปลกมาก ด้านหนึ่งเป็นป้ายชื่อโรงเรียน อีกด้านหนึ่งเป็นชื่อ นางสุชิน เภาโบรมย์ ไม่ทราบว่าชื่อใคร   เป็นชื่อผู้บริจาคที่ดิน หรือชื่อครูใหญ่

 

วิจารณ์ พานิช

๕ มี.ค. ๕๕

 

 หาดภราดรภาพยามเย็น

 


 

 ที่เห็นไกลๆ ทางซ้ายคือเขามัทรี เกาะเล็กๆ กลางภาพคือเกาะมัตโพน


 

 ศิลปะธรรมชาติที่ชายหาด


 

 เกาะเสม็ด สิ่งก่อสร้างเล็กๆ กลางทะเลคือสถานีถ่ายน้ำมันจากเรือขนน้ำมัน


 

 เรือไดหมึก และทิวมะพร้าวยามอาทิตย์อัสดง


 

ชายหาดสกปรกกับท้องฟ้า และทะเลยามอาทิตย์อัสดง

 



 

 

ไข่ปลาเรียวเซียว

 


 

หมายเลขบันทึก: 483715เขียนเมื่อ 30 มีนาคม 2012 11:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 20:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

หากมนุษย์รู้แต่เก็บเกี่ยว ไม่รู้จักดูแลธรรมชาติ สุดท้ายธรรมชาติอันสดใสก็คงแปดเปื้อนดังเช่นใจมนุษย์ผู้รู้แต่เก็บเกี่ยว ช่างน่าสงสารมนุษย์ที่ไม่รู้จักการให้ ให้คนอื่น ให้สังคม ให้ประเทศ ให้ธรรมชาติ ก็เท่ากับให้ตัวเอง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท