PBL_PLC_อบจ.มหาสารคาม


ตระหนักรู้_PBL_PLC_ครูเพื่อศิษย์

      และในที่สุดในการประสานงานและจิตที่มุ่งมั่นของ อ.ต๋อย(ดร.ฤทธิ์ไกร ไชยงาม) วงPLCของมหาสารคามด้าน อบจ.ก็เริ่มเคลื่อนอีกด้วยความกรุณาของ ผอ.สุรภีร์ ค่ายหนองสรวง ผอ.กองศึกษาฯ

     ดีใจมากเมื่อลงจากรถมาพบ อ.เอก (คุณจตุพร)เหมือนพบเพื่อนเก่า ก้าวย่างสู่MK Pake(อุทยานแหล่งเรียนรู้มหาสารคาม) ด้วยใจที่พองโต

     เปิดงานโดยนายก อบจ. ดร.คมคาย อุดรพิมพ์  และบรรยายโดย ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช   เรื่อง "วิถีการสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์" ข้าพเจ้านั่งแฝงตัวแบบเนียนๆในเพื่อนครูที่ร่วมเปิดเวที เป็นการดีมากที่ได้ทราบแนวคิดของเพื่อนครูเสียงกระซิบว่า เป็นไปไม่ได้  ปกติก็สอนหนักอยู่แล้ว?  อะไรกันหนักหนา? แสดงว่าครูยังไม่เปิดใจในวิีถีการสร้างการเรียนรู้ใหม่ของศิษย์ที่ เรียนโดยลงมือทำเพื่อให้เกิดทักษะ(Learning dy Doing) สุดยอดทักษะ 3 ประการคือแรงบันดาลใจ เรียนรู้ และร่วมมือ เรียนโดยลงมือเป็นทีม  ร่วมกันไตร่ตรองว่าได้เรียนรู้อะไร ต้องการอะไรเพิ่ม และวิถีการสอนใหม่ของครูคือครูเปลี่ยนบทบาทจากสอนเป็นฝึก 

        เราลืมสนิทเรื่องใหญ่ที่สุดคือ เราลืมว่าครูยังไม่รู้เรื่อง(ไม่มีพื้นฐาน)ทักษะศตวรรษที่21 จึงน่าเสียดายการบรรยายที่ดีเยี่ยมของศ.นพ.วิจารณ์ พานิช และได้ยินเสียบ่นว่าเวียนหัว มีแต่ภาษาอังกฤษ  (ในแง่ลบ ต้องยอมรับสภาพ  เพราะพื้นฐานของครูไม่เหมือนกัน)

       เป็นการตัดสินใจที่ดีมากในการพักเที่ยงก่อนเวลา

    ตามคาด  ช่วงบ่ายครูหายไปครึ่งหนึ่งแต่เป็นการดีที่ได้สแกนครูที่ไม่มีใจ เวทีถูกแบ่งเป็น 2 เวที คือเวทีผู้บริหาร มี.นพ.วิจารณ์ และอ.ต๋อย ส่วนเวทีครูมีคุณอ้อ อ.เอก และทีมครูจาก LLEN มหาสารคามที่ได้ร่วมเวทีครูเพื่อศิษย์ครั้งที่2 ได้แก่ข้าพเจ้า(ครูเพ็ญศรี) ครูเพ็ญศรี จากนาสีนวนครูอ๋อย ครูเครือมาศและครูป๋อง(ร่วมเวทีPLC ที่เชียงยืน) น่าเสียดาย อ.เอกร่วมเวทีได้ไม่นาน ก็ต้องรีบไป เสียแล้ว(คิวทอง) คุณอ้อได้แบ่งกลุ่มๆละประมาณ 5 คน ให้เล่า ความประทับใจ ช่วงแรกคุณครูวิตกมาก  ต้องบอกว่าไม่มีผิดไม่มีถูก เรื่องอะไรที่คุณครูประทับใจมากสุด เสียดายข้าพเจ้าไม่ได้ฟังทุกกลุ่ม เพราะต้องอยู่ที่กลุ่มตัวเอง ข้าพเจ้าประทับใจการสอนของครูบรรเทิงที่โคกก่อมาก ท่านใช้เพลงในการปรับพฤติกรรมของนักเรียน ท่านใช้ได้ทุกสถานการณ์ (เรียกว่าเป็นครูเพื่อศิษย์ เชียวละ ท่านมีลักษณะพิเศษคืออารมณ์ดี)และจากโคกก่ออีก2 ท่านเป็นครูภาษาไทย ท่านใช้โครงงานและสอนด้วยสถาณการณ์ ส่วนอีกท่านสอนคณิตศาสตร์ ด้วยเกม และครูพละใช้การเสริมแรงในแง่บวก และจบลงด้วยตัวแทนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาเล่าเรื่องที่ประทับใจ  

     มีการAARหลังกิจกรรมเพราะรู้สึกว่า ไม่ได้ดั่งใจ(ใจข้าพเจ้าเองที่ไม่วางใจเป็นกลาง) เราไม่ได้วางแผนร่วมกัน(อ.ต๋อย ฤทธิไกร กำลังออกฤทธิ์ งานเยอะม๊ากๆๆ) ข้าพเจ้าจะนำเด็กที่เป็นผลผลิตจาก PBL มาเป็นกลุ่มตัวอย่าง อ.อ๋อย จะใช้กระบวนจิตตศึกษาเพื่อชี้ใหครูเห็นว่าไม่มีอะไรผิด ทุกอย่างทำได้หมด ขอให้ผลตกที่เด็กเป็นพอ(ความคิดส่วนตัวอีกแล้ว เพราะในขณะที่ครูกำลังสกัดความรู้ที่ฝั่งในตัวออกมา คุณครูจะไปดูกลุ่มอื่นแล้วเปรียบเทียบกับกลุ่มตัวเอง)

       ในวันต่อมา(23 มีนาคม 2555) ใจหายอยู่นะเราทำเวทีครูกันตามลำพัง เริ่มด้วย อ.ต๋อยเปิดวงด้วยการดูจิต เหมือนไม่เวิร์ก เพราะอ.ต๋อยทำแบบไม่หวังผลเพราะถ้าหวังผลคงต้องใช้เวลาอีกนิดหนึ่ง

        จากนั้นถึงเวทีเรื่องเล่าจากเชียงยืน ข้าพเจ้าได้นำผลผลิตจาก PBLของLLEN มหาสารคาม มาด้วยเพื่อให้คุณครูเห็นว่าเราทำได้จริงๆ  แค่ครูปรับยุทธวิถีการสอนนิดเดียว ก็ได้ผล จะเกิดวงPLC ขนาดมหึมาเลยละ เหมือนเด็กกลุ่มนี้ นักเรียนจากเชียงยืนได้รับความประทับใจและคำชื่นชมไปเต็มที่ทีเดียว โดยเฉพาะ น้องเนส(ศรินญา บุญอาจ) ถามกลับไปว่าทำไมต้องเอา O-net มาใช้กับพวกเขาด้วยโดยเฉพาะการนำผลไปใช้กับการสอบเข้าศึกษาต่อด้วย รู้สึกว่า อ.ต๋อยจะลืมเบรค อีกแล้ว  ครูอ๋อยมากระซิบว่า อย่าให้ อ.ต๋อยลืมกิจกรรมหนูนะ หนูตั้งใจเตรียมตัวมาอย่างดี(ฮาๆ นี้แหละสุดยอด ครูฟา)

         ครูอ๋อย (จากหนองเหล็ก) ใช้กระบวนจิตตศึกษาเพื่อชี้้ให้คณุครูเห็นว่าไม่มีอะไรผิด เยี่ยมมากๆ สมกับความตั้งใจ คณุครูไม่เครียดเริ่มมีใจ(สังเกตจากครูสนุกสนานมาก) 

        ตอนบ่ายด้วย "ผ่อนพักตระหนักรู้" (ชอบ เพราง่วงแล้ว) ทำให้ครูรู้ถึงความผ่อนคลาย โหมดการเรียนรู้ของสมอง ครูบางท่านจะจัดอย่างนี้ที่โรงเรียน (ฮา) ต่อด้วยกิจกรรม Brain Gym ฝึกสมองจาก ครูสุกัญญา มะลิวัลย์ จากเชียงยืนพิทยาคม  กี่ครั้งก็ยังสนุกสนาน เหมือนเดิม ข้าพเจ้ก็ จีบ แอล ไม่ได้อีกเหมือนเดิม(ฮา)

        และกิจกรรมสุดท้าย"อาทิตย์ส่องแสง" โดยแบ่งกลุ่มตามโรงเรียนเสนอแนวความคิด PBL อย่างบริบทของตนเอง ณ เวลานี้ เรามีชาวต่างชาติมาร่วมกิจกรรมด้วย ข้าพเจ้าชอบมาก ที่เขาบอกว่าต้อง open mind และL.B.D(Learning by doing เขาบอกว่าเด็กไทยเรียนมาก  แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ในช่วงเช้า เราบอกว่า การสอนด้วยโครงงานเป็นเพียงแค่กิจกรรมเดียว ของPBL เท่านั้น แต่เทรนออกมา แนวโครงงานเกือบทั้งหมด มีบางโรงที่นำเสนอบทบาทสมมุติ ข้าพเจ้า(ในฐานะคุณเอื้อโดยความจำเป็น ต้องรักษาเวทีไว้ เนื่องจาก อ.ต๋อยติดธุระด่วน) ได้อธิบาย ลักษณะอื่นของPBL เพิ่มเติม

     จึงเป็นข้อสังเกตว่า ถ้าเปิดวงต่อไปต้องมีตัวอย่างPBL อย่างหลากหลาย

ทีมครูอำนวย(จำเป็นเกือบทุกคนออกงานแรกหมด อยู่ประมาณ สองสาม เวที โลดแล้วละ อ.ต๋อย)

ครูอ๋อย บอกว่าห้ามลืมกิจกรรมหนู  หนูตั้งใจไว้แล้ว เยี่ยมมากคุณน้อง

 ต่างระดม PBL ตามบริบทโรงเรียนของตน

หมายเลขบันทึก: 483178เขียนเมื่อ 25 มีนาคม 2012 15:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 มิถุนายน 2012 12:26 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
  • ช่วงแรกเริ่ม ผมพยายามจะดึงความสนใจและเชื่อมั่น โดยใช้หลักให้ทุกคนรู้สึกถึงความจริงที่ทุกคนมองข้าม.....ซึ่งผมประทับใจมาก เรื่องที่เล่าเป็นเรื่องจริง (ผมต้องพูดบนฐานความจริงเสมอ) ..... แต่ไม่เวิร์กมั้ง
  • เพราะเริ่มมีเสียงคนคุยกัน ไม่สามารถสะกดได้ทั้งห้อง (กลุ่มอาจจะใหญ่เกินไป คนไม่ได้ถูกเลือก กรอบหน้า ฟุ้งมากเกิน) จึงพยายามควบคุมไม่ให้คนที่คุยรบกวนคนอื่น ด้วยการให้สังเกต ความสงสัย กับใจที่อยากพูด วัตถุประสงค์คือ ไม่ให้ที่หลุดจากการสะกดในขั้นแรก ปิดปากก่อนจะนำสู่โมเดลเชียงยืน ............. ผมว่าวันนั้นถึงไม่ดี แต่ก็คงไม่แย่มาก....ฮา
  • ตอนเริ่มเล่า ใจผมวิ่งไปวิ่งมา รู้สึกว่าผมซักมากไป แต่อีกใจก็กลัวว่าคนฟังจะไม่เข้าใจ บางขณะคิดว่าตัดบทพูดเหมือนนักข่าวเกินไป แต่บางขณะใจ ก็รู้สึกว่าต้องกระชับสู่ประเด็นและเป็นเรื่อง ..... ผมว่าผมก็ต้องฝึกอีก.... และคุณอาก็ต้องฝึกเล่า "เรื่องเล่าเร้าพลัง" อีกเช่นกัน...ฮา
  • โดยรวมแฮปปี้มากครับ โดยเฉพาะครูอ๋อยเยี่ยมมาก แต่มีบางอย่างยังค้างอยู่ในใจผม แต่สักวันครูอ๋อยจะเข้าใจเอง และเปลี่ยนอย่างภูมิใจเอง

ใช่แล้ว อ.ต๋อย ต้องฝึกทุกอย่างเลย

การคิดได้เริ่มฝึกตั้งแต่เข้าLLEN แล้ว แต่ก่อนไม่เคยคิดไม่เคยวางแผน ทำไปโดยอัตโนมัติ แต่เดี๋ยวนี้ทุกอย่างต้องคิดอย่างไตร่ตรองก่อน จากที่ไม่เคยถามคนอื่น เป็นต้องเข้าไปขอความคิดเห็น

เคยได้ยินแต่เรื่องเล่าเร้าพลัง เมื่อมาเล่าเรื่องเร้าพลัง ยังไม่รู้เริ่มต้น จุดไหน มันเร้าใจ (มันคนละมุมมองนะ อ.ต๋อย อาคิดว่า..ให้ครูเห็นเชิงประจักษ์เลย...) ต้องฝึกอีกมาก

ไม่แต่เรื่องเล่า อย่างเดี๋ยว อ.ต๋อย การสรุปประเด็นด้วย ดีนะที่ไหวตัวทัน ต้องรีบเสริมประเด็นที่ขาดไป ไม่ง่ายดังที่คิดนะค่ะ

สรุปแล้ว วันที่ 31 ต้องหลบเข้าอบรม ครูฟา นะ อ.ต๋อย ชวน อ.อ๋อย อ.ป๋องเข้าด้วย แล้วคุณ อ้อ จองที่ไว้ให้ไหมนี้? (จะได้ไม่เสียเที่ยว ได้นกหลายตัว ) เพราะท่านมีความตั้งใจจริง เสียสละเวลาจริงๆๆ

ขอบคุณ อ.ต๋อย ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท