...กล่าวฝ่ายนักวิชาการไทย ไม่ต้องพูดถึงว่ากำลังรับใช้ฝรั่งระดับใด เพราะคนชั้นสูงพวกนี้ไม่เคยคิดอะไรได้เอง จำต้องลอก (และยกอ้าง) แนวคิดฝรั่งเสมอมา แม้แต่การนำเสนอแนวคิดใด ไม่ว่าจะโดยการพูดหรือเขียน ก็จำต้องทำการวงเล็บภาษาฝรั่งไว้ด้วยเสมอ เพื่อแสดงว่า ตูข้าเป็นขี้ข้าฝรั่งนะโว้ย ซึ่งตูข้า “เก่ง” ระดับนี้แล้วไซร้ สูเจ้าต้องฟังตูข้าสิ ยอมเป็นทาสความคิดตูข้าสิ
เราชาวไทยได้ถูกล้างสมองมานมนาน...ทีละน้อย...ให้คิดว่าการทำอะไรที่สูงส่งต้องทำแบบฝรั่งเท่านั้น เช่น พัฒนาประเทศแบบฝรั่ง แต่งตัวแบบฝรั่ง กิน-ขี้-ปี้-นอน แบบฝรั่ง ฟังดนตรีแบบฝรั่ง พูดด้วยคำศัพท์ฝรั่ง ...จะยกเว้นก็คือ คิดแบบฝรั่ง ที่เป็นเหตุเป็นผลนั้น..ดูเหมือนว่าคนไทยเรา “ลอก” ไม่เป็นเอาเสียเลย
ตามโรงแรมหรูในกรุงและหัวเมืองในต่างจังหวัดหลายแห่ง เป็นไปถึงกับว่าไม่มีอาหารไทยให้กินกันแล้ว ทั้งที่บ่อยครั้งมีแต่คนไทย ไม่มีฝรั่งมาพักแรมเพื่อกินอาหารเหล่านั้นแม้แต่สักคนเดียว
..ถ้าใครหยิ่งอยากนิยมความเป็นไทยก็ต้องออกไปกินข้างถนนสกปรกนอกโรงแรมโน่น เพราะในโรงแรมหรูนี้คือสถานที่อันสูงส่ง ที่อนุญาตให้กินได้แต่เพียงเฉพาะอาหารฝรั่งของผู้เจริญแล้วเท่านั้น
แบบนี้มันเลวร้ายยิ่งกว่าเสียกรุงให้พม่าสองครั้งเสียอีก ...มันก็เสียกรุงครั้งที่ 3 นั่นแล..ซึ่งสาหัสเลวร้ายกว่าสองครั้งที่ผ่านมามหาศาล แต่อนิจจา..เรากลับยิ้มร่า นิยมชมชื่น ปรบมือกันสนั่น กับการเสียกรุงครั้งนี้
เพราะครั้งนี้ เราสมัครใจเสียกรุงกันทั้งประเทศ โดยที่อริราชศัตรูไม่ต้องออกแรงเหนี่ยวไกกระสุนแม้แต่ครั้งเดียว
...คนถางทาง
ขงเบ้งเล็งเห็นประเด็นชี้
ว่าเรื่องนี้ควรว่าด่าพี่เหลิม
ควรรักชาติรักถิ่นแผ่นดินเดิม
ไม่ควรเติมมือตีนให้ศัตรู
http://www.youtube.com/watch?feature=endscreen&NR=1&v=jV3OsbM5VjA