บทความจากหนังสือพิมพ์แนวหน้าฉบับวันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2555 ติดตามอ่าน Blog ย้อนหลังได้ที่ลิงก์ข้างนี้ครับ http://www.naewna.com/allnews.asp?ID=97&HL=0&no=1 ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง ทักษิณ - ยิ่งลักษณ์ คงไม่ใช่แค่สมการยกกำลัง 2 (บทเรียนจากความจริง กับดร.จีระ) |
สัปดาห์นี้ข่าวใหญ่ที่สุดน่าจะไม่หนีเรื่อง ระเบิดกลางกรุง ผลกระทบต่อการระเบิดครั้งนี้เป็นข่าวไปทั่วโลก Herald Tribune ลงรูปใหญ่หน้าหนึ่ง เมื่อวันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ผ่านมา * บทบาทของคุณสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ น่าจะสูงขึ้น แต่มีน้ำยา มีฝีมือในการเมืองระหว่างประเทศหรือเปล่า?หรือแค่ออกพาสสปอร์ต * บรรดาสำนักข่าวกรองของไทยทั้งหลาย ต้องทำงานหนักขึ้น * สภาความมั่นคง * หรือสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมาผมอดนึกถึงงานพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของผม ที่ทำให้เจ้าหน้าที่ระดับกลางที่สำนักข่าวกรองแห่งชาติมาหลายครั้ง โดยเฉพาะภายใต้การนำของคุณสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ยังจำได้ดีว่า บทบาทหน้าที่นักการข่าวกรองของไทยคือระดับ CIA ของอเมริกา ต้องดูทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผมเน้นให้ข้าราชการระดับกลางที่สำนักข่าวกรองมี * ปัญญา * มี Network (เครือข่าย) * มีความคิดสร้างสรรค์ * มีจินตนาการ * นำไปใช้ให้เกิดนวัตกรรม * มีการเก็บข้อมูลและทำวิจัย ภาพ การระเบิดกลางกรุง กรุงเทพฯ ใน Herald Tribune เมื่อวันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ผ่านมา ทักษิณ ชินวัตร, ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คงเห็นแล้วว่าปัญหาก่อการร้ายข้ามชาติประเทศไทย ต้องการคนเก่งและคนดีมาช่วยแก้ปัญหาให้สำเร็จ นักการเมืองที่มีอำนาจ บางครั้งจะใช้หน่วยงานเหล่านี้ ทำเพื่อจับผิดคู่แข่งทางการเมือง ไม่ได้ดูว่า จะต้องฝึกเจ้าหน้าที่ให้เข้าใจและแก้ปัญหาระหว่างประเทศมากขึ้น ถ้าผมเจอคุณสุวพันธ์อีกจะแนะนำว่า ท่านจะต้องคิดแบบอาจารย์วิชา มหาคุณ ว่าข่าวกรองไทยกับข่าวกรอง ASEAN ต้องร่วมกันอย่างหนัก รวมทั้งข่าวกรองของโลกด้วยเพื่อผนึกกำลังกันต่อต้านการก่อการร้ายข้ามชาติ ไทยเป็นมิตรกับประเทศทุกประเทศในตะวันออกกลาง เพราะมีประโยชน์แตกต่างกับสหรัฐหรืออิสราเอลและไทยก็ต้องหลุดจากความคิดเดิมๆ เดินตามนโยบายอเมริกาเช่นในอดีต สัปดาห์นี้ผมอยากจะมองการเมืองไทยซึ่งคนอื่นอาจจะยังไม่ได้มอง ซึ่งอาจจะผิดหรือถูกก็ได้ แล้วแต่มุมมองผู้อ่านนำไปพิจารณาดูให้รอบคอบ เรื่องนี้ก็คือเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพี่ชายกับกับน้องสาว ทักษิณ - ยิ่งลักษณ์ ซึ่งก่อนจะมาเป็นนายกฯตัวจริง ผมคิดว่าความสัมพันธ์ระดับหนึ่ง น้องสาวเชื่อฟังพี่ชายทำตามทุกอย่างที่พี่ชายสั่งหรือต้องการ เป็นนายกฯได้กว่า 6 เดือน ผมก็คิดว่าอาจจะเป็นความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง คนส่วนมาก คงคิดว่า พี่น้องคงคิดคล้ายๆ กัน หรือที่นักข่าวพูดเรื่อง โคลนนิ่ง ว่า Gene (ยีน) ตัวเดียวกัน น่าจะมีอะไรคล้ายๆ กัน คุณยิ่งลักษณ์เคยพูดว่าโคลนนิ่งจากพี่ชายเรื่องความฉลาดเฉลียว จากการสังเกตวิธีการทำงานของคุณยิ่งลักษณ์ ก็จะเห็นว่าเริ่มมีสัญญาณบางอย่างเปลี่ยนไป ทางดีหรือไม่ดีก็คงจะต้องดูต่อไป ประการแรก เป็นนายกฯของคนไทย คงจะต้องมีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ไม่ใช่ฟังแต่คำสั่งจากพี่ชายตลอดเวลา เพราะตำแหน่งนายกรัฐมนตรีบังคับให้คิดเพื่อส่วนรวมมากขึ้น ตัวอย่างเช่น การเชิญพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ มาร่วมงาน "รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย" เป็นแนวคิดของใคร ทักษิณเห็นด้วย 100% หรือไม่น่าติดตาม * การปรับ ครม.แบบบ้าเลือด 16 ตำแหน่ง คุณยิ่งลักษณ์เห็นด้วยหรือไม่? * การปรับครั้งนี้ มีคนพูดให้ผมฟังว่า ในการประชุมคนที่คุณยิ่งลักษณ์ สั่งการและควบคุมได้ดีก็คือ รองนายกฯกิติรัตน์ ณ ระนอง คนอื่นๆ อาจขึ้นตรงกับนายใหญ่หมด ทำให้การบริหารงานเป็นไปด้วยความลำบาก และประเด็นสุดท้าย ลึกๆ ชีวิตของคุณยิ่งลักษณ์กับคุณทักษิณ อาจจะไม่เหมือนกัน คุณยิ่งลักษณ์อาจจะมีจุดยืนหรือมีความคิดของตัวเองแตกต่างเพราะถึงเป็นน้องสาวอาจจะไม่ทะเยอทะยานการเมืองเหมือนพี่ชายและอายุน้อยกว่ามีวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน ยิ่งเป็นนายกฯได้เห็นข้อเท็จจริง อาจจะมองออกว่าประเทศไทยในระยะยาวจะไม่ ยั่งยืนเพราะระบบทักษิณ ซึ่งเป็นพี่ชายที่มีแนวคิดทางการเมือง เช่น เล่นการเมืองแบบรุนแรง ดึงเอากลุ่มต่างๆ เข้ามาเล่นการเมืองเกิดการขัดแย้งกันในอนาคต และตัวเองไม่ได้สัมผัสกับความเจ็บปวดจากการเมืองพี่ชาย สัญญาณดังต่อไปนี้น่าจะสำคัญ 1. การควบคุมสั่งการของคุณทักษิณต่อน้องสาว จากนี้ไปจะเป็นอย่างไร? 2. น้องสาวมีข้อมูลที่แท้จริงในฐานะนายกฯมากขึ้น สามารถโต้ตอบ ต่อรองกับคุณทักษิณได้มากขึ้นหรือไม่ และคุณทักษิณจะยอมรับน้องสาวได้มากขึ้นหรือไม่ หรือคุณยิ่งลักษณ์อาจจะฉลาดพอที่จะทำตัวเป็นน้องสาวที่หลุดจากแนวคิดเดิมๆ จากการเมืองคุณทักษิณเริ่มหันมาดูตัวเองว่าฉันเองก็มีสติปัญญาไม่ใช่เป็นหุ่นเชิดอีกต่อไป แนวคิดของผมดังกล่าวอาจจะผิดก็ได้เพราะเราอยู่ข้างนอกอาจจะมองทุกๆ อย่างไม่ครบถ้วนและลึกๆ ก็ไม่เข้าใจความสัมพันธ์ของครอบครัวจึงเป็นแค่แนวคิดเพื่อพิจารณา แต่มั่นใจว่า ความสัมพันธ์ระหว่างพี่ชาย - น้องสาวคู่นี้ คงไม่ใช่สมการยกกำลัง 2 แน่นอน น่าจะเป็นสมการยกกำลัง 5 ด้วยซ้ำไป เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศ [email protected] www.gotoknow.org/blog/chiraacademy แฟกซ์ 0-2273-0181 |
เป็นข้อมูลที่ดีครับ สถานการณ์อาจดีขึ้น หรือ เลวลงก็เป็นได้ แต่เราควร assume the worst scenario ไว้ก่อน เพื่อความปลอดภัย