สวัสดีสัปดาห์แห่งความรักครับทุกท่าน
ท่านเคยได้ยินคำนี้มั้ยครับ? "บูรณาการ" ตอนแรกฟังดูก็ยังงงงงนะครับว่ามันคืออะไร ได้ยินแต่ผู้ใหญ่หรือผู้บริหารพูดกันว่า "ต่อจากนี้ไปเราจะต้องทำงานกันแบบบูรณาการนะครับ" บรรดาลูกน้องก็รับคำกันถ้วนหน้า แล้วเดินออกมาเกาหัวแกรก ๆ บ่นกับตัวเองว่า "ทำยังไงวะ ไอ้บูรณาการเนี่ย" ผมเคยไปถามผู้เข้ารับการอบรมแล้วก็ได้คำตอบว่า "ซ่อมวัด" ดังที่เคยได้ลงไปในบันทึกก่อนหน้านี้แล้ว
"บูรณาการ" พูดกันง่าย ๆ ก็คือ รวม ร่วม (ไม่ต้องร้วมนะครับ) โดยไม่สามารถแยกออกจากกันได้ ถ้าขาดองค์ประกอบไปหนึ่งไปงานก็ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ เคยมีอาจารย์ของผมท่านหนึ่งได้เปรียบเทียบเอาไว้ว่า "บูรณาการ" ก็เหมือนกับ "น้ำเชื่อม" เรารู้อยู่ว่าในน้ำเชื่อมนั้นมีน้ำตาลเป็นส่วนผสมอยู่ แต่เรามองไม่เห็นน้ำตาลเพราะถูกกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน และเราไม่สามารถหยิบน้ำตาลออกจากน้ำเชื่อมได้ ซึ่งต่างจาก "ประสาน" ที่อาจารย์ผมเปรียบเหมือน "พริกกะเกลือ" ที่เราไว้จิ้มผลไม้ เรามองเห็นว่าตรงไหนเป็นเกลือ น้ำตาล พริก ถ้ามีความพยายามซะหน่อย เราก็สามารถแยกส่วนผสมออกจากกันได้
การทำงานแบบบูรณาการจึงเป็นการทำงานร่วมกันของหน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ ที่ต้องนำความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญของแต่ละแห่งมาร่วมด้วยช่วยกัน และไม่สามารถขาดหน่วยงานใด หน่วยงานหนึ่งได้ การคิดแบบบูรณาการ จึงเป็นวิธีการคิดด้วยการใช้ความคิดสองขั้วที่ตรงข้ามกันให้มาประสานเข้าด้วยกันอย่างบูรณาการ เพื่อให้เป็นคุณูปการที่หลากหลาย แทนที่จะคิดในลักษณะของนักคิดแบบเดิม ๆ ที่มักจะยอมรับต่อการที่จะต้องเสียอะไรไปสักอย่าง เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการมาหนึ่งเป็นการแลกเปลี่ยน ดังนั้น การคิดเชิงบูรณาการจึงมีประโยชน์ที่จะช่วยให้ท่านไม่จำเป็นต้องได้อย่างเสียอย่าง แต่ท่านจะได้ทุกอย่างที่ท่านต้องการ
การคิดเชิงบูรณาการมีประโยชน์ต่อการทำอะไรบ้างในงานของท่านเอง ช่วยให้ท่านสามารถวิเคราะห์ความเสี่ยงได้อย่างรอบคอบ ช่วยให้ท่านสามารถวางแผนงานได้อย่างครบถ้วนตามขั้นตอนและระยะเวลา ช่วยให้ท่านสามารถบริหารทรัพยากรทางการบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ การทำงานเชิงบูรณาการจึงเป็นการทำงานที่เพิ่มพลังทวีคูณให้กับทีมงานและงานของท่านให้ประสบความสำเร็จ
ขอบคุณครับ
อ.กฤติพงศ์ เดชส่งจรัส Go2Getoutcome
ท่านคิดà¹à¸¥à¸°à¹€à¸‚ียน ได้ข้à¸à¸„ิด ปà¸à¸´à¸šà¸±à¸•à¸´à¹à¸¥à¸°à¹€à¸‚้าใจได้ง่าย ขà¸à¸šà¸„ุณครับ