ปริญญาโทต๊อง
ใกล้ถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่สังคมร่วมกันสร้างกระแส จนหลายคนยอมรับวัฒนธรรมวันแห่งความรักของต่างชาติ ในหลายรูปแบบต่างๆไม่ว่าจะเป็นซื้อดอกกุหลาบ หรือสิ่งของสีแดงให้กันและกัน และมีกิจกรรมต่างๆที่ห้างร้านต่างกระพือโหมประชาสัมพันธ์ให้หนุ่มสาวกระตือรือร้นอยากให้ถึงวันนี้ ที่ชายหญิงจะต้องแสดงความรักต่อกันทั้งที่ถูกต้องหรือผิดศีลธรรม ถูกต้องคือแต่งงานกันถูกต้องตามกฏหมายนับว่าเป็นสิ่งดี ที่ผิดศีลธรรมคือหนีตามกัน หรือหลายคนว่าเป็นวันเสียตัวไปงั้น คิดกันแบบเด็กๆที่ไม่ได้มองไกลตัว สนุกเพียงความต้องการของอารมณ์พาไป สุดท้ายก็จบปริญญาโท(โทต๊อง)ก่อนปริญญาตรี ที่มาพูดนี่เพราะเสียใจว่าครูพูดเตือนนักเรียนแล้ว และช่วยแก้ปัญหาให้กับนักเรียนที่ท้องก่อนแต่ง นักเรียนก็ยังไปเอาเด็กออกอีก เพราะอะไร คำพูดของครูไม่ได้ช่วยให้พ่อแม่หรือนักเรียนคิดได้เลยนะ จึงอยากให้หลายคนที่คิดผลีผลาม คิดให้รอบคอบก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้นในวันที่หลายคนมองว่าเป็นวันที่เราต้องแสดงความรักกัน การที่เอาวัฒนธรรมต่างชาติมาใช้ ก็มิใช่ว่าต้องเลียนแบบเขาไปหมด เอาสิ่งที่ดีมาประยุกต์ใช้กันดีกว่า คนที่ไม่มีแฟนก็ไม่ต้องไปน้อยใจ ไม่ต้องอายว่าตัวไม่มีแฟน รักใครพ่อแม่ก็รักได้ ครูอาจารย์ก็รักได้ รักแบบสร้างสรรค์ไม่ใช่รักเพื่อทำลาย อดเปรี้ยวไว้กินหวานไงละ คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็เช่นกัน สมัยนี้ยอมรับว่ายุคโลกออนไลน์พ่อแม่หลายคนตามไม่ทันลูกหรอก ต้องยอมรับและหลอกล่อ อย่าให้ลูกไกลตานัก ฝากเด็กสาวทั้งหลายไม่มีใครรักลูกมากเท่าพ่อแม่หรอกนะ คิดใหม่ คิดให้มากๆ นานๆ ครูก็รักและหวังให้สาวๆทุกคนมีรักที่สมหวังทุกคน
สวัสดีครับครู ...เห็นชื่อเรื่องนึกว่าคนที่จบป.โทมีอาการต๊อง.....ที่แท้ต๊องก่อนจบป.ตรี
อยากเตือนเด็กๆและผู้ปกครอง สอนนักเรียนมาสามสิบปี บอกได้เลยว่าพบเห็นหลายคน น่าเสียดายเด็กสาวใจแตกเรียนไม่จบ คนมีลูกชายไม่เสียหายเท่าลูกสาว
บันทึกของคุณครู ทันสมัยคมกริบ ทุกบันทึกเลยครับ
ขอบคุณคนบ้านไกลกับคุณโสภณที่ติดตามแสดงความคิดเห็นและให้กำลังใจ ดิฉันคลุกคลีกับเด็กมัธยมมาหลายสิบปี เด็กวัยนี้กำลังอยากเรียนรู้ชีวิตคู่ รู้ไม่พอ อยากลองด้วย ทั้งๆที่ก็รู้ว่ายังไม่พร้อมแต่บางคนก็ยังพลาด แล้วสุดท้ายก็แก้ปัญหาผิดๆ บางทีเราก็เข้าไปยุ่งมากไม่ได้ เดี๋ยวเสียผู้ใหญ่ ได้แต่บอกแนวทางการดำเนินชีวิตที่จะเจ็บน้อยที่สุด แต่ใครจะปฏิบัติหรือไม่ก็แล้วแต่ว่าเขาจะยอมรับไหม บางทีดิฉันยอมรับว่าสอนลูกคนอื่นมากกว่าสอนลูกเราเสียอีก ทั้งสอนให้รู้และป้องกัน ไม่ให้เกิดเรื่องไม่ดีต่างๆแก่ทุกคนดิฉันเองก็มีลูกสาวสองคน ก็ต้องเรียนรู้โลกออนไลน์เพื่อเข้าถึงวัยรุ่น ถามว่าทุกวันนี้เล่น F หรือไม่ก็ออนเอ็ม ก็ใช้กับลูกบ้าง ลูกศิษย์บ้างให้กำลังใจ ให้ความรู้นอกห้องเรียน สารพัดที่คิดว่าทำได้ เพราะบางทีเด็กมักไม่เข้าใจผู้ใหญ่ ลองเราเข้าไปอยู่ในใจเด็กเขาก็จะไว้วางใจเล่าให้เราฟังเองนั้นแหละ