หนูไม่อยากกินผัก
ปัญหาหนึ่งของเด็กที่ไม่ยอมกินผัก ส่วนหนึ่งมาจากการที่ผู้ปกครองไม่ฝึกให้กิน และอีกส่วนหนึ่งจากการที่คุณแม่ไม่ค่อย (หรือไม่เคย) ให้เด็กกินผักต้มเปล่าๆเป็นกับข้าว แต่ใส่ผักผสมลงในข้าวตุ๋นตลอดมา ทำให้เด็กไม่คุ้นเคยกับรสชาติของผักล้วนๆ เมื่อคุณแม่ป้อนผักจึงเอาลิ้นดุนออกมาหมด เพราะฉะนั้นคุณแม่อาจใช้วิธีหั่นผักละเอียดๆแล้วใส่ปนลงไปในอาหารอื่นๆด้วย เช่น ไข่เจียวใส่ผัก หรือผสมลงในหมูสับ ทำหมูทอดใส่ผัก เป็นต้น
เปลี่ยนหน้าตาผักให้น่าทาน
เปลี่ยนรูปร่างหรือนำผักไปเป็นส่วนผสมในอาหารแบบอื่น เช่น หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ทำเป็นวุ้นน้ำผลไม้ หรือเมนูจานโปรด เช่น หั่น แครอทเป็นชิ้นเล็กๆ ผสมปนอยู่กับน้ำซุป หมูปั้นผสมแครอททอด ที่สำคัญ บนโต๊ะอาหารของครอบครัวควรมีเมนูผัก อย่างน้อย 1 เมนูอยู่ด้วย เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีในการกินผักให้กับลูก
เปลี่ยนเมนูบ่อยๆ
ไม่ให้เกิดความจำเจ หรือเปลี่ยนความคิดของลูกในการเกลียดผักเสีย เช่น ลูกไม่ชอบกินข้าวโพดอ่อน หรือถั่วฝักยาว แทนที่จะผัดให้เห็นเป็นรูปร่างผักเหล่านั้นก็อาจนำมาชุบแป้งทอดแล้วบอกลูกว่าเป็นอาหารอีกอย่างหนึ่งไป เช่น เดิมเคยผัดถั่วฝักยาวให้กิน ก็เปลี่ยนเป็นชุบแป้ังทอดเป็นท่อนๆ แล้วบอกลูกว่าเป็นแป้งทอดไส้ถั่วหรือถั่วใส่เสื้อ อาจนำผักที่ลูกไม่ชอบมาแปลงรูปใหม่ เช่น การแกะสลักผัก เป็นต้น
การสร้างแรงจูงใจ
ตั้งชื่อผักให้น่ากินมากขึ้น เช่น ฟักทองจอมพลัง นางฟ้าผักกาด อาจทำให้ลูกรู้สึกสนใจนึกอยากกิน
- ให้พี่เลี้ยงชักชวนลูกสนุกกับการกินผัก ด้วยการใช้นิ้วมือหยิบผักเข้าปากเอง เช่นแครอทต้ม ถั่วฝักยาวต้มหั่นเป็นท่อน ในที่สุดลูกก็จะกินผักเองได้
- เมื่อลูกกินผักได้ ควรชมเชย เป็นกำลังใจ เพื่อให้ลูกอยากเรียนรู้อาหารชนิดใหม่ๆ ครั้งต่อไป
- การให้พี่เลี้ยงสังเกต บันทึก หรือสอบถามว่าลูกชื่นชอบ พอใจ หรือปฏิเสธกับผักชนิดใดบ้าง ก็สามารถช่วยให้คุณแม่รู้จักนิสัยการกินผักของลูกได้ค่ะ