เราจะมั่นใจในประสิทธิภาพและคุณภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่เราสร้างขึ้นได้อย่างไร
เราจะมั่นใจในประสิทธิภาพและคุณภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่เราสร้างขึ้นได้อย่างไรนั้น เราควรรู้พื้นฐานสำคัญที่จะทำให้ทราบว่า บทเรียนคอมพิวเตอร์ที่จะเลือกใช้นั้นมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด คือ
1. การประเมินบทเรียนคอมพิวเตอร์ โดยผู้เรียน
มีวัตถุประสงค์เพื่อหาประสิทธิภาพและประสิทธิผลของบทเรียน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบฝึกหัด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบสอบถามเจตคติ และแบบรายงานผลการเรียนรายบุคคลที่บันทึกไว้ในโปรแกรมบทเรียน มีวิธีการประเมินอยู่ 3 ขั้นตอน คือ
1) การทดสอบรายบุคคล เป็นการหาข้อบกพร่องของบทเรียน และการทำงานของโปรแกรม ข้อมูลจะได้จากการสังเกต การสอบถาม การสัมภาษณ์ และอาจได้จากคะแนนการทำแบบฝึกหัด และการทดสอบด้วย
2) การทดสอบกลุ่มย่อย เป็นการทดสอบการทำงานของบทเรียน และการทำงานของโปรแกรม ข้อมูลจะได้จากคะแนนแบบฝึกหัดในบทเรียน คะแนนการทดสอบก่อนเรียน และคะแนนการทดสอบหลังการเรียน และอาจรวมถึงข้อคิดเห็นของผู้เรียนที่มีต่อบทเรียน การ
สังเกตของผู้ทดลอง
3) การทดสอบภาคสนาม เป็นการนำบทเรียนที่ได้ปรับปรุงจากการทดสอบกลุ่มย่อยแล้ว นำไปใช้กับกลุ่มเป้าหมายจริง ข้อมูลได้จากแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบฝึกหัดในบทเรียน และ/หรือแบบสอบถามเจตคติของผู้เรียน ส่วนข้อมูลที่ได้จากแบบรายงานผลการเรียนรายบุคคลที่ถูกบันทึกไว้ในโปรแกรมบทเรียน จะมีข้อมูลรายละเอียดที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับผู้ออกแบบบทเรียนและโปรแกรมเมอร์จะได้ออกแบบไว้ แต่อย่างน้อยที่สุด โปรแกรมบทเรียนจะต้องมีการบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับ เวลาในการเรียน คะแนนการทำแบบฝึกหัด คะแนนการทดสอบ (ถ้ามีในโปรแกรม) จำนวนครั้งการตอบ จำนวนครั้งของการ เปิดกรอบย้อนกลับ เป็นต้น 2. การประเมินบทเรียนคอมพิวเตอร์ โดยผู้เชี่ยวชาญ
มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบความถูกต้องด้านเนื้อหา หาข้อบกพร่องของบทเรียนและการทำงานของโปรแกรม ตลอดจนคุณภาพทางด้านเทคนิค ผู้เชี่ยวชาญที่มีบทบาทสำคัญในการประเมิน ได้แก่
1) ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบการสอน
2) ผู้เชี่ยวชาญด้านการวัดผล
3) ผู้เชี่ยวชาญด้านการสอน
4) ผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหา
5) ผู้เชี่ยวชาญด้านนักเทคโนโลยีการศึกษา
6 )นักโปรแกรมเมอร์
3. การหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์
การหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ตามแนวคิดนี้พัฒนามาจากการหาเกณฑ์มาตรฐานของบทเรียนโปรแกรม โดยการหา
1) ประสิทธิภาพกระบวนการ (E1) ซึ่งออกมาในรูปของคะแนนในการทำแบบฝึกหัดและ/หรือคะแนนในการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ในการสอบก่อนการเรียน
2) ประสิทธิภาพผลลัพธ์ (E2) ได้มาจากคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ผู้เรียนทำได้คิดเป็นร้อยละเท่าไรของคะแนนเต็มในการทำแบบทดสอบหลังเรียน
แหล่งข้อมูล : http://vod.msu.ac.th/
( ศูนย์พัฒนาทรัพยากรการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม )