ก่อนนั้นผมรู้จักกับคุณแม่ท่านหนึ่ง ซึ่งท่านจะมาวัดทุกวันพระ ทราบว่า เมื่อสามีเสียชีวิตแล้ว ไม่ได้สนใจเรื่องราวใดนอกจาก "ทำอย่างไรให้ลูกห้าคนเติบโตขึ้นมาได้" ด้วยสองมือแม่ ลูกห้าคนเติบโตมีการมีงานทำเป็นฝั่งเป็นฝาเป็นที่เรียบร้อย แม่จึงมีเวลาว่างให้กับตัวเอง เช่น การไปทำบุญที่วัดทุกวันพระหรือวันอื่นใดที่เกี่ยวกับวัด
ขออภัย ผมไม่ได้มีความคิดว่า วัดเท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่งแห่งการสร้างบุญเสมอไป วันนี้เป็นวันพระ ถ้าผมไม่มีโอกาสที่จะไปวัด ผมน่าจะมีที่พึ่งแห่งบุญที่ผมเชื่อบนพื้นฐานของความเชื่อของผมเองด้วยพื้นที่แห่งบุญอื่น ปัญหาคือ "บุญคืออะไร"
วันนี้มีผู้หญิงจำนวนมากที่ปลีกตัวจากครอบครัวหันหน้าเข้าหาวัด เราจะพบว่า เมื่อเราไปวัดจะสังเกตได้ว่า ผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ยังไม่มีการวิจัยว่าทำไมหญิงจึงไปวัดมากกว่าชาย หรือว่า ชายมีบุญพอแล้วจึงไม่ไปก็ไม่อาจทราบได้
เกี่ยวกับเพศ ทุกวันนี้เราเข้าใจกันแล้วว่า ไม่ว่าเพศไหน หมายถึง ชายและหญิง มีสถานภาพที่เท่าเทียมกัน อย่างเช่น ชายเป็นนายกรัฐมนตรีได้ หญิงก็ต้องเป็นได้ เช่นกัน เมื่อชายเป็นผู้แทนของราษฎรได้ หญิงก็ต้องเป็นได้เช่นกัน
การเป็นผู้แทนนั้น ผู้แทนคือปากเสียงของประชาชน ชายและหญิงเท่าเทียมกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อวาน ผมฟังอะไรบางอย่างทางโทรทัศน์ ทำให้เกิดความคิดว่า "อย่าเรียกร้องความเห็นใจเพียงเพราะฉันเป็น "หญิง" เหตุผลคือ ไม่มีหญิงไม่มีชาย ทุกคนมีสถานภาพที่เท่าเทียมกัน
เพราะคุณแม่ที่ผมพูดถึง ก็ไม่ได้เรียกร้องฝ่ายชายให้มาช่วยเลี้ยงลูกเลย เพราะ "หญิง" ทำำได้ อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เราเรียกร้อง นั่นหมายความว่า เราด้อยกว่า และทันทีที่บอกว่า อย่ารังแกฉันเลย เพราะฉันเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง นั่นหมายความว่า เรากำลังบอกว่า หญิงกับชายต่างกัน หรือไม่
หมายเหตุ : บันทึกนี้คือบันทึกความคิด พรุ่งนี้ความคิดนี้อาจเปลี่ยนไป