คิดว่าในชีวิตนี้ สิ่งที่ดีที่สุดที่ได้ทำและทำให้รู้สึกว่ามีชีวิตที่คุ้มค่าแล้ว ไม่มีอะไรที่ต้องการมากไปกว่านี้แล้ว ก็คือการได้เป็นแม่ของลูกๆทั้งสามหนุ่ม
เรียนดีมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยตามกรอบของสังคมที่ขีดๆกันมาโดยไม่รู้สึกท้าทายอะไร เรียนไปตามกฎเกณฑ์ของสังคมตามหน้าที่ ตอนจบปริญญาตรีแล้วทำงานก็มักจะมีคนทักว่าเรียนดีน่าจะเรียนต่อ แต่ไม่เคยคิดชอบระบบการเรียนแบบที่เราผ่านมาทั้งชีวิตเลย ไม่เห็นว่าการเรียนเพื่อให้ได้ปริญญาเพื่อเอามาเพิ่มวุฒิ เพิ่มตำแหน่งหน้าที่เป็นสิ่งสำคัญ แม้เมื่อมีอันต้องเรียนต่อจนจบปริญญาเอกก็ยังเรียกได้ว่าทำไปตามหน้าที่ให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง แต่โชคดีที่การเรียนในขั้นสูงขึ้นนี้ทำให้เรามีความสุขกับการหาความรู้ในแบบที่ได้เรียนรู้จริงๆ ไม่ใช่การป้อนให้แล้วสอบแบบที่เราไม่ชอบ แต่ถึงแม้จะเรียนจนจบปริญญาเอกที่สังคมมักจะยกให้เป็นการเรียนที่สูงมากแล้ว ก็ยังไม่เคยรู้สึกว่า เราเรียนจบแล้ว ยังมีอะไรอีกมากมายที่น่าเรียนรู้ ยังมีอะไรอีกมากมายที่น่ารู้แต่เรายังไม่รู้ ที่บรรยายมานี้ก็เพื่อจะบอกว่าเป็นคนชอบเรียนรู้นั่นเองค่ะ เพื่อที่จะเน้นสิ่งที่คิดว่า มาจนถึงทุกวันนี้ การเรียนรู้ที่สนุกและคุ้มค่าที่สุดในชีวิตก็คือการเลี้ยงลูกทั้งสามหนุ่มมาจนถึงทุกวันนี้นี่เองค่ะ
มีคำคมหลายๆท่อนที่ถ่ายทอดความรู้สึกของเราได้ ขอยกมาเพื่อยืนยันจากประสบการณ์ตรงของตัวเองดังนี้ค่ะ
While we try to teach our children all about life,
Our children teach us what life is all about.
~Angela Schwindtนี่คือสิ่งที่ทำให้ต้องขอบคุณลูกๆค่ะ ตามที่คุณ Angela เธอบอกว่า "ในขณะที่เราสอนเด็กๆในเรื่องต่างๆของชีวิต เด็กๆได้สอนให้เรารู้ว่าชีวิตนี้มีไปเพื่ออะไร"
Children find everything in nothing; men find nothing in everything. ~Giacomo Leopardi, Zibaldone Scelto
"เด็กๆค้นพบได้เสมอแม้ไม่มีอะไรเลย ในขณะที่ผู้ใหญ่ไม่พบว่ามีอะไรเลยทั้งๆที่มีทุกอย่าง" นี่คือความสนุกที่ได้ใช้ชีวิตกับลูกๆมาตลอดเวลาที่เขาเป็นเด็ก เขาจะสอนให้เรามองสิ่งที่เรามองไม่เห็น เขาจะทำให้เรารู้ในสิ่งที่เราไม่เคยคิด เขาจะทำในสิ่งที่เราไม่เคยคิดว่าเราก็ทำได้ เพราะฉะนั้น ดีใจที่ตั้งใจและทำได้มาตลอดที่จะใช้เวลากับลูกในวัยที่เขาเป็นเด็กให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่มีอะไรสำคัญกว่าการมีลูกอยู่กับเรา ใช้ชีวิตกับเรา
Children are the living messages we send to a time we will not see. ~Neil Postman, The Disappearance of Childhood (introduction), 1982
คำคมนี้ที่ทำให้ตั้งชื่อบันทึกว่า การเรียนรู้ที่ทำให้ชีวิตมีความหมายที่สุด เพราะ "เด็กๆคือชีวสารที่เราส่งไปยังเวลาที่เราจะไม่มีโอกาสได้เห็น" นั่นคือ เราสร้างอนาคตให้โลกภายหน้านั่นเอง เมื่อเรามั่นใจว่า ลูกของเราจะเป็นคนดีของสังคมอย่างแน่นอน ก็ทำให้เรารู้สึกขอบคุณที่เขาทำให้เรารู้สึกว่า ชีวิตนี้เราได้ทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับโลกใบนี้แล้ว
เขียนบันทึกนี้ในวันที่ไม่มีลูกอยู่ข้างตัวเลยสักคน เพราะพี่วั้น พี่เหน่นเป็นนักศึกษาที่ใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยในแบบที่เขาเลือก โดยเราเป็นกำลังใจให้เท่านั้น และได้เห็นว่าเขาประคองตัวได้ดีตามสมควร ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง น้องฟุงในวัยรุ่นที่ยังคงอยู่ในกรอบตามสมควร ไม่มีปัญหาวัยรุ่นให้กังวล รู้จักคิด มีความรับผิดชอบ มีเหตุมีผล ก็ไปทัศนศึกษากับโรงเรียน จัดการเตรียมตัวเองทุกอย่างได้โดยคุณแม่ไม่ต้องช่วยอะไรเลย
นอกจากเขียนเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกดีๆที่มีจากการได้เป็นแม่แล้ว ก็เพื่อจะขอให้คุณแม่คุณพ่อคนทำงานทุกท่านที่มีลูกในวัยเด็กที่เล็กกว่า 10 ขวบ ใช้เวลากับลูกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่าเห็นอะไรอื่นสำคัญกว่าเวลาที่เราจะได้เรียนรู้ไปกับลูก สมบัติหรือมรดกอะไรก็ไม่มีค่ากับตัวตนของลูกในอนาคต เท่ากับความรัก ความเข้าใจ ความสนุกสนานที่เรามีให้ลูกในวัยเล็กๆนี้ ลูกบอกเราไม่ได้ว่าเขาต้องการเรามากที่สุด แต่เชื่อเถอะค่ะว่า การได้คุย ได้เล่น ได้มีกิจกรรม ได้ทำอะไรกับเราพ่อแม่ จะเป็นพื้นฐานที่มั่นคงกับชีวิตของลูกในอนาคตยิ่งกว่าแก้วแหวนเงินทองหรือมรดกอะไร
และสิ่งสำคัญอย่างยิ่งอีกอย่างคือ เราอยากให้ลูกเป็นอย่างไร เราต้องเป็นอย่างนั้นให้ได้ ชีวิตจึงมีความหมายเพราะลูกทำให้เราเป็นคนดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ
ขอบคุณสำหรับบทความนี้คะ
พี่โอ๋เป็น role model การทำหน้าที่ ครูที่มหาวิทยาลัยและครูที่บ้าน
บันทึกนี้คงได้กลับมาอ่านบ่อยๆ
ทุกวินาที.. ที่ผ่านมาเป็นการเรียนรู้..
นำบทเรียนมาเป็นครู
ขอบคุณค่ะ
http://www.gotoknow.org/blogs/posts/474678
ไม่อยากได้ยินคำพูดของเด็ก ดังภาพข้างล่าง
แวะมาทักทายพี่โอ๋ด้วยความรักและคิดถึงเสมอ
เห็นด้วยอย่างชื่นชมในความเป็น SUPER MOM ของพี่โอ๋ในการสร้างหนุ่มน้อยทั้ง 3 คน และสร้างแรงบันดาลใจกับหนุ่มใหญ่อย่างดร.ป๊อป ครับผม
อ่านบันทึกนี้แล้วมีความสุขค่ะพี่โอ๋