๑๑๓. งามสีน้ำ(ใจ) ฝีมือนักชีวเคมี มิตรทางวิชาการเทคนิคการแพทย์มหิดล


ผมพ้นจากประสบภัยน้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพมหานครและทั่วประเทศ กลับบ้านไปอยู่สันป่าตองเชียงใหม่ได้ก่อนหน้าน้ำหลากเข้าดอนเมืองเพียง ๒-๓ วัน และหลังจากนั้น แถวเขตทวีวัฒนาและพุทธมณฑล ก็ตกอยู่ใต้น้ำหลากระดับท่วมหลังคารถเก๋งต่อเนื่องเป็นแรมเดือน จึงไม่สามารถขนข้าวของใดๆติดตัวไปด้วยเลย จนแม้กระทั่งบัดนี้ ก็ทำได้เพียงกลับไปที่พัก แล้วค่อยๆเก็บข้าวของใส่กล่องเพื่อเตรียมส่งขนย้ายทางรถยนต์ของบริการเอกชน รอให้เก็บใส่กล่องจนหมดแล้วก็จะขนในคราเดียวกัน

กระนั้นก็ตาม เมื่อช่วงปีใหม่นี้ ผมกับภรรยาก็พากันขับรถปิคอัพไปทำบุญกับแม่ของผมและญาติๆ ที่บ้านเกิดบ้านตาลิน อำเภอหนองบัว นครสวรรค์ แต่เมื่อทำบุญกันเสร็จแล้ว ภรรยาผมก็หารือและนำเสนอความคิดว่า ไหนๆก็อุตส่าห์ขับรถจากเชียงใหม่ลงมาจนถึงนครสวรรค์แล้ว เรายอมเหนื่อย ขับรถเลยไปขนของขึ้นไปเชียงใหม่ก่อนสักเที่ยวหนึ่งดีไหม ผมเห็นด้วยอย่างที่สุด เลยตกลงใจที่จะไปขนของออกจากห้องพักอาจารย์ ที่คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ของมหาวิทยาลัย ที่ศาลายาก่อน

การเลือกไปขนของส่วนตัวออกจากห้องพักที่ทำงานก่อนนั้นมีความเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ดีกว่าการไปขนในช่วงเวลาอื่น นับแต่เหตุผลที่ว่า ความเป็นช่วงวันหยุดเทศกาลนั้น จะทำให้ผมไม่ต้องสร้างความเกะกะวุ่นวายให้กับผู้คน ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลานานและกินพื้นที่การขนของหลายแห่ง นับแต่การขนของออกมากอง การแบกของขวักไขว่หลายเที่ยว การจอดรถขวางการสัญจรของผู้คน การสร้างขยะและความรก โกลาหลไปหมด กว่าจะขนขึ้นรถเสร็จก็คงจะหลายชั่วโมง หากทำในวันปรกติและท่ามกลางสภาพที่คนอื่นกำลังทำงาน นักศึกษาก็ขวักไขว่ ดูแล้วก็คงจะไม่เข้าทีและทำให้ควรแก่กาลเทศะได้ยาก

ที่สำคัญก็คือ การมุ่งที่จะขนของในห้องพักที่ทำงานให้เสร็จเรียบร้อยก่อน ก็จะทำให้คนที่เขารับผิดชอบดูแลสถานที่ ได้ความสะดวกใจที่จะจัดห้องให้อาจารย์คนอื่นๆเข้าไปใช้ห้องพักได้ต่อไป คิดใคร่ครวญดีแล้วอย่างนี้ ผมและภรรยาจึงพากันตรงไปยังมหาวิทยาลัย

ไปถึงก็มืดค่ำพอดี จึงเริ่มเก็บข้าวของจากประมาณ ๑ ทุ่ม ได้น้องเจ้าหน้าที่ของคณะที่ไปนอนเวรเฝ้าอาคาร มีน้ำใจช่วยขนด้วยอีกแรงหนึ่ง ไปเสร็จเรียบร้อยเอาเมื่อเกือบ ๔ ทุ่ม จากนั้นก็เดินทางกลับขึ้นเชียงใหม่กันเลย เมื่อถึงบ้านที่สันป่าตอง ก็ขนข้าวของอย่างอื่นเก็บไว้รอจัดพร้อมกับอีกทั้งหมดที่ยังไม่ได้ขนย้าย แต่ก็มีบางชิ้นที่ต้องแกะออกมาอ่าน ชม แล้วก็ทำให้มีรูปเขียนตบแต่งห้องทำงานชั่วคราวในบ้านพอดีไปก่อน

Large_dr_kanokwan_chinese_painting_5

รูปเขียนนี้ อาจารย์ ดร.ภัทรียา กิจเจริญ หรืออาจารย์เดียร์น้องสาวผู้น่ารักที่คณะฯ บอกว่า ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กนกวรรณ กิตตินิยม หรืออาจารย์เปิ้ล จากคณะเทคนิคการแพทย์มหิดลของเรา ได้หอบหิ้วมาหาผมที่คณะฯ ๒-๓ รอบแล้ว แต่ในช่วงโกลาหลก่อนเดินทางไปเชียงใหม่อย่างนั้น ก็ให้มีเหตุต้องคลาดกันไปมาทุกครั้ง เลยก็มอบให้ผมทางโทรศัพท์แล้วฝากให้ผมได้ไปรับเองที่อาจารย์เดียร์ อาจารย์เปิ้ลท่านอุบรายละเอียดไว้ บอกแต่เพียงว่าเป็นของที่ตั้งใจทำเพื่อมอบให้แก่ผมอย่างที่สุด

Large_dr_kanokwan_chinese_painting_2

เมื่อผมเอาไปแกะออกดูแล้ว จึงทั้งได้นั่งชมและนั่งอ่าน เพราะด้านหน้านั้น เป็นรูปเขียนสีน้ำหมึกจีนและพู่กันจีน ส่วนที่ด้านหลัง ก็เป็นลายมือเขียนเต็มข้างหลังภาพ ทั้งหมดช่างประนีตบรรจงทั้งลายมือ และสัมผัสได้ถึงความพิถีพิถันในถ้อยความที่ถ่ายทอดเกี่ยวกับภาพและฝากความรู้สึกดีงามมากมายให้กัน ความที่เป็นคนเขียนรูปด้วย อีกทั้งได้รู้จักคุ้นเคยท่านอาจารย์ดร.กนกวรรณมิตรผู้น้อง ซึ่งเป็นทั้งนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่มือเยี่ยม และเป็นอาจารย์ที่มีความเป็นครูด้วยจิตวิญญาณ ที่ผมชื่นชมและเคารพนับถือในมหาวิทยาลัยมหิดลมากท่านหนึ่ง ในหลายแง่และหลายบทบาท รวมทั้งได้อยู่หมู่บ้านเดียวกันและเป็นคนนครสวรรค์เหมือนกันอีกด้วย ก็เลยรู้สึกได้สิ่งที่มีคุณค่ามากเหลือเกิน

Large_dr_kanokwan_chinese_painting_1

รูปเขียนพู่กันจีน อาจารย์เปิ้ล : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กนกวรรณ กิตตินิยม ภาควิชาชีวเคมี คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล เขียนด้วยตนเองเป็นรูปแรกและมอบให้เป็นที่ระลึกเมื่อออกจากมหิดล อาจารย์เปิ้ลเป็นเครือข่ายวิจัยสุขภาพชุมชน โครงการวิจัยลุ่มน้ำท่าจีน-แม่กลอง และเป็นกลุ่มนักวิชาการ พัฒนาเครือข่าย Authentic Leadership ของศูนย์จิตตปัญญาศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ด้วยกัน เป็นนักกิจกรรมแบบองค์รวม ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพด้านในของมนุษย์ และพัฒนาการศึกษาที่เน้นนักศึกษาเป็นศูนย์กลาง

Large_dr_kanokwan_chinese_painting_8

ผมเลยได้รูปเขียนของอาจารย์ และรูปเขียนของผมเอง ที่พอจะขนติดมือไปได้รูปสองรูป ประเดิมติดที่ผนังนำร่องกันก่อน ซึ่งก็ช่วยทำให้ห้องทำงานชั่วคราวมีชีวิต มีเรื่องราว เหมือนเห็นสภาพแวดล้อมและชีวิตจิตใจของผู้คนที่เราคุ้นเคยอยู่รายรอบ ทำให้ได้บรรยากาศของความสืบเนื่องทั้งการงานและผู้คนในชีวิต

หมายเลขบันทึก: 474567เขียนเมื่อ 13 มกราคม 2012 18:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 กันยายน 2013 23:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)

สวัสดีค่ะอาจารย์

อ่านบันทึกนี้แล้วนึกถึงเพลง "เขียนให้เธอ" ค่ะ

คำร้อง/ทำนอง:ประภาส ชลศรานนท์

ขับร้อง:เกียรติศักดิ์ เวทีวุฒาจารย์, ศุ บุญเลี้ยง

หากวันใด ที่ท้องฟ้าดูสดใส ละอองฝนโปรยชื่นใจ เล่นแสงกับสายลม
ปล่อยดวงใจเดินทางไปชื่นชม เก็บเอาความสุขสมเพื่อมาขีดเขียน

หากคืนใด ที่ท้องฟ้ามืดสลัว เมฆดำทะมึนน่ากลัว ไร้เดือนและดารา
ปล่อยดวงใจเดินทางไปค้นหา เพื่อเอามา แต่งเติมให้เป็นถ้อยคำ

*เขียนดวงดาว ให้สุกสกาวบนฟากฟ้า
เขียนต้นหญ้า ให้ขึ้นตามทางรกร้างไกลๆ
ขุนเขาทะเลกว้างใหญ่ มหานครใดใด หาใช่แรงผลักดันฉัน

เพราะเธอนั่นไง คือเหตุผลที่ทำให้ฉันเขียน
เป็นเพราะเธอส่ง ส่งใจมาให้กัน
แทนกระดาษดินสอ ด้วยรักที่คงมั่น
ให้ฉันเขียนเป็นถ้อยคำถึงเธอ**

ในคืนวัน ที่ฉันค้นหาความหมาย ว่าความรักคืออะไร ใยรักมีไว้ให้กัน
ปล่อยดวงใจเดินทางไปทุกฝัน จะได้เอาคำตอบนั้น มาเขียนให้เธอ....

สวัสดีครับ ดร.ปริมครับ

  • เพลงของประภาส ชลศรานนท์นี่ มักชวนซาบซึ้งทั้งมุมคิด ภาษาสวย ท่วงทำนองดนตรีไพเราะ การเรียบเรียงและลูกเล่นมีคอนเซ็ป เพลง 'เขียนให้เธอ' นี้ก็เหมือนกันนะครับ แม้นไม่แน่ใจว่าเคยได้ฟังหรือไม่ แต่ดูถ้อยคำและการไหลอารมณ์แล้ว ก็รู้สึกว่ามันสวยงามนะครับ
  • ขอบคุณ ดร.ปริมมากเลยครับที่มาเยือนและนำบทเพลงงามๆมาแบ่งปันกัน

กราบนมัสการ ขอบพระคุณท่านพระอาจารย์มหาแล
ขอบพระคุณท่านอาจารย์ ดร.ธวัชชัย และคุณแก้ว...อุบล
ที่แวะมาเยือนครับ

เสาร์สวัสดีวันละอ่อนเจ้าอาจารย์เซียนศิลป์

ลำพังแค่ใช้พู่กันจีน หัดเขียนอักษร ก็ยากแล้ว นี่ภาพสีพู่กันจีน ว้าว ค่ะ และดูเข้ากัน สะดุดตากับผนัง ฉาบปูนเปลือย ใช่ไหมคะ แต่แปลกใจอีก เพราะภาพแรก ผนังสีขาว พอมามุมกว้าง มองไกลเหมือนสีน้ำตาล คลาสสิคมากเจ้าค่ะ

สุขใจได้ชมงาน กะบรรยากาศวิมาน คนรักงานศิลป์เจ้า

Large_dr_kanokwan_chinese_painting_8

...

ห้องทำงานฉาบปูนแบบเปลือยเปือย
เวลาเมื่อยนั่งคิดวิจิตรศิลป์
มองออกไปนอกหน้าต่างนกโบกบิน
มีภาพวาดใจผกผินบินออกไป

...

แวะมาชมห้องทำงานกับภาพงาม ๆ ครับท่านพี่ ;)...

บ่ายเสาร์สวัสดีครับคุณ Poo

  • ปล่อยให้เป็นสีปูนเปลือยน่ะครับ ได้บรรยากาศดีไปอีกแบบหนึ่ง
  • งานส่วนใหญ่ยังไม่ได้ขนมาเลยครับ อีกสักพักหนึ่งจะขนมาติดตั้ง ใจนั้นอยากจะทำให้เป็นการจัดแสดงที่มีธีม เป็นแหล่งหาความบันดาลใจทางศิลปะ และเป็นแหล่งพัฒนาการเรียนรู้ต่างๆ โดยเฉพาะการเรียนรู้ชุมชนและการเรียนรู้ทางสังคมในด้านที่ผมทำให้แก่สังคมได้บนพื้นที่ชีวิตตนเอง ที่เปิดให้คนได้ชมและใช้ทำงานกับเครือข่ายที่ทำงานในแนวอย่างนี้ได้ด้วย
  • คงค่อยๆทำไปเรื่อยๆครับ สักพักหนึ่งก็น่าจะพอเป็นรูปเป็นร่าง จะนำมาเล่าแบ่งปันกันอีกนะครับ

ห้องทำงานฉาบปูนแบบเปลือยเปือย
เวลาเมื่อยนั่งคิดวิจิตรศิลป์
มองออกไปนอกหน้าต่างนกโบกบิน
มีภาพวาดใจผกผินบินออกไป

                      ...............................

ใคร่ครวญ สะท้อนคิด ชีวิตวิถี
จิตวิญญาณนกเสรี ดังฟ้ากว้างใหญ่
ถ่ายทอด สะท้อนตน จากใจ
วาดชีวิต ผนึกใส่ ลายปูนเปลือย

สักวันก่อนขับมอ'ไซค์ขึ้นดอย ก็แวะรายทาง แวะกินกาแฟ และเดินดูรูปเขียนกันนะครับอาจารย์ แต่ตอนนี้ยังจัดได้ไม่เท่าไหร่หรอกนะครับ ยังต้องปรับพื้นฐานและสภาพแวดล้อมให้ได้อย่างที่ต้องการสักหน่อยครับ 
ใน อนาคต หากจัดวางองค์ประกอบต่างๆได้ดีพอสมควรแล้ว ก็ขอปวารนาให้เป็น Social Lab ที่เป็นอีกแหล่งหนึ่ง ที่อาจารย์และทีม จะสามารถพานักศึกษาไปปฏิบัติการและเรียนรู้สิ่งต่างๆในแนวทางที่ผมช่วยส่งเสริมได้ ได้นะครับ หรือไม่ต้องมีงานกันบ้างก็ได้ ไปนั่งคุยกันเล่นเรื่อยๆเปื่อยๆบ้าง ก็ได้เสมอครับ

ยินดีครับท่านพี่ วิรัตน์ คำศรีจันทร์ ... รับคำเชิญ หากมีโอกาส ;)...

อย่างน้อยหากมีวิชาที่อยากออกนอกสถานที่ บ้านท่านพี่ฯ ควรเป็นเป้าหมายหนึ่งครับ

ขอบคุณมากครับ ;)...

  • ยินดีเป็นเครือข่ายร่วมมือเป็นแหล่งทำงานสร้างคนในสาขาต่างๆ และเป็นแหล่งพัฒนาการศึกษาค้นคว้าการทำงานความรู้เชื่อมโยงกับการทำงานเชิงสังคมเพื่อความริเริ่มใหม่ๆของสังคม ที่ทำยากๆ หรือแหล่งอื่นๆในระบบและองค์กรที่เป็นทางการมีขีดจำกัดที่จะทำใด้ดีๆ นะครับ
  • อาจจะรวมไปถึงกลุ่มการศึกษาและพัฒนาการเรียนรู้ตนเองไปตามความสนใจบางกลุ่ม ที่ใฝ่ศึกษามากกว่าเพียงเพื่อได้เกรดอย่างเดียว ก็ยินดีนะครับ หรือบางทีก็อาจจะเป็นพวกเรากันเอง พวกครูอาจารย์และคนทำงาน ที่อยากนั่งตกผลึกประสบการณ์และเสวนากันม่วนๆ สังเคราะห์บทเรียนให้ได้ไฟชีวิตเพื่อหมุนเวียนกลับไปทำงานเหมือนหมั่นดูแลตนเองไม่ให้จิตตกอยู่เสมอๆ ก็ยิ่งยินดีใหญ่ แต่ตอนนี้หากจะไปอย่างเป็นเรื่องเป็นราวละก็อย่าเพิ่งไปนะอาจารย์ ยังไม่มีอะไรหรอกครับ นอกจากนั่งพบปะ วิเคราะห์ วางแผน ปรึกษาหารือวิชาการและทำงานความคิดกัน ใช้สภาพแวดล้อมที่เอื้อการทำงานกับภายในตนเองเป็นหลัก อย่างนี้ละพอได้ครับ
  • ครึ่งปีหลังของปีนี้น่าจะพอทำอะไรกันเล่นได้ ศิลปะภาพถ่าย และศิลปะของการเล่า Case Study ของอาจารย์และลูกศิษย์ ที่สะท้อนภาพปรากฏการณ์ดีๆของสังคม รวมทั้งมีพลังความบันดาลใจต่อผู้คน ที่นำมาทำสื่อจัดแสดงดีๆได้ สามารถนำไปจัดแสดง เสวนา และเปิดให้สาธารณะได้เข้าชมและเข้าศึกษา ทำกันเองทำนองนี้แบบสนุกๆ อย่างนี้ก็ยินดีแจมด้วยนะครับ  
  • ส่วนผมเองนั้น ก็กำลังเตรียมจะลองจัดแสดงงานกับเวทีวิชาการในแนวอย่างนี้สักหน่อยด้วยเหมือนกันครับ หากได้ทำแล้วละก็ จะไม่ลืมที่จะเชิญอาจารย์และลูกศิษย์ไปร่วมเป็นแขกวีไอพีด้วยนะครับ

เรียนสวัสดี วันคุณครับท่านพี่ ครูวิรัตน์ คำศรีจันทร์ นักพัฒนา บูรณาการ ศิลป กับ ศาสตร์ ผู้มุ่งมาด สร้างสังคมไทย ครับ

ขอน้อมคารวะคุณครู  JJ ด้วยความเคารพ
ขออาจารย์มีความสุข ได้เห็นความงอกงามของเหล่าศิษยานุศิษย์
เหมือนได้เห็นมวลดอกไม้เบ่งบาน ให้ความงดงามแก่สังคม
เป็นความชื่นชูใจแก่คุณครูครับ

  • เห็นรูปภาพห้องทำงานของท่านอาจารย์แล้ว ขนลุกเลยค่ะ รู้สึกว่าเป็นเรื่องบังเอิญมาก ตอนไปซื้อที่ที่เชียงใหม่ เพิ่งหารือกันในครอบครัวว่าจะปลูกบ้านแบบปูนเปลือย และใช้กระจกทรงสูง ๆ เน้นความเรียบง่าย มีแสงสว่าง อากาศถ่ายเท เห็นบรรยากาศแบบเรียบง่ายสบาย ๆ ของห้องแล้ว สะท้อนชีวิตของผู้อยู่อาศัยโดยไม่ต้องบรรยายเลยค่ะ
  • กว่าจะค้นพบความสุขที่ง่ายงาม ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ ไม่ทราบว่าเกี่ยวกับวัยหรือเปล่า ชีวิตที่มีความสุขคือชีวิตที่ไม่ต้องปรุงแต่ง ไม่มีสีสัน มีแต่ความธรรมดา น้ำท่วมคราวนี้ ได้รับผลกระทบกันทั่วหน้า นึกไม่ถึงว่าท่านอาจารย์ก็ต้องลี้ภัยเช่นกัน ดีจังเลยนะคะที่มี safe house ที่อื่นด้วย ถ้าอย่างไรแล้ว ก็ขอฝากตัวเป็นเพื่อนบ้านที่เชียงใหม่ในอนาคตด้วยค่ะ คงได้กราบสวัสดีท่านอาจารย์ในโอกาสต่อไปและได้เรียนชีวิตที่สมถะจากท่านอาจารย์ค่ะ

 

เรียน อาจารย์ ครับ

ตามจริงถ้าตามกำหนดเดิม...ผมต้องเจออาจารย์วันพรุ่งนี้แน่นอน

ในงานมหกรรมสุขภาพชุมชน ของอาจารย์หมอโกมาตร

แต่ผมติดงานและภารกิจมากมายที่อนามัย

ถ้าบินได้คงบินไปนั่งฟังอาจารย์บรรยายครับ

แต่ก็ฝากเพื่อนเข้าไปนั้งฟังอาจารย์แล้วครับ

อย่าลืมเก็บภาพมาฝากผมด้วยนะครับ

เสียดายครับ...ไม่งั้นคงได้ไปสวัสดีอาจารย์ครับ

สวัสดีครับอาจารย์ศิลาครับ

  • ที่แม่ริม ที่อาจารย์ชอบและได้ไปซื้อที่ไว้นั้น ผมก็เพิ่งไปดูที่และร่วมนั่งคุยกับน้องๆกลุ่มหนึ่งที่รวมตัวกันได้ ๖-๗ เจ้า ไปสมทบกับคนพื้นที่ซึ่งทำนาและเกษตรอินทรีย์กับทำบ้านดินอยู่กับเป็นหมู่บ้าน แล้วขอแบ่งที่ชาวบ้าน ซื้อนาและจะทำกลุ่มบ้านที่ทำนาปลูกผักแบบเกษตรอินทรีย์ ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเป็นชุมชน พวกเขามาชวนผมไปช่วยดู รอบๆบริเวณนั้นก็มีคนที่ออกไปใช้ชีวิตแบบนั้นอีกหลายกลุ่ม รวมๆแล้วก็กว่า ๒๐ ครัวเรือนและอยู่กันบนพื้นที่กว่า ๒๐๐ ไร่เลยทีเดียวครับ
  • ไม่ไกลจากนั้นอีก ก็เป็นกลุ่มบ้านดิน ที่สอดแทรกตนเองกลมกลืนไปกับชีวิตชุมชนแบบเก่า ของเครือข่ายคุณอาภรณ์ เขื่อนแก้ว ซึ่งทำงานทางด้านสิทธิมนุษยชนกับหลายเครือข่ายทั้งกลุ่มสตรี ชนกลุ่มน้อย กลุ่มสุขภาพทางเลือก กลุ่มพัฒนาด้านจิตใจ และคุณโจน จันได ซึ่งทำงานกับเครือข่ายสร้างบ้านดิน
  • แถวนั้น คงจะอยู่รายรอบที่อาจารย์ศิลาเตรียมไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นนะครับ
  • บ้านผมที่สันป่าตองนั้น ขอปวารณาว่าขอให้เป็นอีกแหล่งหนึ่งที่อาจารย์และกลุ่มสนใจในแนวทางเดียวกัน จะไปจัดกิจกรรมและใช้เป็นแหล่งทำงาน ได้อีกแหล่งหนึ่งนะครับ

สวัสดีครับทิมดาบครับ

  • เวทีมหกรรมสุขภาพชุมชนครั้งนี้ หลายฝ่ายร่วมมือกันเข้าถึงเครือข่ายการทำงานชุมชนทั่วประเทศ ค่อยๆสั่งสมต่อเนื่องมาหลายปี แล้วก็เชื่อมโยงมาจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสร้างความเคลื่อนไหวสังคมด้วยกันในเวทีระดับประเทศ ดูแล้วก็เป็นการระดมขุมพลังของคนทำงานชุมชนทางด้านสุขภาพ ที่น่าสนใจที่สุดในทุกมิติ ณ เวลานี้เลยทีเดียวครับ
  • เวทีเลื่อนหลบสถานการณ์น้ำท่วมในประเทศจากเดือนตุลาคมเมื่อปีกลายมาเป็นเดือนมกราคม ๒๕๕๕ นี้ หลายเวทีเลยมีบทเรียนการทำงานในสถานการณ์น้ำท่วมด้วย
  • ผมจะได้ไปดูทางด้านบทบาทและพลังทางวิชาการกับการทำงานสุขภาพชุมชน ซึ่งก็จะมีบทเรียนของคนทำงานเชิงพื้นที่จากทั่วประเทศมานำเสนอ นั่งเสวนา และสะท้อนการเรียนรู้มิติต่างๆด้วยกันหลายกรณีตัวอย่าง
  • ประเดี๋ยวคงได้เรื่องราวดีๆหลายอย่างมาเล่าแบ่งปันกันครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท