ผมพ้นจากประสบภัยน้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพมหานครและทั่วประเทศ กลับบ้านไปอยู่สันป่าตองเชียงใหม่ได้ก่อนหน้าน้ำหลากเข้าดอนเมืองเพียง ๒-๓ วัน และหลังจากนั้น แถวเขตทวีวัฒนาและพุทธมณฑล ก็ตกอยู่ใต้น้ำหลากระดับท่วมหลังคารถเก๋งต่อเนื่องเป็นแรมเดือน จึงไม่สามารถขนข้าวของใดๆติดตัวไปด้วยเลย จนแม้กระทั่งบัดนี้ ก็ทำได้เพียงกลับไปที่พัก แล้วค่อยๆเก็บข้าวของใส่กล่องเพื่อเตรียมส่งขนย้ายทางรถยนต์ของบริการเอกชน รอให้เก็บใส่กล่องจนหมดแล้วก็จะขนในคราเดียวกัน
กระนั้นก็ตาม เมื่อช่วงปีใหม่นี้ ผมกับภรรยาก็พากันขับรถปิคอัพไปทำบุญกับแม่ของผมและญาติๆ ที่บ้านเกิดบ้านตาลิน อำเภอหนองบัว นครสวรรค์ แต่เมื่อทำบุญกันเสร็จแล้ว ภรรยาผมก็หารือและนำเสนอความคิดว่า ไหนๆก็อุตส่าห์ขับรถจากเชียงใหม่ลงมาจนถึงนครสวรรค์แล้ว เรายอมเหนื่อย ขับรถเลยไปขนของขึ้นไปเชียงใหม่ก่อนสักเที่ยวหนึ่งดีไหม ผมเห็นด้วยอย่างที่สุด เลยตกลงใจที่จะไปขนของออกจากห้องพักอาจารย์ ที่คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ของมหาวิทยาลัย ที่ศาลายาก่อน
การเลือกไปขนของส่วนตัวออกจากห้องพักที่ทำงานก่อนนั้นมีความเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ดีกว่าการไปขนในช่วงเวลาอื่น นับแต่เหตุผลที่ว่า ความเป็นช่วงวันหยุดเทศกาลนั้น จะทำให้ผมไม่ต้องสร้างความเกะกะวุ่นวายให้กับผู้คน ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลานานและกินพื้นที่การขนของหลายแห่ง นับแต่การขนของออกมากอง การแบกของขวักไขว่หลายเที่ยว การจอดรถขวางการสัญจรของผู้คน การสร้างขยะและความรก โกลาหลไปหมด กว่าจะขนขึ้นรถเสร็จก็คงจะหลายชั่วโมง หากทำในวันปรกติและท่ามกลางสภาพที่คนอื่นกำลังทำงาน นักศึกษาก็ขวักไขว่ ดูแล้วก็คงจะไม่เข้าทีและทำให้ควรแก่กาลเทศะได้ยาก
ที่สำคัญก็คือ การมุ่งที่จะขนของในห้องพักที่ทำงานให้เสร็จเรียบร้อยก่อน ก็จะทำให้คนที่เขารับผิดชอบดูแลสถานที่ ได้ความสะดวกใจที่จะจัดห้องให้อาจารย์คนอื่นๆเข้าไปใช้ห้องพักได้ต่อไป คิดใคร่ครวญดีแล้วอย่างนี้ ผมและภรรยาจึงพากันตรงไปยังมหาวิทยาลัย
ไปถึงก็มืดค่ำพอดี จึงเริ่มเก็บข้าวของจากประมาณ ๑ ทุ่ม ได้น้องเจ้าหน้าที่ของคณะที่ไปนอนเวรเฝ้าอาคาร มีน้ำใจช่วยขนด้วยอีกแรงหนึ่ง ไปเสร็จเรียบร้อยเอาเมื่อเกือบ ๔ ทุ่ม จากนั้นก็เดินทางกลับขึ้นเชียงใหม่กันเลย เมื่อถึงบ้านที่สันป่าตอง ก็ขนข้าวของอย่างอื่นเก็บไว้รอจัดพร้อมกับอีกทั้งหมดที่ยังไม่ได้ขนย้าย แต่ก็มีบางชิ้นที่ต้องแกะออกมาอ่าน ชม แล้วก็ทำให้มีรูปเขียนตบแต่งห้องทำงานชั่วคราวในบ้านพอดีไปก่อน
รูปเขียนนี้ อาจารย์ ดร.ภัทรียา กิจเจริญ หรืออาจารย์เดียร์น้องสาวผู้น่ารักที่คณะฯ บอกว่า ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กนกวรรณ กิตตินิยม หรืออาจารย์เปิ้ล จากคณะเทคนิคการแพทย์มหิดลของเรา ได้หอบหิ้วมาหาผมที่คณะฯ ๒-๓ รอบแล้ว แต่ในช่วงโกลาหลก่อนเดินทางไปเชียงใหม่อย่างนั้น ก็ให้มีเหตุต้องคลาดกันไปมาทุกครั้ง เลยก็มอบให้ผมทางโทรศัพท์แล้วฝากให้ผมได้ไปรับเองที่อาจารย์เดียร์ อาจารย์เปิ้ลท่านอุบรายละเอียดไว้ บอกแต่เพียงว่าเป็นของที่ตั้งใจทำเพื่อมอบให้แก่ผมอย่างที่สุด
เมื่อผมเอาไปแกะออกดูแล้ว จึงทั้งได้นั่งชมและนั่งอ่าน เพราะด้านหน้านั้น เป็นรูปเขียนสีน้ำหมึกจีนและพู่กันจีน ส่วนที่ด้านหลัง ก็เป็นลายมือเขียนเต็มข้างหลังภาพ ทั้งหมดช่างประนีตบรรจงทั้งลายมือ และสัมผัสได้ถึงความพิถีพิถันในถ้อยความที่ถ่ายทอดเกี่ยวกับภาพและฝากความรู้สึกดีงามมากมายให้กัน ความที่เป็นคนเขียนรูปด้วย อีกทั้งได้รู้จักคุ้นเคยท่านอาจารย์ดร.กนกวรรณมิตรผู้น้อง ซึ่งเป็นทั้งนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่มือเยี่ยม และเป็นอาจารย์ที่มีความเป็นครูด้วยจิตวิญญาณ ที่ผมชื่นชมและเคารพนับถือในมหาวิทยาลัยมหิดลมากท่านหนึ่ง ในหลายแง่และหลายบทบาท รวมทั้งได้อยู่หมู่บ้านเดียวกันและเป็นคนนครสวรรค์เหมือนกันอีกด้วย ก็เลยรู้สึกได้สิ่งที่มีคุณค่ามากเหลือเกิน
รูปเขียนพู่กันจีน อาจารย์เปิ้ล : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กนกวรรณ กิตตินิยม ภาควิชาชีวเคมี คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล เขียนด้วยตนเองเป็นรูปแรกและมอบให้เป็นที่ระลึกเมื่อออกจากมหิดล อาจารย์เปิ้ลเป็นเครือข่ายวิจัยสุขภาพชุมชน โครงการวิจัยลุ่มน้ำท่าจีน-แม่กลอง และเป็นกลุ่มนักวิชาการ พัฒนาเครือข่าย Authentic Leadership ของศูนย์จิตตปัญญาศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ด้วยกัน เป็นนักกิจกรรมแบบองค์รวม ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพด้านในของมนุษย์ และพัฒนาการศึกษาที่เน้นนักศึกษาเป็นศูนย์กลาง
ผมเลยได้รูปเขียนของอาจารย์ และรูปเขียนของผมเอง ที่พอจะขนติดมือไปได้รูปสองรูป ประเดิมติดที่ผนังนำร่องกันก่อน ซึ่งก็ช่วยทำให้ห้องทำงานชั่วคราวมีชีวิต มีเรื่องราว เหมือนเห็นสภาพแวดล้อมและชีวิตจิตใจของผู้คนที่เราคุ้นเคยอยู่รายรอบ ทำให้ได้บรรยากาศของความสืบเนื่องทั้งการงานและผู้คนในชีวิต.
สวัสดีค่ะอาจารย์
อ่านบันทึกนี้แล้วนึกถึงเพลง "เขียนให้เธอ" ค่ะ
คำร้อง/ทำนอง:ประภาส ชลศรานนท์
ขับร้อง:เกียรติศักดิ์ เวทีวุฒาจารย์, ศุ บุญเลี้ยง
หากวันใด ที่ท้องฟ้าดูสดใส ละอองฝนโปรยชื่นใจ เล่นแสงกับสายลม
ปล่อยดวงใจเดินทางไปชื่นชม เก็บเอาความสุขสมเพื่อมาขีดเขียน
หากคืนใด ที่ท้องฟ้ามืดสลัว เมฆดำทะมึนน่ากลัว ไร้เดือนและดารา
ปล่อยดวงใจเดินทางไปค้นหา เพื่อเอามา แต่งเติมให้เป็นถ้อยคำ
*เขียนดวงดาว ให้สุกสกาวบนฟากฟ้า
เขียนต้นหญ้า ให้ขึ้นตามทางรกร้างไกลๆ
ขุนเขาทะเลกว้างใหญ่ มหานครใดใด หาใช่แรงผลักดันฉัน
เพราะเธอนั่นไง คือเหตุผลที่ทำให้ฉันเขียน
เป็นเพราะเธอส่ง ส่งใจมาให้กัน
แทนกระดาษดินสอ ด้วยรักที่คงมั่น
ให้ฉันเขียนเป็นถ้อยคำถึงเธอ**
ในคืนวัน ที่ฉันค้นหาความหมาย ว่าความรักคืออะไร ใยรักมีไว้ให้กัน
ปล่อยดวงใจเดินทางไปทุกฝัน จะได้เอาคำตอบนั้น มาเขียนให้เธอ....
สวัสดีครับ ดร.ปริมครับ
กราบนมัสการ ขอบพระคุณท่านพระอาจารย์มหาแล
ขอบพระคุณท่านอาจารย์ ดร.ธวัชชัย และคุณแก้ว...อุบล
ที่แวะมาเยือนครับ
เสาร์สวัสดีวันละอ่อนเจ้าอาจารย์เซียนศิลป์
ลำพังแค่ใช้พู่กันจีน หัดเขียนอักษร ก็ยากแล้ว นี่ภาพสีพู่กันจีน ว้าว ค่ะ และดูเข้ากัน สะดุดตากับผนัง ฉาบปูนเปลือย ใช่ไหมคะ แต่แปลกใจอีก เพราะภาพแรก ผนังสีขาว พอมามุมกว้าง มองไกลเหมือนสีน้ำตาล คลาสสิคมากเจ้าค่ะ
สุขใจได้ชมงาน กะบรรยากาศวิมาน คนรักงานศิลป์เจ้า
บ่ายเสาร์สวัสดีครับคุณ Poo
ห้องทำงานฉาบปูนแบบเปลือยเปือย
เวลาเมื่อยนั่งคิดวิจิตรศิลป์
มองออกไปนอกหน้าต่างนกโบกบิน
มีภาพวาดใจผกผินบินออกไป
...............................
ใคร่ครวญ สะท้อนคิด ชีวิตวิถี
จิตวิญญาณนกเสรี ดังฟ้ากว้างใหญ่
ถ่ายทอด สะท้อนตน จากใจ
วาดชีวิต ผนึกใส่ ลายปูนเปลือย
สักวันก่อนขับมอ'ไซค์ขึ้นดอย ก็แวะรายทาง แวะกินกาแฟ และเดินดูรูปเขียนกันนะครับอาจารย์ แต่ตอนนี้ยังจัดได้ไม่เท่าไหร่หรอกนะครับ ยังต้องปรับพื้นฐานและสภาพแวดล้อมให้ได้อย่างที่ต้องการสักหน่อยครับ
ใน อนาคต หากจัดวางองค์ประกอบต่างๆได้ดีพอสมควรแล้ว ก็ขอปวารนาให้เป็น Social Lab ที่เป็นอีกแหล่งหนึ่ง ที่อาจารย์และทีม จะสามารถพานักศึกษาไปปฏิบัติการและเรียนรู้สิ่งต่างๆในแนวทางที่ผมช่วยส่งเสริมได้ ได้นะครับ หรือไม่ต้องมีงานกันบ้างก็ได้ ไปนั่งคุยกันเล่นเรื่อยๆเปื่อยๆบ้าง ก็ได้เสมอครับ
ยินดีครับท่านพี่ วิรัตน์ คำศรีจันทร์ ... รับคำเชิญ หากมีโอกาส ;)...
อย่างน้อยหากมีวิชาที่อยากออกนอกสถานที่ บ้านท่านพี่ฯ ควรเป็นเป้าหมายหนึ่งครับ
ขอบคุณมากครับ ;)...
เรียนสวัสดี วันคุณครับท่านพี่ ครูวิรัตน์ คำศรีจันทร์ นักพัฒนา บูรณาการ ศิลป กับ ศาสตร์ ผู้มุ่งมาด สร้างสังคมไทย ครับ
ขอน้อมคารวะคุณครู JJ ด้วยความเคารพ
ขออาจารย์มีความสุข ได้เห็นความงอกงามของเหล่าศิษยานุศิษย์
เหมือนได้เห็นมวลดอกไม้เบ่งบาน ให้ความงดงามแก่สังคม
เป็นความชื่นชูใจแก่คุณครูครับ
เรียน อาจารย์ ครับ
ตามจริงถ้าตามกำหนดเดิม...ผมต้องเจออาจารย์วันพรุ่งนี้แน่นอน
ในงานมหกรรมสุขภาพชุมชน ของอาจารย์หมอโกมาตร
แต่ผมติดงานและภารกิจมากมายที่อนามัย
ถ้าบินได้คงบินไปนั่งฟังอาจารย์บรรยายครับ
แต่ก็ฝากเพื่อนเข้าไปนั้งฟังอาจารย์แล้วครับ
อย่าลืมเก็บภาพมาฝากผมด้วยนะครับ
เสียดายครับ...ไม่งั้นคงได้ไปสวัสดีอาจารย์ครับ
สวัสดีครับอาจารย์ศิลาครับ
สวัสดีครับทิมดาบครับ