CPR


CPR: Courage Positive Reflection การได้ร่วม CPR ครั้งแรกเป็นการก้าวข้ามความกลัวและทำให้รู้ว่าเราสามารถทำได้ ทำให้สร้างความมั่นใจให้กับตนเอง

ประสบการณ์บนคลินิก มีความสำคัญสำหรับการเติบโตเป็นพยาบาลในอนาคต ก่อนการฝึกปฏิบัติงานบนคลินิก นักศึกษาทุกคนจะได้รับการเตรียมความพร้อมทั้งความรู้และทักษะที่จำเป็นเพื่อใช้ในการดูแลผู้ป่วย หนึ่งในทักษะนั้นคือการช่วยฟื้นคืนชีพ (Cardio-Pulmonary Resuscitation: CPR) ซึ่งไม่แน่ว่า ในช่วงเวลาใดระหว่างการฝึกปฏิบัติงาน นักศึกษาจะได้มีโอกาสนำไปใช้จริง

 

และแล้วเวลานั้นก็มาถึง ...ระหว่างให้การดูแลผู้ป่วยรายหนึ่งร่วมกับนักศึกษา มองข้ามไปอีกฟากหนึ่งของหอผู้ป่วย เห็นพยาบาลกำลังช่วยฟื้นคืนชีพผู้ป่วยรายหนึ่ง หลังจากเสร็จสิ้นการดูแลผู้ป่วยกับนักศึกษา ก็รีบเรียกทุกคนมาทบทวนความรู้และให้สังเกตอยู่ห่างๆ ก่อน เพื่อสร้างความคุ้นเคย...เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง สอบถามความพร้อมเด็กๆ ทุกคนดูกล้าๆ กลัวๆ งงๆ แล้วพี่พยาบาลก็ส่งสัญญาณให้น้องๆ มาช่วย ...เด็กๆเลยได้มีโอกาสเรียนรู้จากครูใหญ่ ...

หลังสิ้นสุดวัน ช่วง post conference...มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่เกิดขึ้น และให้ทุกคนสะท้อนสิ่งที่ได้เรียนรู้ ฟังน้ำเสียงแล้ว ดูเหมือนความตื่นเต้นยังไม่จาง เดาว่าคืนนี้กลุ่มนี้คงไม่นอน สงสัยจะโม้เล่าให้เพื่อนกลุ่มอื่นฟังยาว ...งั้นต้องให้กลับไปใคร่ครวญสิ่งที่เกิดขึ้นอีกครั้ง และเขียนเล่าให้ครูฟัง และห้ามนอนดึกเกินเที่ยงคืน

อ่านเรื่องสะท้อนคิดของนักศึกษาแล้ว ได้เรียนรู้ถึงความคิดของนักศึกษา สิ่งที่ครูกับนักศึกษามองอาจไม่ตรงกัน ทำให้เข้าใจนักศึกษามากขึ้น และได้ข้อสรุปของประสบการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยคำ 3 คำสั้นๆ CPR: Courage Positive Reflection

 

****REFLECTION ของนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 3*****

 

ได้เข้าร่วมในเหตุการณ์ CPR ผู้ป่วย เห็นถึงการทำงานเป็นทีม ความรับผิดชอบของแต่ละหน้าที่ และกระบวนการช่วยเหลือผู้ป่วย ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้เห็นขั้นตอนทั้งหมด แต่การได้ไปช่วยนวดหัวใจในครั้งนี้ ทำให้รู้ว่าการที่จะช่วยผู้ป่วยในภาวะวิกฤติ เราต้องทำตามคำสั่งของหัวหน้าทีมเพื่อความเป็นระบบการทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพราะตอนขึ้นไปนวดหัวใจ ตอนนั้นคิดอยู่อย่างเดียวว่า จะนวดอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ แขนตึงหรือยัง แรงที่ออกพอดีหรือยัง จังหวะดีหรือไม่ นอกจากนี้การได้ร่วม CPR ครั้งแรกเป็นการก้าวข้ามความกลัวและทำให้รู้ว่าเราสามารถทำได้ ทำให้สร้างความมั่นใจให้กับตนเองและเปิดโอกาสให้เพื่อนๆที่ได้เห็นได้แสดงความคิดเห็นก็จะทำให้เห็นข้อผิดพลาดของตนเองและนำมาปรับปรุงได้เพื่อการพัฒนา

ศิริพร รำเทียมเมฆ

วันนี้ที่ได้เจอ case ที่ต้อง CPR ตอนแรกยังไม่รู้ว่าผู้ป่วยคนนั้นหัวใจหยุดเต้น ก็เห็นพี่ๆ รีบวิ่งกันก็แปลกใจมาก พอเห็นรถ emergency แล้วหันไปดูผู้ป่วยปรากฏว่าผู้ป่วยคนนั้นนิ่งไปแล้ว ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่รวดเร็วมาก เพราะในตอนเช้าผู้ป่วยยังชู 2 นิ้วทำตามคำสั่ง แต่พอผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงก็ arrest ไปแล้ว ซึ่งทำให้รู้ว่าต้องไวมากๆ ในการสังเกตอาการเปลี่ยนแปลงของผู้ป่วย เพราะพี่พยาบาลคนที่เห็นนนั้นกำลังดูข้าพเจ้าเตรียมยา พอหันไปที่ผู้ป่วยคนนั้นปุ๊บก็สังเกตได้ทันที ซึ่งเป็นอะไรที่ตื่นเต้นมาก ทุกอย่างต้องทำอย่างรวดเร็ว ประสานงานในทีมกันชัดเจน เมื่อได้ไปมีส่วนร่วมในการ CPR ก็ทำให้ตื่นเต้นมากขึ้น ไม่มั่นใจในตัวเอง แต่เมื่อได้ทำจริง ก็เป็นอะไรที่ท้าทายจริงๆ เพราะต้องทำกับคนจริงๆ ได้สัมผัสจริง ขนาดข้าพเจ้าออกแรงเต็มที่แล้วแต่ดูเหมือนว่ากดยังไม่ลึกพอ และแขนยังไม่เหยียดตรงพอ งอแขน แต่ก็พยายามเหยียดแขนและเกร็งมากในตอนนนั้น และความรู้สึกตอนนั้นเหนื่อยมาก ประสบการณ์ครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่ตื่นเต้นมาก ได้เรียนรู้อะไรมากมาย ทั้งเรื่องยา กระบวนการประสานงานในทีม และความคล่องแคล่วว่องไวมากๆ ในการปฏิบัติงาน

ศิริวิกา เทศนอก

จากการได้ทำ CPR วันนี้ ข้าพเจ้ารู้สึกตื่นเต้นมาก ไม่คิดว่าที่เรียนมาจะได้ใช้จริงขณะฝึกปฏิบัติงาน ตอนเป็นนักศึกษาพยาบาล ความรู้สึกแรกตอนที่รู้ว่าตัวเองจะได้ขึ้นปั๊มคือกลัว กลัวจะทำไม่ได้ แต่พอลงมือทำ ความกลัวก็หายไป ในใจคิดว่าเรียนมาแล้วต้องทำให้ได้ ไม่แน่เราอาจจะช่วยตาได้ก็ได้ พอได้ขึ้นครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ความมั่นใจก็มากขึ้น จนรู้สึกว่าเหมือนการปฏิบัติทั่วๆไป แต่สิ่งที่เรียนรู้คือการ CPR ต้องใช้แรงมาก และเหนื่อยมาก ตอนเรียนในห้อง คิดว่าคงไม่เหนื่อย แต่พอเอาเข้าจริง เกือบเป็นลม จากการ CPR ทำให้หนูได้ฝึกอะไรใหม่ๆ ที่หลายคนไม่ได้ฝึก ได้เห็นบทบาทของพยาบาลในการปฏิบัติงานเป็นทีมเมื่อสถานการณ์แบบนี้ ทำให้รู้ว่าถ้าเราก้าวผ่านความกลัวไปได้ ก็จะทำให้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่จะทำในขณะนั้น บทเรียนสำหรับครั้งนี้คือเราขึ้น ป. AE2 แล้วความรู้เรื่องยาในภาวะวิกฤตควรแม่นและต้องทำได้แล้ว เพราะถ้าเราไม่แม่นก็จะทำให้เราเสียโอกาสในการปฏิบัติและทำให้ผู้ป่วยและผู้อื่นเสียเวลาได้ เพราะฉะนั้นต่อไปต้องแม่นกว่านี้เยอะ

ศิรินทิพย์ ไข่รอด

ก่อนอื่นต้องขอบอกเลยว่า ไม่คิดว่าจะได้ CPR จริงๆ ตอนแรกที่เรียนกับหุ่นคิดมาตลอดเลยว่าถ้าผู้ป่วยต้องการ CPR อาจารย์จะให้ทำหรือเปล่า แล้วพี่ๆ ล่ะจะอนุญาติไหม??? แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ผู้ป่วย arrest ซึ่ง case นี้ เห็นจากอาการตอนเช้าที่รับเวรก็ยังดีๆ อยู่ ไม่นึกเลยว่าจะกระทันหันอย่างนี้ ...ตอนนั้นเป็นเวลาเกือบ 10 โมงหันไปเห็นพี่พยาบาลและหมอกำลัง CPR ผู้ป่วยอยู่ แว๊บแรก...ถ้าทุกคนเหนื่อยแล้วให้นักศึกษาทำ...จะทำอย่างไรดี (คิดในใจ) เลยไม่กล้าเข้าไปดูใกล้ๆ กลัวเกะกะ คนอื่นเข้าด้วย แต่สักพักเห็นเพื่อนกำลังปั๊มหัวใจอยู่ เลยยกนิ้วให้ที่เพื่อนเก่ง กล้าทำ แล้วอยู่ดีๆ ไม่รู้หนูไปทำอีท่าไหน (จำไม่ได้แล้ว) พี่เค้าก็ให้ไปปั๊มหัวใจด้วย ในใจก็กลัว เพราะมันคือชีวิตคนทั้งคน จะไม่เสียวได้ไง แต่พี่เค้าก็ใจดี สอนก่อนว่าต้องวางมืออย่างไร บอกให้ใส่ถุงมือ จากนั้นก็ขึ้นเตียง กดหน้าอกผู้ป่วย หมอก็บอกว่าขออีก 2 นาที กดได้สักพักก็รู้สึกล้า หันไปมองเพื่อน เพื่อนก็รีบมาช่วยรับช่วงต่อ จากนั้นดิฉันก็ไปเปลี่ยนกับเพื่อนอีกคน ambu ผู้ป่วย ... ก็ได้เรียนรู้ว่าก่อนจะมาอยู่ ward นี้ ต้องเตรียมความรู้เรื่อง CPR ด้วย ต้องทำงานเป็นทีม และที่สำคัญ คือ ต้องมีสติ และเตรียมพร้อมอยู่เสมอ สำหรับโอกาสที่จะมาถึง

สาฟีย๊ะ เจะแว

ประสบการณ์เรียนรู้หลังได้ทำ CPR ตอนแรกรู้สึกกลัวเล็กน้อย คิดว่ามองอยู่ห่างๆ ดีกว่า แต่ใจจริงอยากไปช่วย เห็นเพื่อนทำได้ก็คิดว่าไม่น่าจะยากอะไรมาก แต่พอได้ทำจริง ผ่านไปประมาณ 2 นาที รู้สึกตาลาย เหมือนจะเป็นลม เข้าใจเลยว่ามันเหนื่อยยังไง เพราะตอนดูในวิดีโอ คน CPR ก็จะทำประมาณ 2 cycles แล้วก็สลับกัน แอบคิดในใจว่ามันเหนื่อยจริงๆ หรือ? พอเจอจริงรู้เลยว่าเริ่มเหนื่อยตั้งแต่ cycle แรก เพราะตอนอยู่ตรงนั้น ทั้งตื่นเต้น ทั้งกลัว แต่ก็พยายามนวดให้แรงพอและก็เร็วตามที่เรียนมา ครั้งนี้ก็ CPR ครั้งแรกในชีวิต …หนูก็ทำเต็มความสามารถที่มี(อยู่น้อยนิด) อย่างน้อยหนูก็รู้สึกว่าได้ช่วยคุณลุงอย่างเต็มที่ มันเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก สำหรับการได้ CPR ทำให้เกิดความั่นใจขึ้น และครั้งหน้า หากมี case ที่ต้อง CPR หนูคงกล้าที่จะช่วยมากขึ้น เหตุการณ์วันนี้สอนให้รู้ว่า นอกจากการ CPR อย่างถูกต้องแล้ว การให้ยา การผสมยาในภาวะฉุกเฉินก็เป็นสิ่งสำคัญมากที่ต้องทำให้ได้ และที่สำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือเราต้องเตรียมตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ ออกกำลังกาย กินข้าวเช้าไปวอร์ดด้วย เพราะหากมี case ที่ต้องช่วย CPR แต่พยาบาลก็จะเป็นลม ก็คงจะช่วยผู้ป่วยได้ไม่เต็มที่

ศิลาลักษณ์ ช่วยแก้ว

วันอังคารที่ 15 พ.ย. 2554 เวลา 10.00 น. หลังจากที่วัด v/s เสร็จได้มีผู้ป่วย arrest ขึ้น และมีบรรดาหมอ พยาบาล กำลัง CPR อยู่ ขณะนั้นใจมันมี 2 ด้านคือ สงสารผู้ป่วยและญาติ อีกใจหนึ่งอยากเข้าไปช่วย CPR แต่มันตื่นเต้นซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิต จึงตัดสินใจเดินไปที่เตียงผู้ป่วยที่กำลัง CPR อยู่ ไปยืน เผื่อเขาจะเรียก ในขณะนั้นก็กำลังนึกถึงตอนที่อาจารย์สาธิตเรื่อง CPR ด้วย และคิดอยู่ว่าหมอ พี่พยาบาลจะให้เราทำ CPR ไหมหนา ทันใดนั้น ก็มีเสียงหนึ่งพูดตะโกนขึ้น “หนุ่มๆ เดี๋ยวช่วยพี่ CPR ด้วยนะ เตรียมตัว” CPR รู้สึกว่าตื่นเต้นมาก ในช่วงแรก แต่ช่วงหลัง ไม่เลย มันเหนื่อยเร็วมาก ไม่น่าเชื่อ! การ CPR กลัวว่ากระดูกซี่โครงผู้ป่วยจะหัก ความเร็วอาจจะใช้ได้ เกินร้อยครั้งต่อนาที ทำให้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมต้องเปลี่ยนคนบ่อยๆ ทำให้ผมได้เห็นการทำงานของทีมพยาบาล ตอนนั้นถ้าผมถูกสั่งให้ผสมยา ผมคงทำไม่ได้เพราะไม่ค่อยมีสติอยู่กับเนื้อกับตัว มันกระทันหันด้วยแหละ สิ่งที่ผมต้องแก้ไขเป็นอันดับแรก ถ้ามีครั้งต่อไปคือ ต้องตั้งสติไว้ให้ได้ก่อน และต้องรวดเร็ว

สอแหละ สะหม้อ

หมายเลขบันทึก: 473788เขียนเมื่อ 7 มกราคม 2012 16:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 19:01 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท