วัฒนธรรมอินเดีย : ทางชีวิต 21


การเที่ยวชมเมืองโกสัมพีที่เจริญรุ่งเรืองในอดีต

          ผมได้ไปเที่ยวชมโกสัมพีเมืองหลวงของแคว้นวังสะอยู่ทางตอนใต้ของแม่น้ำยมุนา...พอเข้าไปในอาณาเขตุทางการของอินเดีย...ทำรั้วกั้นมีคนดูแล...คล้ายเราเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ...สิ่งแรกที่พบแต่ไกลขณะเดินทางเข้าไปคือ  เสาหินของพระเจ้าอโศกมหาราช...ยังสมบูรณ์ดี...ที่เสาตั้งอยู่ตรงกลางวัดโฆสิตาราม...พุทธสถานที่สำคัญในอดีต...เห็นร่องรอยความเจริญรุ่งเรือง...

               จากซากโบราณวัตถุมากมาย...ผมน้อมรำลึกถึงพระพุทธคุณ...พระธรรมคุณ...พระสังฆคุณ...อยู่นาน...แล้วภาพในจินตนาการบรรเจิดขึ้นหลายเรื่อง

เช่นเรื่องพระสงฆ์ทะเลาะกันจนพระพุทธเจ้าเสด็จไปจำพรรษาอยู่ในป่ารักขิตวัน...แล้วช้างก็ทำหลุมดิน...พอฝนตกน้ำขังอยู่ก็ใช้งวงหักกิ่งไม้สีเกิดไฟ...จุดไฟในกองไม้...แล้วยกก้อนหินใส่ในกองไฟนั้น...พอร้อนก็ใช้ไม้ดันก้อนหินลงหลุม...เป็นการต้มน้ำร้อนของช้าง...แล้วไปส่งสัญญาณให้พระพุทธเจ้ามาสรงน้ำ...ฝ่ายเจ้าลิงน้อยก็ไปหักเอารวงผึ้ง...มาถวายพระพุทธเจ้า...ซึ่งอยู่จำพรรษา  3 เดือนในป่าแห่งนั้น...

           เรื่องป่าประดู่ลาย...พระพุทธเจ้าเปรียบเทียบว่า...พุทธธรรมที่พระองค์สอนมีเพียงแค่ใบไม้ในกำมือนี้เท่านั้น...ส่วนที่ยังไม่ได้สอนก็เหมือนใบไม้ในป่านั้นเอง...ครับ

             ตรงนี้ยังมีเรื่องสามเณรน้อย...บรรลุธรรมแล้ว...พระสงฆ์  500  รูปมาพักกับสามเณร...เจ้าเณรจึงเนรมิตรวัดมีกุฎีที่พักสงฆ์ครบทุกรูป...วันกลับ...เมื่อพระสงฆ์เดินทางออกไปแล้ว...ที่อยู่ของสามเณรก็เป็นป่าเหมือนเดิม...มีพระลืมสิ่งของกลับมาที่เดิม...เห็นห้อยอยู่ที่กิ่งไม้...และไร้กุฎีเสียแล้ว...

          เรื่องนางสามาวดี...นางมาคันทิยา...นางคุชุตราหรือหญิงหลังค่อม...ยังมีเรื่องในธรรมบทอีกเยอะครับ...ซึ่งเกิดขึ้นในกรุงโกสัมพีนี้...ผมออกจากวัดมุ่งหน้าไปยังวังพระเจ้าอุเทนผู้ครองนครนี้

ประมาณ  2  กม.ด้านหลังของวังมีทางลงสู่แม่น้ำยมุนาซึ่งเป็นแม่น้ำสายใหญ่ไหลลงไปรวมกับแม่น้ำคงคาที่เมืองอาราฮาบัด...ผมจำชื่อเมืองนี้ได้ดีเพราะใช้ศัพท์ว่า...อันละ 5  บาท...ฮา ๆ เอิก ๆ..

               .ผมหาที่นั่งในวังนั้น...นึกถึง...พระเจ้าอุเทน...พระองค์ประสูติบนต้นไม้สูงยามใกล้รุ่ง...เนื่องจาก...พระมารดาถูกนกยักษ์โฉบจับ...ขณะมีครรภ์...ช่วงที่พระนางเดินอยู่ในบริเวณผมนั่งอยู่นั้นเอง...มันพาบินไปจับต้นไม้ใหญ่ในป่า...ขณะวางเหยื่อลง...เจ้านกยักษ์ก็เหลียวกลับมองว่า...มีใครตามมามั๊ย...ได้โอกาสพระนางร้องสุดเสียง...คือสัตว์ทุกประเภทกลัวเสียงคนครับ...นกตกใจเลยบินหนีไป...พระนางทนทุกข์ทรมานตลอดคืนและเจ็บท้องคลอดด้วย...50 ๆ ระหว่างตายกับมีชีวิตอยู่...จะลงจากต้นไม้ก็ไม่ได้...นี้และครับ...โชคร้ายไม่มาเดี่ยว

และโชคดีของคนเราก็ไม่เคยมาคู่เลย...

             ยามอาทิตย์อุทัย...มีฤาษีมาหาผลไม้ป่ากิน...ได้ยินเสียงเด็กร้อง...มองหาที่เบื้องบน...จึงเห็นสองแม่ลูก...อนิจจา...ด้วยความมีพรหมวิหารธรรมแห่งวรรณะกษัตริย์จึงตอกทอยทำเป็นบันไดขึ้นไปช่วยเหลือและให้ชื่อกุมารว่า  อุเทน  เพราะเกิดยามเช้านั้นเอง...พอพระกุมารเติบโตเป็นหนุ่ม

                 ต่อมา...ฤาษีเห็นดาวประจำตัวของกษัตริย์แห่งเมืองโกสัมพีเศร้าหมอง...รู้ว่าสวรรคต...จึงบอกแจ้งแล้วส่งพระกุมารไปครองเมืองโกสัมพีสืบไปครับ...

          ฟังเรื่องเล่านี้แล้วคุณมีความคิดเห็นเป็นอย่างไร...โปรดติดตามตอนต่อไป 

ด้วยความปรารถนาดี

จาก...umi
หมายเลขบันทึก: 47316เขียนเมื่อ 31 สิงหาคม 2006 06:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:46 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท