โสภณ เปียสนิท
นาย โสภณ เปียสนิท ตึ๋ง เปียสนิท

(ตอนสุดท้าย) พุทธทำนายความฝันของพระเจ้าปเสนทิโกศล


ยากนี่ครับลุง ใครว่าง่ายเล่า ยากแต่ว่ามีค่า คนที่ทำได้คือคนที่ชนะใจตัวเอง

“สุดท้าย ก็ต้องฝึกภาวนา” ลุงดึงผมออกจากความคิดนอกเรื่องให้กลับมาสู่เรื่องเดิมที่คุยกัน “เพื่ออะไรครับ ลุง” “เพื่อให้ใจหยุดคิด หรือ พูดอีกที คือให้คิดเพียงเรื่องเดียว” “ยากนี่ครับลุง” “ใครว่าง่ายเล่า ยากแต่ว่ามีค่า คนที่ทำได้คือคนที่ชนะใจตัวเอง” “ทาน ศีล ภาวนา สามอย่างนี้ที่ทำให้เกิดความรู้อดีต รู้อนาคตได้” ผมสรุปเรื่องตามที่ได้ฟังจากลุง “ก็มีแค่นี้แหละ ง่ายไหม” ลุงถามเหมือนล้อเล่น “ง่ายอะไรกันเล่าครับ ยากสุดสุด” “ค่อยค่อยทำไปไม่ต้องรีบ แต่อย่าเลิกก็แล้วกัน” ลุงให้กำลังใจ คิดว่าผู้อ่านคงคิดว่ายากเหมือนผม แต่ว่าจะมีสักกี่คนที่จะพยายามทำตามหลักธรรมคำสอนของพระโดยไม่ย่อท้อ

 

“ผมเกรงว่าปัญหาที่มีมากขึ้นในปัจจุบัน จะทำให้เราทุกข์ยากกันมากขึ้น” ผมชวนคุยต่อ “ไม่ต้องเกรงกลัวสิ่งใดหรอก สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม อยู่แล้ว” ลุงตอบคำพระเหมือนที่เคยกล่าวไว้ก่อน “ไม่มีทางผ่อนหนักเป็นเบาบ้างหรือ ลุง” “พระสอนไว้แล้วนี่ สามอย่างข้างต้นนั่นแหละ ทำตามนั้นเป็นหนทางที่ดีที่สุดแล้ว เชื่อพระเถอะนะ รอดแน่” ลุงกล่าวด้วยสีหน้ามั่นใจ “เหตุใดลุงจึงมั่นใจนักเล่า” ผมถามลุงค้นหาต้นตอ “ก็ลุงมั่นใจในพระพุทธองค์ นั่นข้อหนึ่ง และมีเรื่องเล่าในพระสูตรว่า ครั้งหนึ่ง พระเจ้าวิฑูฑะภะรบชนะเจ้าศากยะแล้วพาไพร่พลมาพักริมแม่น้ำใหญ่สายหนึ่ง คืนนั้นฝนตกหนักด้านเหนือของแม่น้ำสายนั้น ทหารบางพวกนอนบนตลิ่งแล้วถูกมดแมลงรบกวนจนต้องไปนอนชายหาด บางพวกนอนริมชายหาด แต่ถูกมดแมลงรบกวนจนย้ายไปนอนบนตลิ่ง ยามดึกสงัดหลับสนิทน้ำป่าบ่าท่วมทหารที่นอนริมชายหาดจมน้ำตายจำนวนมาก เพราะกรรมเก่าของตน เราเองก็คงเป็นเช่นนี้” ลุงกล่าวแบบคนที่เชื่อในหลักกรรมพร้อมเรื่องเล่าจากพระสูตรจนผมชักจะคล้อยตาม

 

แต่ก็ยังไม่วายจะถามต่อ “ลุงสรุปเอาจากเรื่องราวในพระสูตรเองหรือครับว่า ทำอย่างนี้แล้วจะรอด” ลุงยิ้มไม่แน่ใจว่า ดีใจที่ผมถาม หรือว่า สมเพชคำถามของผมเหลือเกิน “ในพระสูตรมีพุทธวจนะอยู่ด้วย เช่น “ส่วนเวไนยสัตว์ผู้ขวนขวายในกุศลตามวัจนะของตถาคต ก็จะระงับร้อนไม่รุนแรง บ้านเมืองใดมีความเคารพยำเกรงในพระรัตนตรัยและคุณบิดามารดา เหตุร้ายภัยพิบัติจักเบาบาง แต่ก็จะหนีกฎธรรมชาติไม่พ้น ในระยะนั้น (ปัจจุบัน) ศาสนาของตถาคตเสื่อมลงมากเพราะพุทธบริษัทไม่ตั้งอยู่ในศีลธรรม กล่าวคำเท็จ ไม่เคารพหลักธรรมนิยม คนประจบสอพลอได้รับการเชื่อถือในสังคม ผู้มีศีลธรรมประพฤติชอบ กลับไม่มีคนเคารพยำเกรง”

 

ลีลาสำนวนที่ลุงนำมาเอ่ยตอนนี้ไม่เหมือนสำนวนของลุง “คำทำนายของตถาคตนี้ย่อมยังเวไนยสัตว์ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วไม่เชื่อ นับเป็นกรรมของสัตว์โลกที่ต้องสิ้นสุดไปตามกรรมชั่วของตน ต่อไปแผ่นดิน แผ่นน้ำจะลุกเป็นไป มนุษย์ และสัตว์จะได้รับภัยพิบัติสารพัดทั่วทิศ คนในสมัยนั้น (ปัจจุบัน) จะมีวิสัยโหดดุจกำเนิดจากสัตว์ป่าอำมหิต จะรบราฆ่าฟันกันถึงเลือกนองแผ่นดินแผนน้ำ” (อรรถกถาพระไตรปิฏกมหาสุบินนิมิตชาดก เอกนิบาตชาดก ขุททกนิกาย)

 

เวลาผ่านเลยคำนวณแล้วไม่น่าจะเกินสามทุ่ม แต่ชนบทห่างไกลเงียบสงบสรรพชีวิตไม่ว่าคนหรือสัตว์ต่างก้าวเข้าสู่นิทรารมณ์ หลับใหลรอเวลาความมืดมนอนธการให้ผ่านเลย ลมหนาวโชยแผ่วเบา กล่าวลาลุงด้วยคำขอบคุณ ที่เล่าเรื่องราวทางพระศาสนาให้ผมได้รับรู้ อย่างน้อยก็ได้รู้ทางรอดของมนุษย์ ที่มนุษย์ไม่ค่อยนำมาพิจารณา เป็นพระมหากรุณาธิคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงประทานแนวทางไว้ให้นานแล้ว ปัญหาอยู่ที่มนุษย์เองจะยอมรับและก้าวตามคำแนะนำเหล่านี้หรือไม่

 
หมายเลขบันทึก: 472941เขียนเมื่อ 30 ธันวาคม 2011 07:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 พฤษภาคม 2012 23:02 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

เมืองไทยเรายังมีความหวังอยู่ ? คะอาจารย์

ตอนนี้พยายาม หายใจลึกๆ ยาวๆ ขอบคุณค่ะ :)

ถูกต้องแล้ว อาจารย์ ... "สุดท้ายก็ต้องฝึกภาวนา" แล้วมันก็เป็นสิ่งสุดยอดของชาวพุทธเราด้วย

"ผู้ใดรู้แล้วไม่เชื่อ นับเป็นกรรมของสัตว์โลกที่ต้องสิ้นสุดไปตามกรรมชั่วของตน"  โทษใครก็ไม่ได้...

ใส่บาตรปีใหม่ในบ้านนอก
บ่งบอกชีวิตวิถี
ผูกพันคุณงามความดี
ชีวีแบบอย่างทางบุญ เอย


Ico48เรียนคุณปูครับ

  • ขอบคุณที่แวะมา
  • ผมก็ว่าอย่างนั้น
  • ยังมีหวังอยู่เสมอ
  • แม้ว่าปีนี้และปีที่แล้ว อ่วมมาตลอด
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท