DNA
นั่นนะหรือความยุติธรรม? เป็นเรื่องที่น่าแปลกว่าทำไม จึงไม่ยอมรับในความเป็นจริงที่ปรากฏ ของคำพิพากษา ถ้าท่านได้มองเห็นแววตาและได้รับฟังน้ำเสียงของชาวบ้านแล้วละก้อ พวกคุณคงจะเข้าใจ ถึงความเจ็บปวดทรมานที่พวกเขาได้รับ เราพะพวกเขาคือชาวบ้านตาดำๆ ที่ต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิที่พวกเขานั้นมีอยู่ละควรจะได้รับและพวกเขาถูกผู้ปกครองที่มีคำสั่งเป็นอาวุธมาทำร้ายอย่างน่าสังเวชเพราะผู้ปกครองควรจะได้รับรู้นะครับว่าสิ่งที่ท่านได้ทำมันร้ายแรงขนาดไหนแล้ว
การที่ท่านได้กระทำลงไปนั้นเพียงแต่มีคนร้องเรียนไปแล้วท่านก็เห็นดีเห็นงามและดำเนินการถอดถอนสัญชาติ ไทยของชาวบ้าน 1243 คนทันทีโดยไม่ให้พวกเขาได้ทำการพิสูจน์สัญชาติใดๆเลยเป็นการกระทำที่รุนแรงไปหน่อยมั้งครับท่าน ท่านสงสัยใครท่านก็เรียกมาพิสูจน์ซิครับไม่ใช่ไม่ทำแต่จะกระทำแบบยกถอนทั้งรากทั้งโคนเลยหรือครับ และในขณะนี้ได้มีการเข้าไปช่วยเหลือของทางราชการและเอกชน ได้ช่วยเหลือพวกเขาชาวแม่อาย ก็ยังไงก็ต้องขอขอบคุณทุกๆท่านมา ณ ที่นี้ด้วย ในขณะนี้หลักฐานที่ทางราชการต้องการมากที่สุดนั้นนะหรือก็คือ DNA ซึ่งแน่นอนละว่าเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ไม่มีอะไรจะมาขัดหรือแย้งหลักฐานนี้ได้เพราะเป็นพยานหลักฐานเอกสารที่ระเบียบกรมการปกครองได้ออกมากำหนดไว้และไม่ยอม(ท่าเดียว) ที่จะรับฟังพยานบุคคลเลย น่าแปลกจัง ท่านผู้อ่านที่ได้เรียนพยานมาแล้วหรือกำลังเรียนก็คงจะทราบดีว่าพยานชิ้นนี้นะมีความเป็นเอกภาพในตัวมันเองมากน้อยเพียงใดและเป็นพยานที่ “ชี้เป็นชี้ตาย” ได้ในทุกๆกรณี ดังนี้จึงเป็นที่แน่นอนว่าทางฝ่ายปกครองเองก็รักตัวกลัวตายเหมือนคุณๆท่านๆทุกคนนะแหละ เมื่อมีพยานใดที่มาแล้วไม่เป็นการที่ถือว่ากระทำไปโดยไม่มีอำนาจหรือแสดงว่ากระทำไปโดยถูกต้องแล้วนะ ฝ่ายปกครองรับไว้หมดแหละครับท่าน แปลกดีไหมละครับ และที่น่าแปลกไปกว่านั้นนะหรือพวกเขากลัวระเบียบมากกว่ากฎหมายเสียยิ่งกะไรด้วยเหตุนี้ หลักฐาน DNA จึงเป็นเสมือนทองคำที่ชาวบ้านในอำเภอแม่อายต้องการและอยากได้เสียยิ่งกระไร
ก็นะครับกว่าจะอธิบายถึงที่มาที่ไปก็ต้องชักแม่น้ำทั้งห้ามาอธิบายนะครับ เพราะในขณะนี้ไม่รู้ได้ว่าชาวบ้านที่นั้นต้องเสียน้ำตาในเรื่องนี้มามากน้อยเท่าไหร่แล้ว และบางคนถึงกลับ ท้อแท้ไม่มีกระจิตกระใจที่จะไปเรียกร้องสัญชาติไทยคืนมาแล้ว พูดง่ายๆคือพวกเขาไม่อยากต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมอีกแล้วนั่นเอง แต่นะครับการตรวจ DNAนั้นก็ใช่ว่าจะได้ตรวจได้ทุกคนไม่ เพราะทั้งค่าตรวจที่แต่ละครั้งก็ตกคนละนะครับ 3-4 พันบาท ซึ่งถ้าตรวจกันหลายคนในครอบครัวก็ตกหลายหมื่นได้แล้วพวกเขาจะหาเงินที่ไหนละครับ ถึงแม้ว่าทางคุณหมอคุณหญิงแพทย์หญิง พรทิพย์ จะได้มาทำการตรวจ DNA นี้ให้แก่ชาวบ้านก็ตาม ทำให้ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ลดลงไปบ้างแต่มันก็ทำให้คนที่มีญาติเป็นไทยแต่มีสายสัมพันธ์ที่ไกลกันเกินไปหรือที่ ไม่ใช่เป็นการตรวจแบบ ชายไปชาย หรือ หญิงไปหญิง ก็ไม่อาจจะกระทำได้เลย แล้วเขาจะหาพยานไหนมายืนยันละครับเพราะถ้าทำการตรวจ DNA ไม่ได้ก็ด้วยเหตุเพราะบางทีอาจจะไม่จับในตัว DNA ที่ตรวจแล้วมีผลตรงกันได้เลยนั่นเอง แล้วยังมีปัญหาที่ตามมาอีกว่าแล้วคนที่ไม่มีญาติพี่น้องเป็นคนที่มีสัญชาติไทยเพราะญาติเขาได้เสียชีวิตลงไปจนหมดแล้วละ จะทำอย่างไรในการที่จะพิสูจน์สัญชาติหรือว่าจะโดนกฎหมายปิดปาก เพราะถ้าทางฝ่ายปกครองยอมรับพยานประชาคมแล้วก็คงจะทำให้ปัญหาของชาวบ้าน อำเภอแม่อายนี้ไม่ยุ่งยากหรือคงไม่ทำให้ชาวบ้านต้องร้องเพลง รอ อยู่อย่างทุกวันนี้หรอก เพราะแน่ละถ้าคุณกลัวว่าจะมีพยานเท็จอีกละก็คุณก็ยังมีแผนภูมิครอบครัว (Family tree) อยู่สามารถตรวจสอบได้โดยง่ายและคุณก็ยึดบุคคลในแผนภูมิและชาวบ้านที่อยู่ในละแวกนั้นรวมทั้งผู้รู้เห็นการเกิดเอาไว้เป็นตัวกำหนดในการสืบพยาน
พวกท่านอาจจะยังไม่รู้ความรู้สึกแบบชาวบ้านนั้นหรอก แต่ถ้ามีสักวันท่านนอนหลับวันนี้ท่านเป็นคนที่มีสัญชาติไทย แต่พอตื่นนอนมาอีกวันหนึ่งท่านถูกถอดถอนเป็นคนไร้สัญชาติขึ้นมา แล้ววันนั้นท่านจะรู้ว่าความรู้สึกของชาวบ้านอำเภอแม่อายนั้นเป็นอย่างไร เอาตัวท่านเข้าไปอยู่ในความรู้สึกของชาวบ้านแล้วท่านจะได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดที่ชาวบ้านได้รับจากการกระทำของท่านเองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนแม่อายอยู่ที่ไหน
ความเห็น (5)
บทความนี้เขียนไว้เมื่อตอนเรียน ปี4 เทอมสุดท้ายเป็นการสะท้อนปัญหาในขณะนั้น
มาฝากรอย และเป็นกำลังใจให้
อ่านแล้วสะท้อนให้เป็นความรู้สึกได้เลย**
น่าเศร้าใจจริงๆ