ปีนี้น้ำมาเร็ว มาแรง และมาล้นเหลือ ได้เห็นได้ฟังทั้งเรื่องดีและไม่ดีมากมาย วันนี้ครูแหม่มขอเก็บสิ่งดีดีที่ตนเองได้สัมผัสแล้วมีความสุข นำมาจดบันทึกไว้เพื่อช่วยจำดังนี้ค่ะ
สิ่งแรกใกล้ตัวเลย เพราะวิกฤติน้ำจึงเห็นความสามัคคีของคนในชุมชนตำบลมหาพราหมณ์ อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ครูแหม่มอาศัยอยู่ (เป็นตำบลเดียวของอำเภอบางบาลที่น้ำไม่ท่วม) ตั้งแต่องค์กรท้องถิ่นที่สนับสนุนความช่วยเหลือเต็มที่ ผู้นำชุมชนเข้มแข็ง สมาชิกของชุมชนทั้งไทยพุทธไทยอิสลามร่วมแรงร่วมใจกันแข็งขัน เช่น เมื่อมีเสียงสัญญาณพลุดังขึ้นจากผู้อยู่เวรยามตามเขื่อนกั้นน้ำ จากนั้นผู้นำชุมชนก็จะประกาศว่าเกิดวิกฤติน้ำที่เขื่อนตรงนั้นตรงนี้ให้ไปช่วยกันปิดกั้น สิ้นเสียงประกาศต่างก็พากันหยิบฉวยอุปกรณ์และขับรถกรูกันไปช่วยทันที ครูแหม่มไม่ได้ไปช่วยเขาหรอกเพราะมีหน้าที่ดูแลพ่อที่ป่วย แต่เมื่อเสร็จกิจแต่ละครั้งจะมีเพื่อนบ้านมาตะโกนบอกหน้าบ้านว่า ปลอดภัยแล้วนะสบายใจได้ หรือ นอนได้แล้วนะพ้นวิกฤติแล้ว หรือแวะมาเล่าว่าไปทำอะไรกันมาบ้าง และคราวใดที่มีการเรี่ยไรเงิน อาหารไปเลี้ยงผู้ซ่อมแซมเขื่อนกั้นน้ำ หรือเสาเข็มกั้นน้ำคนในชุมชนก็จะช่วยกับบริจาคอย่างเหลือเฟือ นี่แหละความเอื้ออาทรที่ยังมีอยู่ในสังคมชนบทเรา
สิ่งดีดีต่อมาจากการที่น้ำท่วมโดยรอบตำบลมหาพราหมณ์ ถนนถูกตัดขาดหมดเหมือนติดเกาะ ต้องหาวิธีไปทำงานที่อำเภอเสนาให้ได้ ก็ได้รับความเอื้อเฟื้อจากผู้มีรถที่พร้อมลุยไปบนถนนคันคลองส่งน้ำตัดผ่านกลางทุ่งนาจากอำเภอบางบาลไปอำเภอเสนา (เพิ่งรู้ครั้งนี้เองว่ามีถนนสายนี้ด้วย) ผิวถนนเป็นหลุมเป็นบ่อเหมือนรถวิ่งอยู่บนหลังเต่า เพราะสองข้างทางมีแต่น้ำเว้งว้างเหมือนทะเล เมื่อลมพัดน้ำมากระทบถนนเป็นคลื่นสูงสวยงามมาก ถนนบางช่วงเหมือนจะจมบางช่วงเหมือนจะขาดได้ลุ้นทุกวันว่าเช้าไปแล้วเย็นจะได้กลับบ้านใหมหนอ ส่วนบนถนนก็มีทั้งเพิงพักผู้อพยพ สัตว์เลี้ยง วัว ควาย และรถยนต์ปะปนกันตลอดเส้นทาง มองไปในน้ำเห็นเรือหาปลามากมาย บ้างก็นำปลาตัวใหญ่ๆ มาล่ามเชือกไว้ข้างทาง บ้างก็นำมากองโตๆ รอแม่ค้ามารับซื้อ ปลาตัวใหญ่ๆ ทั้งนั้นเลย ทำให้คิดว่าอยุธยานี่อุดมสมบูรณ์จริงๆนะ และถ้าน้ำไม่ท่วมแบบนี้ก็คงไม่ได้สัมผัสวิถีชาวบ้านผสมผสานกับธรรมชาติจริงๆ แบบนี้หรอกนะ
สิ่งดีดีอีกอย่างคือได้เห็นน้ำใจของเพื่อนร่วมงานในสายงานการศึกษาขั้นพื้นฐานที่ยามยากก็ไม่ทิ้งกัน แม้น้ำจะท่วมสูงทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน การเดินทางลำบาก แต่ก็ยังเต็มใจฟันฝ่ามาทำงานกันอย่างต่อเนื่องก็เพราะความรับผิดชอบในงานที่คั่งค้างอยู่ พองานเบาบางเราวางแผนจะผลัดเปลี่ยนกันมาทำงานอย่างไม่ให้สะดุด แต่กลับเจองานด่วนจึงต้องผลัดเปลี่ยนกันทำงานที่ กศน.อำเภอบ้าง และออกไปช่วยบริการผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ครัวกระทรวงศึกษาธิการ จุดวัดสามกอ อำเภอเสนาบ้าง สรุปว่าตลอดสามเดือนที่น้ำท่วมพวกเราในสายงานไม่ได้หยุดเกินกว่าปกติกันเลย ขอบคุณ ครูรุ้ง ครูกุ้ง และน้องภา นะคะ
เชิญเยี่ยมชม www://kunkrusena.blogspot.com หรืองานการศึกษาขั้นพื้นฐานนอกระบบ กศน.อำเภอเสนา หรือคุณครูเสนา ฝึกหัดทำร่วมกันในสายงานค่ะ เพื่อพัฒนาตนเองด้านเทคโนโลยี และสนับสนุนข่าวสารข้อมูลให้กับคณะครูและนักศึกษาของ กศน.อำเภอเสนาค่ะ
อาจารย์เอกชัยคะสงสัยชาวอยุธยาเราต้องย้อนยุค ปลูกบ้านใต้ถุนสูง เตรียมเรือไว้ใช้หน้าน้ำ สัญจรไปมาทางน้ำ ส่่วนตลาดก็เป็นแบบเรือนแพลอยขึ้นลงได้ตามน้ำ น่าจะดีนะคะ
ขอบคุณกำลังใจจากพี่ใหญ่ค่ะ
ขอบคุณค่ะคุณ sr ที่แวะมาเยี่นมชม
มาเยี่ยมให้กำลังใจครับ
ในภาวะที่วิกฤตยังมีโอกาสที่ดีๆอยู่มากมาย
ขอเพียงแค่ใจเราไม่ท้อถอย มีกำลังใจมุ่งมั่นฝ่าฟัน
เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ
ผอ.ไปอยู่ที่ กศน.จังหวัดนนทบุรีแล้วสบายดีหรือเปล่าคะ ขอบคุณนะคะที่ยังเป็นห่วง
ครูนอกระบบคะตอนเดินทางบนถนนที่วุ่นวาย รถต้องจอดเป็นระยะๆ ครั้งละนานๆ เพื่อเลี่ยงสวนทางกัน แต่เป็นโอกาสให้ผู้โดยสารได้ลงไปเดินนำหน้ารถไปทักทายกับผู้อพยพ ได้เห็นวัวแม่ลูกอ่อนที่เพิ่งคลอดลูกเมื่อคืนที่ผ่านมา (เจ้าของยิ้มหน้าบานเชียว) ไปดูปลาที่เขากองไว้หลากหลายชนิด และเพิ่งเข้าใจกับคำเปรียบเปรยคนที่หน้าตาไม่ดีว่า "หน้าเหมือนปลากะโห้" ก็ครั้งนี้เอง (ก็ปลากะโห้ส่วนหัวจะโตมากแล้วเรียวเล็กไปส่วนหางไม่มีส่วนเว้าเหมือนปลาชนิดอื่น หน้ากลมๆ แบนๆ เหมือนนกฮูก สรุปขี้เหร่จริงๆค่ะ)
ขอให้สุขีโชคดีตลอดปีมะโรง สอง ฮ่า ฮ่า ฮ่า นะ
ขอบคุณค่ะ ขอให้อาจารย์พบพานแต่ความสุข ความเจริญ ตลอดปี สอง ฮ่่า ฮ่า ฮ่า เช่นกันนะคะ
ถ้าอยากรู้ว่า สมาชิก กศน.พระนครศรีอยุธยา ใครยังเคลื่อนไหวใน Gotoknow บ้าง ดูได้ที่
ขอบคุณนะคะอาจารย์ ไม่ได้เข้าบล็อกหลายวันไปกับคณะศึกษาดูงานที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาค่ะ
ขอบคุณค่ะคุณยายธีที่มาพร้อมกับกำลังใจ