๒๑๙.สมโภชพระธาตุจอมทองและการได้กุศล ๓ มิติ


นับว่าโครงการสมโภชพระธาตุจอมทองและปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ได้สร้างการสั่งสมบุญกุศลให้กับตนเองใน ๓ อย่างด้วยกัน คือ

 

     ระหว่างวันที่ ๕-๗ ธันวาคมที่ผ่านมา ผู้เขียนได้รับผิดชอบเป็นหัวหน้าคณะพระวิทยากรอบรมปฏิบัติธรรม "โครงการสมโภชพระธาตุจอมทองและปฏิบัติธรรม (ประจำปี) เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ"

     โครงการนี้จัดขึ้น ณ พระธาตุจอมทอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัดศรีโคมคำ อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา และอยู่ห่างจากตัววัดศรีโคมคำไปทางทิศเหนือระยะทางประมาณกิโลเมตรเศษๆ งานนี้มีผู้เข้าร่วมปฏิบัติกิจกรรมกว่า ๒๐๐ รูป/คน

     วันแรกนั้น เป็นการรับเข้าโครงการในช่วงบ่าย ๆ โดยมีการสมาทานศีล ๕ (เพื่อความเป็นสัปปายะให้กับผู้เข้าอบรม)ทำวัตรสวดมนต์ เจริญสติ และให้ข้อคิดต่าง ๆ

     ส่วนวันที่สอง (๖ ธค.) เป็นวันที่มีกิจกรรมตลอดทั้งวัด ได้แก่ตื่นตั้งแต่เช้าเวลา ๐๔.๐๐ น. (แต่ผู้สูงอายุทั้งหลายท่านตื่นตั้งแต่ตีสองตีสาม) มานั่งรอทำวัตรก่อนแล้ว กว่าจะรอพระใหม่และช่วยพระใหม่ครองผ้าอีกเวลาล่วงเลยมาถึง ๐๕.๐๐ น. จึงได้ทำวัตรเช้า

     หลังจากนั้นก็มีการเจริญสติตามแบบของสติปัฏฐานสี่ โดยพระวิปัสสนาจารย์จากจังหวัดเชียงราย(พระครูสันตจิตาภิบาล) และรับข้าวต้ม

     เวลา ๐๗.๓๐ น. มีพิธีทำบุญตักบาตรพระจำนวน ๘๙ รูป และมีขบวนแห่เครื่องสักการะพระธาตุจอมทองจากประชาชน หน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐและพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาโดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน 

     เวลา ๐๙.๐๐ น.เมื่อขบวนแห่งเครื่องสักการะมาถึง ก็ประกอบพิธีทางพุทธศาสนา และมีลำดับขั้นตอนพิธีอีกหลายประการ หลังจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา () ลั่นฆ้องเปิดงาน โดยท่านประกาศว่า ลั่น ๓ ครั้งแรกหมายถึงพระพุทธ-พระธรรม-พระสงฆ์, ลั่น ๓ ครั้งต่อมาหมายถึงพระปัญญาธิคุณ-พระกรุณาธิคุณ-พระบริสุทธิคุณ และลั่น ๓ ครั้งหลังหมายถึง ศีล-สมาธิ-ปัญญา

     แม้จะเป็นความหมายที่พื้น ๆ ธรรมดา ๆ แต่ผู้เขียนสังเกตดูพ่อเมืองคนนี้ ท่านจะเข้าใจและฝักใฝ่ในเรื่องพระพุทธศาสนาพอสมควร ไม่ใช่ทำเพราะหน้าที่ที่ต้องทำ แต่ทำเพราะความเข้าใจในหลักการด้วย หลังจากนั้นก็เป็นการถวายเพลพระ และให้ญาติโยมรับประทานอาหารกลางวันกัน

     เวลา ๑๓.๐๐ น.ให้ผู้เข้าอบรมเข้าฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐานต่อ ไปจนถึงเวลา ๑๖.๐๐ น. (ฟังผู้เข้าอบรมกล่าวว่าเป็นการจัดหนัก)

     เวลา ๑๘.๐๐ น.ย้ายสถานที่มาทำกิจกรรมจากศาลาปฏิบัติธรรม มาที่บริเวณพระธาตุจอมทอง โดยเริ่มการไหว้พระ เวียนเทียน (งานนี้ผู้เขียนได้ซื้อประทีป(เปรียบเหมือนดวงปัญญา)และซื้อยาสมุนไพร(เปรียบเหมือนสุขภาพกายใจ)ถวาย-มอบแด่ผู้เข้าร่วมโครงการ) หลังจากนั้นจึงได้ทำวัตรสวดมนต์ ให้ข้อคิดแก่ผู้ปฏิบัติฯ

     เวลา ๒๐.๐๐ น. เข้าสู่การฝึกอบรมวิปัสสนากัมมัฏฐาน โดยพระวิปัสสนาท่านได้สอนให้ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่เมื่อวานและตอนกลางวัน รวมเป็น ๔ ระยะ ส่วนช่วงกลางคืนเพิ่มอีก ๒ ระยะ เป็น ๖ ระยะโดยแยกระหว่างพระนวกะปฏิบัติทิศตะวันของวิหารและทิศตะวันตกเป็นของญาติโยม ส่วนผู้ไม่สะดวกในการยืนเดินเพราะอายุมากแล้วทางวัดได้จัดเก้าอี้ให้นั่งปฏิบัติตามอัธยาศัย

     หลังจากฝึกอบรมเสร็จแล้ว ก็มีพิธีจุดเทียน(ประทีป)เพื่อพ่อ โดยให้แต่ละท่านได้จุดเทียนอธิษฐานจิตว่าจะทำดีอย่างไรให้กับพ่อหลวง และตั้งจิตอธิษฐานเพื่อความเป็นสิริมงคลสำหรับชีวิต แล้วเลิกไปพักผ่อน

     วันที่สาม (๗ ธค.) มีกิจกรรมตั้งแต่เช้าเช่นกันคือตื่นนอน ๐๔.๐๐ น.และทำวัตรสวดมนต์ตอน ๐๕.๐๐ น.หลังรัปทานอาหารเช้าได้มีพิธีปิดโครงการฯ

     นับว่าโครงการสมโภชพระธาตุจอมทองและปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ได้สร้างการสั่งสมบุญกุศลให้กับตนเองใน ๓ อย่างด้วยกัน คือ

     ๑.ได้ทำการสักการบูชาพระธาตุจอมทอง ซึ่งถือว่าเป็นศูนย์รวมใจของชาวพุทธทั้งหลาย

     ๒.ได้ทำความดีเพื่อในหลวง ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา

     ๓.ได้ยังกุศลให้ถึงพร้อม ด้วยการถือศีล ๕ และปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน นับเป็นบุญและกุศลยิ่งใหญ่ใน ๓ มิติทางพระพุทธศาสนาคือ ศีล-สมาธิ และปัญญา ..........สาธุ

 

หมายเลขบันทึก: 470728เขียนเมื่อ 8 ธันวาคม 2011 19:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 มีนาคม 2012 16:04 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท