การเป็นคนเก่ง ไม่ใช่ความโชคดีของพันธุกรรมหรอกนะ อยู่ที่การฝีกขัดเกลาสมองและหัวใจของคุณต่างหาก แล้วคุณจะมีความปราดเปรื่องในแบบฉบับของคุณเป็นคนเก่ง ที่สามารถจัดการกับชีวิตของตนเองได้อย่างลงตัว
1. คิดในทางบวก
มองโลกในแง่ดี และทาทุกสิ่งอย่างเต็มกาลัง ด้วยรอยยิ้มและความเบิกบาน ทาตัวให้สดชื่น มีชีวิตชีวาและกระตือรือร้นอยู่เสมอ พร้อมที่จะเผชิญกับทุกสถานการณ์ จะช่วยให้คุณสามารถที่จะจัดการกับทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามาได้อย่างอยู่มือ
2. มีศรัทธาในตัวเอง
ถ้าแม้แต่ตัวคุณเอง ยังไม่ศรัทธาและเชื่อมั่นในตัวเอง แล้วจะมีมนุษย์หน้าไหนล่ะ จะเชื่อในความเก่งของคุณอยากให้ใครๆ เขาชื่นชอบและทึ่งในตัวคุณ คุณก็ต้องมั่นใจตัวเองก่อน
3. ขอท้าคว้าฝัน
ไม่มีอะไรที่จะทรงพลังมากเท่ากับความตั้งใจจริง และทุ่มสุดตัวหรอกนะ ความกระหายอันแรงกล้า ที่จะพาตัวเองไปสู่จุดหมาย นั่นแหละเป็น แรงผลักดันที่จะทาให้คุณสานฝันสู่ความจริงได้
4. ค้นหาบุคคลต้นแบบ
ใครก็ได้ที่คุณชื่นชม เพื่อเป็นมาตรฐานที่ดีในการดาเนินรอยตาม ศึกษาแนวคิด วิธีการทางาน จุดเด่นในตัวเขา เผื่อว่าเราจะได้ไอเดียแจ๋ว ๆ มาปรับใช้ให้ชีวิตก้าวโลดสู่ความสาเร็จกับเขามั่ง
5. เริ่มต้นงานใหม่ทุกวันด้วยรอยยิ้มสดใส คนที่มีรอยยิ้ม ระบายไว้บนใบหน้า เสมือนประตูที่เปิดกว้าง ให้ใครๆ อยากเข้ามาคบหาด้วย การเจรจาติดต่องาน ก็มักจะลงเอยด้วยความสาเร็จ มากกว่าคนที่หน้าตาแบกโลกนะคับ นอกจากนี้รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ยังสร้างความเบิกบาน และคลายทุกข์ แถมยังเป็นยาอายุวัฒนะชั้นอ๋อง ที่ทาให้เราดูเป็นวัยสะรุ่นตลอดกาล รู้อย่างนี้แล้ว..หัดติดรอยยิ้มไว้ที่มุมปากกันเป็นประจำนะ
6. เรียนรู้จากความผิดพลาด
ก็สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง จะเป็นอะไรเชียวถ้าเราจะทาอะไร แล้วจะยังไม่สาเร็จอย่างที่หวังไว้ เพียงแต่ขอให้ทาเต็มที่ และเปิดใจให้กว้าง ยอมรับความจริง หันมาทบทวน ดูว่ามีขั้นตอนไหนที่ผิดพลาดไป... เพื่อที่จะเริ่มต้นใหม่ให้ดีกว่าเดิม 7. ทะนุถนอมมิตรสัมพันธ์เก่าๆ
คงไม่มีใครที่จะอยู่อย่างมีความสุข โดยปราศจากเพื่อนหรือมิตรที่รู้ใจหรอกนะ แม้ว่าในชีวิตแต่ละวันของคุณจะวุ่นวายแค่ไหนก็ตาม คุณควรจะมีเวลาให้กับเพื่อนซี้ ที่รู้จักมักจี๋กันมานานซะบ้าง แวะไปหากัน เมื่อโอกาสอำนวย ชวนกันออกมาทานข้าวในช่วงวันหยุด เผื่อในยามที่คุณเปล่าเปลี่ยวหงอยเหงา เศร้าทุกข์ใจ ก็ยังมีเพื่อนแสนซื้ ไว้พื่งพา และให้กาลังใจกันได้นะ
มาเยี่ยมเยือนครับ