เรื่องเล่าจากน้ำท่วม ตอน ครั้งเดียวไม่เคยพอ


พระพุทธองค์ทรงสอนไม่ให้สันโดษในกุศลกรรม ทำดีได้ ต้องทำ...ทำทันทีและทำทุกโอกาส โดยไม่รอเวลา... เมื่อเอย เมื่อนั้น... เพราะไม่มีใครทราบหรอกว่า ... พรุ่งนี้เช้าหรือชาติหน้า อะไรจะมาถึงก่อน ... เพื่อความไม่ประมาท ความดีจึงเป็นสิ่งที่ต้องเร่งทำ ทั้งทำแบบรุกคืบและแบบตั้งรับ

ครั้งเดียวไม่เคยพอ 

          ความสันโดษ หมายถึง ความพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ เป็นอยู่ 

         การถือสันโดษเป็นหนึ่งในมงคลชีวิต 38 ประการ เป็นหลักธรรมของพระพุทธองค์ที่สอนให้เรายินดีตามมี ตามเกิด มีแค่ไหนก็พอใจแค่นั้น  ยินดีตามกำลัง มีกำลังเท่าใด ก็พอใจเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นกำลังกาย กำลังทรัพย์ กำลังความสามารถ กำลังสติปัญญาหรือกำลังบารมี  แต่หลักธรรมข้อนี้ไม่ได้รวมถึง การสันโดษในกุศลกรรม

         “พ่อมหา”  คือ มหามนตรีและมหาญาณภัทร เปรียญธรรม 7 ประโยค และ 9 ประโยค ยืนยันเป็นแม่นมั่น พระพุทธองค์ทรงสอนไม่ให้สันโดษในกุศลกรรม ทำดีได้ ต้องทำ...ทำทันทีและทำทุกโอกาส   โดยไม่รอเวลา... เมื่อเอย เมื่อนั้น...   เพราะไม่มีใครทราบหรอกว่า ... พรุ่งนี้เช้าหรือชาติหน้า อะไรจะมาถึงก่อน ... เพื่อความไม่ประมาท ความดีจึงเป็นสิ่งที่ต้องเร่งทำ ทั้งทำแบบรุกคืบและแบบตั้งรับ

         น้ำท่วมปีนี้หนักหนากว่าทุกปี ทำให้เราได้มีโอกาสเยี่ยมเยียน ให้กำลังใจ สัมผัสปัญหาและใกล้ชิดกับพี่น้องในท้องถิ่นมากกว่าปีก่อนๆ  เริ่มตั้งแต่อยุธยา สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี นครนายกและนครปฐม การออกพื้นที่แต่ละครั้ง ไม่ใช่เรื่องสนุก

         ชุดที่ไปบางบาล อยุธยา  นำโดยนายกองค์การบริหารส่วนตำบลนครปฐม ประพัฒน์ ริ้วทองชุ่ม  ออกจากวัดใหม่ปิ่นเกลียวตั้งแต่เช้า ใกล้เที่ยงแล้วยังไม่ถึงไหน เพราะต้องวิ่งหนีน้ำ เข้าทางนั้น อ้อมทางโน้น วกทางนี้   พลันรถสิบล้อที่บรรทุกของไปเต็มพิกัดก็เกิดชำรุดขึ้นมาอีกในเวลาที่พอเหมาะพอเจาะ   ทำให้ทุกคนต้องนั่งจับเจ่ารอซ่อมอีกสองชั่วโมงกว่า

         ส่วนชุดที่ไปวังน้อย ก็ไม่แพ้กัน ออกจากมหาวิทยาลัยตอนสิบเอ็ดโมงนำโดยเจ้าอาวาสวัดโพรงมะเดื่อ กลับมาถึงเอาตีสาม  ระหว่างทาง บางช่วงบางตอนต้องเปลี่ยนถ่ายคนขึ้นรถทหาร เพราะรถหกล้อสูงเข้าไม่ได้  จึงต่างกระจัดกระจายวิ่งขึ้นรถ.. ค้นนี้.. คันนั้น

         พอถึงที่หมาย จึงรู้ว่า อ๋อ.. ไอ้คันนี้มันวิ่งมาทางนี้  ส่วนไอ้คันนั้นมันก็วิ่งไปทางนั้น 

         “อ้าว! แล้วลูกสาวผมล่ะ”  พ่อมหาญาณภัทร “ร้อน” ขึ้นมาทันที รีบโทรหาแม่ยาย ที่เข้าใจว่าน่าจะติดอยู่ในรถคันเดียวกับ “น้องพริม” ลูกสาว  โชคดีอยู่หน่อยว่า บนรถคันนั้น มิได้มีแค่เด็กและคนชรา แต่มีสาว “มีมี่” อยู่ด้วย จึงพอเบาใจ คลายกังวลไปได้บ้าง  พอภรรยาโทรมาถามทีไร  พ่อมหาก็ได้แต่บ่ายเบี่ยง พยายามอย่างยิ่งที่จะรักษาศีลข้อสี่ ...

         อืม.. เรียบร้อย.. เรียบร้อย.. ยุ่งอยู่... ยุ่ง ยุ่ง..ช่วยเณร ..ช่วยเณรวิดน้ำ.. เดี๋ยวโทรกลับ ..

         ..เป็นอยู่อย่างนั้น หลายครั้ง จนจับได้..  ปรากฏว่าวันนั้นน้องพริม คุณยายและมีมี่   ต้องเดินเที่ยวอยู่ในห้างฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต จนกระทั่งห้างปิด  แล้วก็ออกมานั่งแกร่วร้องเพลงรอพ่อ   ..พ่อไม่มา.. พ่อไม่มา.. ท่ามกลางแสงสลัวของไฟริมทางและระดับน้ำที่ค่อยๆ เขยิบสูงขึ้นมาบนบาทวิถี

         เมื่อตอนที่ไปถึงวัดชูจิตธรรมารามนั้น เป็นเวลาใกล้ค่ำแล้ว  ทีมงานทุกคนทั้งนักศึกษา อาจารย์ ไม่เว้นแม้กระทั่งเจ้าอาวาสวัดโพรงมะเดื่อ และผู้พักพิงที่มาอาศัยวัดชูจิตเป็นที่หลบลี้ภัย   ก็ช่วยกันกุลีกุจอขนถุงยังชีพและน้ำดื่ม   ในขณะที่พระภิกษุและสามเณรน้อยนับร้อยรูปยังยื้อยุดอยู่กับน้ำ  ช่วยกันปิดล้อมและสกัดกั้น  ด้วยมีผู้พักพิงกว่าร้อยชีวิตเป็นเดิมพัน  มิรู้ว่าจะต้านทานได้นานแค่ไหน แต่ก็ทำ

          วัดชูจิตธรรมาราม เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขต มหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย อยู่ที่อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  สถานศึกษาแห่งนี้ เปิดรับพระภิกษุสามเณรเข้ามาศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา นักธรรมตรี โท เอก และศึกษาภาษาบาลี  ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516  โดยมีพระภิกษุและสามเณรมาจากทั่วทุกภาคของประเทศ  สำเร็จการศึกษาออกไปแล้วกว่า 10,000 รูป แทบทั้งหมดยังคงมีบทบาทในการบำเพ็ญประโยชน์แก่พระศาสนาและประเทศชาติ   ในปัจจุบัน นับได้ว่า วัดชูจิตธรรมารามนี้  เป็นวัดที่มีพระภิกษุสามเณรอยู่จำพรรษามากที่สุด  ประมาณปีละ 1,000 รูป

          เสร็จงานแล้ว ในตอนดึก จึงรีบนมัสการและล่ำลากัน  ชาวคณะของเราต้องรีบกลับ เพราะในขณะนั้น  ระดับน้ำยังคงสูงขึ้น...สูงขึ้น หากไม่ทันการณ์ อาจจะกลับออกไปไม่ได้  และเพียงไม่กี่วันต่อมา ก็ได้ทราบข่าวว่า ศึกชิงพื้นที่ระหว่างคนกับน้ำยุติลงแล้ว โดยที่ผ่ายแรกแพ้อย่างยับเยิน

          นักศึกษา ครู อาจารย์ได้รับบทเรียนและประสบการณ์ที่ชวนระทึกใจมากมายจากการธรรมยาตราในครั้งนี้   แต่หลายคนคิดตรงกันว่า .. ครั้งเดียว ไม่เคยพอ..

 

หมายเลขบันทึก: 470430เขียนเมื่อ 6 ธันวาคม 2011 09:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน 2012 15:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท