ในส่วนตัวของผมงานวิจัยเชิงคุณภาพมีเสน่ห์มากครับ เพราะทำให้ผมคิดแบบสามเหลี่ยม เหลี่ยมแรก คือ คำถามวิจัยของตนเอง เหลี่ยมสอง คือ แนวคิดทฤษฎีที่เรานำมาจับประสบการณ์ และเหลี่ยมสาม คือ การเก็บข้อมูล ผมเดินรอบ ๆ สามเหลี่ยม แล้วก็วิเคราะห์ข้อมูลไปพร้อม ๆ กัน ...สำหรับมือใหม่ยิ่งอยู่ในพื้นที่รับรองว่า คุณทำได้ เราไม่ต้องเป็น-คนใน- แต่เราต้องฟังเสียงหัวใจของผู้ที่ให้ข้อมูลเรา...เดินรอบสามเหลี่ยมอย่างมีสติ...นอกจากผลงานวิจัยที่เราได้ (อาจดีหรือไม่ดีบ้าง) มันไม่ยิ่งใหญ่เท่ากับ...ขอบคุณผู้ให้ข้อมูลของเราทุกท่าน คือ ครู ของเรา...ครูที่ทำให้เราเข้าใจตนเอง..ผู้อื่น...และโลกครับ
ถึงแม้กิตติกรรมประกาศของผม...เขียนไว้มานานแล้ว...
แต่กลับมาอ่านอีกครั้ง..ในยามลมหนวกรู
ในใจของผม...ยังมีความคิดไม่เปลี่ยนแปลง
รู้สึกดีใจที่ได้กลับมานั่งอ่านมากอีกครั้ง
ยิ่งมีความรู้สึกว่า...ตนเอง
ไม่ได้มีความหมายยิ่งใหญ่สำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง
เป็นเหมือนละอองฝุ่นน้อย ๆ ปลิวอยู่ในสายลมของบรรยากาศเช้าวันนี้
-----------------------------
คุณค่าของการศึกษาครั้งนี้ มอบแด่
บุพการี คณาจารย์ และผู้มีพระคุณ
กลุ่มเป้าหมายของการวิจัยทุกท่าน ที่สะท้อนบทเรียนให้ผู้ศึกษา
เห็นภาพปัญหาอคติทางชาติพันธุ์ ที่ถูกสร้างและผลิตซ้ำผ่านกลไกต่าง ๆ ในสังคม
ถูกสร้างเป็นภาพมายาที่กดทับพวกเรากันเอง
กลายเป็นสังคมที่ดำรงอยู่ด้วยความกลัว
ความกลัวที่ไม่ได้เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ
เป็นความกลัวที่ถูกสร้างขึ้นจากการรับรู้ผ่านสื่อต่าง ๆ รวมถึงจากการไม่รู้
ที่สังคมได้ผลิตซ้ำฐานคติเหล่านี้ครั้งแล้วครั้งเล่า
และสุดท้ายกลายเป็นเรื่องธรรมชาติไป
เหนือสิ่งอื่นใด…
ความกล้าที่หลุดพ้นจากความกลัว
ของกลุ่มเป้าหมายของการวิจัย
ที่เยียวยาให้ผู้ศึกษาหลุดพ้นจากความกลัวเฉกเช่นเดียวกัน...