ความสำเร็จที่น่าภูมิใจ : ป้องกันไข้หวัด H1N1 ระบาดในปี 2009
เพียง ๒ ปี ผ่านไป ผู้คนในโลกอาจจะลืมไปแล้วว่าตอนนั้นประชากรโลกเสี่ยงต่อการตายเป็นใบไม้ร่วง จาก “ไข้หวัด 2009” มากเพียงใด เนื่องจากเชื้อไข้หวัด 2009 เป็นเชื้อตัวใหม่เอี่ยม ที่มนุษย์ทั้งโลกไม่เคยประสบ จึงยังไม่มีภูมิต้านทาน
จึงต้องเร่งสร้างภูมิต้านทานให้แก่ประชากรโลกทั้งหมด เน้นที่คนกลุ่มเสี่ยง ได้แก่หญิงมีครรภ์ เด็ก และคนที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง โดยการผลิตวัคซีนเอามาแจกจ่ายและดำเนินการฉีด การดำเนินการนี้ประสบ ความสำเร็จอย่างน่าชื่นชม องค์การอนามัยโลกจึงทำวีซีดีความยาว ๑๕ นาทีออกเผยแพร่ ชื่อว่า A Vaccine story : H1N1 influenza pandemic (2009) ดูแล้วเกิดความชื่นชมว่าโลกสมัยนี้ก้าวหน้าไปมาก ผมจินตนาการว่าหาก เหตุการณ์นี้เกิดเมื่อ ๖๕ ปีที่แล้ว ตอนผมเป็นเด็ก ผมอาจตกเป็นเหยื่อของโรค และตายไปก็ได้ ตอนนั้นน้องของ ผมถึงสองคนตายตั้งแต่ยังแบเบาะ
น่าเสียดายที่ค้นด้วย Google และ YouTube ไม่พบวิดีโอเรื่องนี้ แต่ใน YouTube พบร่องรอยของข้อ โต้แย้ง และความไม่ไว้วางใจข่าวเรื่องไข้หวัด 2009 และข่าวผลข้างเคียงของวัคซีน รวมทั้งมีพระ (คริสต์) ออกมาห้ามผู้คนไม่ให้ฉีดวัคซีน ดูแล้วโกลาหลทำนองเดียวกับน้ำท่วม ๒๕๕๔ ในประเทศไทย
คนที่ดูเฉพาะวิดีโอนี้ จะไม่ตระหนักว่าในระหว่างเกิดสถานการณ์มีข่าวต่างๆ สับสนเพียงใด ต้องเข้าไปค้นใน YouTube จึงจะตระหนัก
ทำให้ผมเกิดความคิดว่า นักวิชาการน่าจะทำวิจัยแบบ AAR หลังเหตุการณ์ใหญ่ๆ โดยเข้าไปค้น ข้อมูลข่าวสารจากแหล่งต่างๆ รวมทั้งใน social media เพื่อเป็นข้อเรียนรู้ว่าหากเกิดสถานการณ์คล้ายคลึง กันในอนาคต สังคมควรปรับปรุงวิธีรับมืออย่างไร ถือเป็นการวิจัยเชิงสังคมวิทยา
วิจารณ์พานิช
๖ พ.ย. ๕๔
ไม่มีความเห็น