"เรียนรู้เรื่องน้ำ ในช่วงวิกฤติอุทกภัย๕๔"
วิกฤติของน้ำที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติปีนี้เป็นผลให้ประชาชนทั่วประเทศต่างได้รับภัยวิบัติ หลายคนบ่นว่า...กล่าวโทษกันไปต่างๆนาๆสาระ ?????
แต่เมื่อวิเคราะห์ไปให้ลึกแล้วน่าจะเป็นโอกาสของการปฏิรูปการเรียนรู้ที่ธรรมชาติกำลังสอนให้มนุษย์ทุกคนต้องจำและต้องพัฒนาตนเองควบคู่ไปกับความเปลี่ยนแปลงของโลก ในขณะเดียวกัน
ถึงเวลาแล้วที่ลูกหลานเยาวชนเราต้องเรียนรู้สู่ทักษะชีวิตอย่างจริงจัง เราต้องฝึกให้ลูกหลานเราให้อยู่กับธรรมชาติและใช้ธรรมชาติให้เป็นไม่เพียงแต่เอาชนะธรรมชาติเพียงเพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่อาศัยการเมืองเป็นผู้สร้างสมปัญหา
วิกฤติของ น้ำ เราจะจัดการเรียนรู้อะไรจากน้ำ เช่น ๑. การอนุลักษณ์ธรรมชาติ(โลกสีเขียว-โลกร้อน) ๒. ทักษะชีวิต ที่จะช่วยให้เราดำรงตนอยู่ได้อย่างปลอดภัยและสมดุลย์กับธรรมชาติ ๓. ธรรมชาติของน้ำ ประโยชน์และโทษของน้ำ ๔. การกักเก็บน้ำ สายน้ำ แม่น้ำลำคลอง ฯลฯ ๕. คุณธรรม วินัย คุณภาพชีวิต ๖. การบริหารจัดการของนักการเมือง-การปกครอง และการมีส่วนร่วม ๗. สุขอนามัย ๘. น้ำท่วม น้ำแล้ง ฯลฯ
สารพัดจะคิดได้ เพียวคำว่า "น้ำ" อย่างเดียว น้องน้ำก็สามารถนำมาสร้างเป็นประโยชน์และให้โทษได้มหาศาล ดังนั้น " น้ำ เขามีธรรมชาติที่อ่อนโยน นิ่มนวลในบางครั้ง แต่ก็รุนแรงเมื่อมีปริมาณมวลมากๆ น้ำสามารถปรับตัวเองให้อยู่ได้กับภาชนะทุกรูปแบบ มวลน้ำถ้ามีมากพอ น้ำก็กลายเป็นได้ทั้งคุณและโทษ น้ำจะให้คุณกับคนที่รู้จักประโยชน์ของน้ำ และน้ำจะให้โทษกับคนที่ไม่รู้จักน้ำคิดแต่จะเอาชนะน้ำ "
ลอยกระทง ในย่าน บ้านน้ำท่วม
โอ้อกอ่วม อึดอัด ขัดข้องขุ่น
ท่านพระแม่ คงคา แสนทารุณ
เจ้าประคุ้ณ ลดเถิดหนอ ขอขมา
ขอขอบคุณพีโสภณ เปียสนิท
ที่อุทิศเวลามาอ่านสาร
ท่านพิสูจน์ ยังอุตส่ามาพบพาน
อีกไม่นาน แม่คงคา คงลาไป
คงเอ๋ยคงคา
ปล่อยลูกน้ำมาเยี่ยมชิดใกล้
หวังให้น้ำได้พบเพื่อนชาวไทย
แต่ทำไม ทุกคน ไม่ต้องการ
บ้างกล่าวหาว่าลูกน้ำ ทำเดือดร้อน
บ้างไหว้วอนให้น้ำ ช่วยสงสาร
ผลักใสน้ำไปให้ไกลด้วยลำคาร
ส่งน้ำนั้นลงทะเล ไปให้ไกล
กลับมาดูตนเอง