มะละกอนุ่งกระโปรง


เคล็ดลับทั้งหมดที่ผมกล่าวมา เป็นคติความเชื่อแบบโบราณนะครับ ไม่ใช่หลักวิชาการทางการเกษตรแต่อย่างใด.....ผู้เคร่งครัดในหลักวิชาการทางการเกษตรจึงไม่ควรนำไปใช้อย่างยิ่ง เพราะอาจจะทำให้ท่านจับไข้หัวโกร๋นได้ง่ายๆ 555

 

 

 

 

 

 

เรื่องเล่าจากบ้านแม่ตาด :

มะละกอนุ่งกระโปรง

 

 

หลังจากนุ่งกระโปรงได้ประมาณ 2 เดือน จากนั้นมะละกอต้นนี้ก็ออกผลดกเต็มต้นอย่างที่เห็น

 

 

(๑)

 


 

          “อั้ยย่ะ! พระเจ้าช่วยกล้วยปิ้ง! ใครเนี่ยอุตริเอากระโปรงยีนส์มามัดไว้กับต้นมะละกอของฉันแบบนี้เนี๊ยะ?” 

          ผมอุทานแบบขำๆ เมื่อมองเห็นต้นมะละกอที่ตนเองปลูกไว้ริมทุ่งนาข้างบ้านมีคนเอาโปรงยีนส์เก่าๆ ของลูกสาวมามัดไว้ ในตอนเย็นของวันหนึ่งเมื่อหลายเดือนก่อน

          เนื่องจากผมต้องออกเดินทางไปส่งสินค้าที่ต่างจังหวัดเกือบทุกวัน โดยออกเดินทางตั้งแต่ก่อนไก่โห่ กว่าจะกลับมาถึงบ้านก็มืดค่ำ บางวันก็ดึกดื่นเที่ยงคืน เลยทำให้ไม่ค่อยได้สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในบริเวณบ้านมากเท่าใดนัก

          เย็นวันนั้น เมื่อเห็นมีคนนำเอากระโปรงยีนส์มามัดไว้กับต้นมะละกออย่างนั้น ผมก็เลยรู้สึกขำและแปลกใจอย่างมาก พร้อมทั้งอยากจะทราบจังเลยว่าใครเป็นคนทำอย่างนั้น?  และทำเพื่อจุดประสงค์อันใดกัน?

          ถามไปถามมา ในที่สุดก็ทราบว่า เจ้าของไอเดียอันน่าทึ่งนี้ ไม่ใช่คนอื่นคนไกลหรือใครที่ไหนเลย หากแต่เป็นฝีมือของ “แม่ยาย” ที่เคารพของผมนั่นเอง  คิคิคิ

          แม่ยายผมท่านบอกว่า  มะละกอต้นนี้เติบโตและสมบูรณ์เต็มที่แล้ว แต่ไม่ยอมออกลูกสักที บางครั้งออกดอกมาเต็มต้น แต่สุดท้ายก็หล่นลงพื้นหมด   ในขณะที่มะละกอต้นอื่นกลับออกดอกออกผลเต็มต้น ทั้งที่ปลูกทีหลังตั้งหลายเดือน  ดังนั้น ท่านก็เลยนำความเชื่อแบบโบราณมาแก้เคล็ด เพื่อช่วยให้มะละกอออกลูกและมีลูกดก  โดยวิธีแก้เคล็ดที่ว่าก็คือการนำเอา “กระโปรง” หรือ “เสื้อยกทรง” มานุ่งให้กับต้นมะละกอนั่นเอง  เพราะเชื่อกันว่าต้นไม้ผลส่วนใหญ่เป็นไม้ตัวเมียหรือเป็น “ผู้หญิง” หากนำสิ่งของเครื่องใช้ของคุณสุภาพสตรีมาสวมใส่ให้ ก็จะทำให้เธอชอบใจหรือโปรดปราน แล้วจะตอบแทนบุญคุณให้กับเจ้าของโดยการผลิดอกออกผลให้อย่างเต็มที่

          แต่เนื่องจากแม่ยายผมท่านพิจารณาเห็นว่า หากจะนำเอาเสื้อยกทรงของสตรีไปสวมให้กับต้นมะละกอ ก็ดูจะพะเจิดพะเจ้อเกินไป ก็เลยนำเอากระโปรงยีนส์เก่าๆ ที่ลูกสาวผมไม่ใช้แล้ว ไปมัดไว้ที่ต้นมะละกอแทน

          ผมนั่งฟังแม่ยายเล่าด้วยความรู้สึกขำและฮาอยู่ในใจ เพราะไม่เคยได้ยินเรื่องราวแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต.....แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็ไม่ได้คิดลบหลู่ความเชื่อนี้แต่อย่างใดนะครับ

 

 

 

(๒)  

 

          หลังจากนั้นไม่นาน ผมได้แวะเข้าไปอ่านบันทึก เรื่อง “ลูกแรกในชีวิต (2)”     ของคุณป้า “ลำดวน”  หรือ นาง ลำดวน ไกรคุณาศัย (เรือนรื่น)  ศึกษานิเทศก์  สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุพรรณบุรี เขต 2  ซึ่งป้าลำดวนได้เล่าถึงขนุนที่ตนเองปลูกไว้หลายปีแล้ว แต่เพิ่งจะออกลูกครั้งแรก  โดยมีเพื่อนๆ หลายคนเข้าไปร่วมแสดงความคิดเห็น รวมทั้งตัวผมเองด้วย(ซึ่งแสดงความคิดเห็นไปหลายรอบทีเดียว)

                ตอนหนึ่ง ป้าลำดวนได้ตอบผมกลับมาว่า

“สวัสดีค่ะ......

    รู้อีกวิธีหนึ่งค่ะ .....โบราณบอกให้ใช้ผ้าถุงหรือเสื้อยกทรงไปผูกต้นที่ไม่ออกลูก แล้วจะออกลูกและจะดก และเคยทำด้วยตอนเด็กๆแม่ใช้ให้เอาผ้าถุงแม่ไปพันต้นมะยมที่ไม่ยอมออกลูกสุดท้ายออกลูกดกมากมายเลยค่ะ

    เอ...หรือจะใช้วิธีนี้กับต้นขนุนดี......ขอบคุณมากนะคะที่มาทำให้นึกวิธีการออก....”

                ทันทีที่ผมได้อ่านข้อความนี้ของป้าลำดวน ก็ทำให้ผมถึงกับบางอ้อและตาสว่างขึ้นมาทันที เพราะช่างตรงกับวิธีแก้เคล็ดของแม่ยายผมเหลือเกิน จะต่างกันอยู่บ้าง ก็ตรงที่แม่ยายผมเลือกใช้ “กระโปรงยีนส์” แทน “ผ้าถุง” และ “เสื้อยกทรง” เท่านั้นเอง

                แล้วผม ก็รีบตอบป้าลำดวนไปว่า

“สวัสดีครับ....

        เดือนที่แล้ว แม่ยายผมก็เอากระโปรงของลูกสาวไปผูกไว้ที่ต้นมะละกอข้างๆ บ้านนะครับ เนื่องจากต้นโตมากแล้ว แต่ไม่ยอมออกลูกเลย ผมไม่เคยรู้วิธีนี้มาก่อน เลยอดสงสัยไม่ได้ว่า ใครหนอช่างอุตริเอากระโปรงเด็กมานุ่งให้ต้นมะละกอ แต่พอถามไปถามมาถึงรู้ว่าเป็นฝีมือของแม่ยาย ยิ่งได้อ่านที่ป้าลำดวนบอกมาอีก ก็เลยทำให้ได้ความรู้เพิ่มเติมอีกวิธีหนึ่ง

        ตอนนี้มะละกอต้นนั้น ออกลูกแล้วนะครับ และทำท่าจะดกเสียด้วย เอาไว้วันหลังจะถ่ายรูปส่งไปให้ดูนะครับ”

               

         ไม่เชื่อ....ก็ต้องเชื่อนะครับว่าวิธีแก้เคล็ดที่แม่ยายของผมทำนั้น ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมเลย  เพราะว่าหลังจากนั้นไม่นานมะละกอต้นนั้นก็ผลิดอกและออกลูกเต็มต้นเลยนะครับ แถมลูกยังโตกว่าต้นอื่นๆ อีกต่างหาก

               

          วันนี้....ผมก็เลยเก็บรูปต้นมะละกอนุ่งกระโปรงที่ออกลูกดกเต็มต้นมาฝากป้าลำดวนและเพื่อนๆ ใน gtk ได้ชมตามที่ได้สัญญาเอาไว้คราวนั้นนะครับ

 

 

(๓)

 

 

          นอกจากความเชื่อแบบโบราณเกี่ยวกับการนุ่งกระโปรง ผ้าถุง หรือเสื้อยกทรง ให้กับต้นไม้ผลเพื่อเป็นการแก้เคล็ดให้ต้นไม้ผลิดอกออกผลตามความต้องการ ซึ่งเป็นคติความเชื่อที่มีอยู่ทั่วทุกภาคของไทยแล้ว  ก็พอดีผมนึกได้ว่า แถวๆ บ้านเกิดของผมที่ภาคอีสาน(ศรีสะเกษ)เขามีการนำเคล็ดลับหรือเกร็ดความรู้(แบบไสยศาสตร์)ตาม ภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ในการทำให้พืชหรือผลไม้ออกลูกดกด้วยนะครับ.....อาจจะน่าขำหรือฮาสักหน่อย  แต่ไม่เชื่อ...ก็อย่าลบหลู่นะครับ (คิคิคิ)  โดยมีอยู่ 2 วิธีด้วยกันครับ  คือ........

          1.  เอาไม้คานไปเคาะต้นไม้ตอนเกิดจันทรุปราคา.....กล่าวคือ  เวลาเกิดจันทรุปราคาหรือจันทคราส ให้เอาไม้คาน(ไม้สำหรับหาบตะกร้าหรือกระบุง) ไปตีหรือเคาะตามต้นไม้ผลที่เราปลูก พร้อมทั้งบอกกล่าวด้วยว่า....ขอให้ออกลูกออกผลเยอะๆ ด้วยเน้อ ทำนองว่าไปช่วยปลุกให้รุกขเทวดาที่สิงอยู่ในนั้น ได้มีสติและทำหน้าที่ของตนอย่างสมบูรณ์...อะไรทำนองนี้แหละ

          2.  ให้เอาตะปูที่เขาตอกโลงศพไปตอกที่ต้นไม้.......คือ  พอเขาเผาศพเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ไปเก็บเอาตะปูที่เขาใช้ตอกโลงศพมาสัก 3 ดอก จากนั้น ก็เอาไปตอกที่ต้นไม้ผลที่เราต้องการให้ออกลูกเยอะๆ ตอกให้มิดเลยนะครับ แล้วก็ประนมมืออธิษฐานขอตามใจชอบ  จากนั้นไม่นานต้นไม้นั้นก็จะออกลูกดกสมความปรารถนา

          อันหลังนี้ออกจะน่ากลัวไปสักหน่อย แต่ผมก็เคยเห็นเขาทำกัน และได้ผลจริงๆ นะครับ ในขณะที่ผมเองก็เคยทำเช่นกัน สมัยที่ยังเป็นเด็ก โดยเอามาตอกต้นมะพร้าว ที่ไม่ยอมออกลูกซะที หลังจากนั้นไม่นาน ปรากฏว่าออกลูกดกมากจนกินไม่หวาดไม่ไหวเลยละครับ

    

          สนใจวิธีไหน เพื่อนๆ ก็ลองนำไปใช้ดูนะครับ  ได้ผลอย่างไรก็ช่วยเล่าสู่กันฟังบ้างละกัน  คิคิคิ

 

 

 

(โปรดทราบ......เคล็ดลับทั้งหมดที่ผมกล่าวมา เป็นคติความเชื่อแบบโบราณนะครับ  ไม่ใช่หลักวิชาการทางการเกษตรแต่อย่างใด.....ผู้เคร่งครัดในหลักวิชาการทางการเกษตรจึงไม่ควรนำไปใช้อย่างยิ่ง เพราะอาจจะทำให้ท่านจับไข้หัวโกร๋นได้ง่ายๆ  555)

 

 

เชิญแวะเข้าไปอ่านบันทึกของ "ป้าลำดวน" เรื่อง  "ลูกแรกในชีวิต(2)"

ได้ที่นี่ครับ http://www.gotoknow.org/blogs/posts/447732

 

 

 


ลูกที่ออกก่อนเพื่อนกำลังสุก ส่วนลูกอื่นๆ ก็ทะยอยเติบโตเต็มต้น

 

กระโปรงเริ่มออกราให้เห็น เพราะใส่มาหลายเดือนแล้ว

 

 

เพลง     "ส้มตำ"

บทเพลงพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามมกุฏราชกุมารี

ขับร้องโดย      "พุ่มพวง   ดวงจันทร์"

 


หมายเลขบันทึก: 466494เขียนเมื่อ 28 ตุลาคม 2011 22:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 13:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (34)

ขอบคุณคะ

ที่บ้านมีต้นมะยม ไม่ยอมออกลูกสักที

แม่เลยเอามีดพร้าไปฟันฉึกหนึ่ง แต่เปลี่ยนใจไว้ฟันต่อวันหลัง

...

ปรากฎว่า อาทิตย์ถัดมา มีช่อ ออกมาเลย

...

จิตวิทยาต้นไม้ :-D

  • มะละกอต้นใหญ่ได้ผลดก
  • ลูกยังปรกรกต่อถึงคอต้น
  • เลี้ยงครอบครัวครอบครองเป็นของตน
  • ปลูกหนึ่งต้นเลี้ยงถึงหนึ่งครอบครัว เอย

 

สวัสดีค่ะคุณอักขณิช

มะละกอนุ่งกระโปรงลูกดกจริงๆน่าทานค่ะ

เพลงเพราะมากค่ะ

ภูมิปัญญา เคล้ดลับ ที่เชื่อและสืบทอดกันมา อย่างลองกองต้องแกล้งให้ ใบโศก แล้วให้น้ำจะติดดอกทันที

หรือต้นไม้เอามีดไปฟันไปสับ ก็จะออกลูก เสมือนหนึ่งไปเตือนว่า อย่ามัวแต่งามอยู่ ถึงเวลาให้ผลใหลูกแล้ว

เป็นความเชื่อที่ปฏิบัติแล้วที่ให้ผลสอดคล้องกับสิ่งที่ต้องการ

คนโบราณท่านมักจะมีแนวคิดดีๆ ที่สอดคล้องกับการดำเนินชีวิต เสมอ เสมอ

 

 

เอ........หากพี่จะเอากระโปรงไปใส่ให้กระปุกออมสิน

ให้เงินเต็มกระปุก เร็วๆ ท่าจะดีเน้าะ  ^__^

 

สวัสดีครับ คุณหมอแต้ CMUpal/ ป.

 

-โอ! มีงี้ด้วยรึ?   แสดงว่าต้นมะยมที่บ้านของคุณหมอชอบความรุนแรงนะนั่น ต้องให้เลือดตกยางออกก่อน จึงค่อยออกลูก

ถ้าหากฟันเยอะกว่านั้น สงสัยผลคงจะดกมากกว่าที่เห็นแน่นอนเลย.....คิคิคิ

-ขอบคุณมากๆ ครับ สำหรับเคล็ดลับใหม่ล่าสุดนี้ เอาไว้ผมจะนำไปทดลองกับต้นมะละกอดูสักต้นนะครับ 555

สวัสดีครับ อาจารย์โสภณ เปียสนิท

-ขอบคุณมากๆ ครับ ที่แวะเข้ามาให้กำลังใจอย่างสม่ำเสมอ

-ตอนนี้มะละกอที่เห็นในรูปก็ทะยอยสุกทีละลูกๆ นะครับ

นอกจากจะรับประทานในครอบครัวแล้ว ผมก็ยังแบ่งปันให้เพื่อนบ้านได้รับประทานด้วย

รสชาติหวานและอร่อยดีครับ

-อยากจะส่งไปให้อาจารย์สักลูก แต่ก็เกรงว่าจะไปไม่ถึงมือ เพราะตอนนี้น้ำกำลังท่วมหนักอยู่ กว่าจะแห้งก็อีกเกือบๆ 2 เดือน....ก็เลยไม่ส่งไปให้ดีกว่า....คิคิคิ

สวัสดีครับ คุณถาวร

-ขอบคุณมากๆ ครับ ที่กรุณาแวะเข้ามาเยี่ยมอย่างสม่ำเสมอ

-หากคุณถาวรสนใจ ก็สามารถนำวิธีนี้ไปทดลองกับต้นไม้ผลที่บ้านดูได้นะครับ รับรองได้ผลแน่นอนครับ คิคิคิ

สวัสดีครับ ท่านวอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei--

-เรื่อง "แกล้ง" ต้นไม้เพื่อให้ออกลูกนี่พอเคยได้ยินมาบ้างเหมือนกันนะครับ

แต่เรื่องเอามีดไปฟันหรือไปสับนี่ ไม่เคยทราบมาก่อนเลย

เพิ่งทราบวันนี้เองครับ จากคุณหมอ ป. และท่านวอญ่า

-ขอบคุณมากๆ ครับ ที่กรุณาแนะนำเคล็ดลับใหม่ล่าสุดให้ เอาไว้จะนำไปทดลองดูนะครับ

สวัสดีครับ  เอื้อยกระติกน้ำ~natachoei ที่ ~natadee

 

-คติโบราณเหล่านี้ ถือว่าเป็น "ศรัทธา" หรือ "ความเชื่อ" ประเภทหนึ่งนะครับ

หากเรามองแบบ "เหตุผล" ก็อาจจะดูเป็นเรื่องที่งมงายและไร้สาระ

แต่ถ้าหากเรามองในแง่ของ "ศรัทธา" เราก็จะพบความงดงามและความผูกพันมากมายที่ซุกซ่อนอยู่ในนั้น

 

-เอ! อันนี้ผมก็ไม่ทราบเหมียนกันนะครับ

เอื้อยนำไปทดลองเบิ่งก่อนเด้อ ได้ผลยังไงก็บอกด้วยละกัน จะได้นำไปใช้ดูบ้าง คิคิคิ

ชอบจริง ๆ นะคะ ตอนเด็ก เคาะต้นมะพร้าว มะม่วง มะยม...เวลา "กบกินเดือน"

สงสัยเกสรตัวผู้กับตัวเมียจะต๊กกะใจ ลอยมาพบหน้ากันในช่อดอก

ก๊อเลยโผล่ออกจากดอกกลายเป็นลูก เป็นผล...เต็มต้น

แต่ว่า นุ่งกระโปรงเนี่ย....

ฝนเมื่อกี้ปลูกมะละกอไว้ กำลังโตขึ้น ๆ

ต้องรอว่า ถ้าไม่มีผล

จะลองหากระโปรงน่ารัก ๆ มาลองสวมให้ อิ อิ

สวัสดีครับ คุณหมอ ทพญ.ธิรัมภา

-สมัยเป็นเด็กผมก็เคยวิ่งเอาไม้คานไปเคาะต้นไม้ผลอยู่หลายครั้งนะครับ เวลามี "กบกินเดือน"(จันทรุปราคา) เกิดขึ้น ซึ่งมีความสุขและสนุกสนานไปอีกแบบ ตอนแรกๆ ผู้ใหญ่จะบอก แต่ตอนหลังพอเห็นกบกินเดือน ก็จะทำเองเลย

-ไม่แน่ใจว่าคนยุคใหม่เขายังทำแบบนี้อยู่บ้างหรือเปล่า?

-ลองเอาวิธีนุ่งกระโปรงไปใช้ดูนะครับ ได้ผลอย่างไรโปรดเล่าสู่กันฟังด้วยนะครับ คิคิคิ

  • ได้อ่านเรื่องเล่าที่น่ารักอีกแล้ว แม่ยายคุณอักขณิชนี่ทันสมัยไม่เบานะคะ ที่ให้มะละกอนุ่งกระโปรงยีนส์แทนให้นุ่งผ้าถุง เห็นกระโปรงยีนส์ตัวเล็กๆ ก็นึกถึงหน้าน้องพอเพียงขึ้นมาทีเดียว (แม้ไม่ใช่นางงามก็รักเด็กค่ะ)
  • จำได้ว่า ตอนเรียนระดับประถมฯ เวลากบกินเดือน หรือมีจันทคราส (Lunar Eclipse) ญาติๆ และผู้ใหญ่แถวบ้านใกล้เรือนเคียง ก็จะไปเคาะต้นไม้เพื่อให้ออกลูก/ลูกดกเหมือนทางศรีสะเกษ ค่ะ
  • ที่อาจารย์หมอป. เล่าว่า "ที่บ้านมีต้นมะยม ไม่ยอมออกลูกสักที แม่เลยเอามีดพร้าไปฟันฉึกหนึ่ง แต่เปลี่ยนใจไว้ฟันต่อวันหลัง ปรากฎว่า อาทิตย์ถัดมา มีช่อ ออกมาเลย"  และที่ท่านวอญ่า เล่าว่า "ภูมิปัญญา เคล็ดลับที่เชื่อและสืบทอดกันมา อย่างลองกองต้องแกล้งให้ ใบโศก แล้วให้น้ำ จะติดดอกทันที หรือต้นไม้เอามีดไปฟันไปสับ ก็จะออกลูก เสมือนหนึ่งไปเตือนว่า อย่ามัวแต่งามอยู่ ถึงเวลาให้ผลใหลูกแล้ว"  จริงๆ แล้ว ก็มีคำอธิบายเชิงวิทยาศาสตร์นะคะ ตามที่ได้อ่านมา เวลารู้ตัวว่าใกล้ตาย พืชก็จะปรับตัวเพื่อหาทางดำรงเผ่าพันธุ์ให้คงอยู่ โดยการผลิดอกออกผล ค่ะ
  • สำหรับการใช้ผ่าห่อหุ้มแล้วทำให้พืชออกดอกออกผล ก็อาจจะอธิบายได้ในเชิงวิทยาศาสตร์เช่นกันค่ะ คือ เป็นการลดการคายน้ำของลำต้น ทำให้ต้นไม้มีน้ำไปหล่อเลี้ยงมากพอ จึงช่วยให้ดอกที่ออกมาไม่ร่วงทิ้ง แต่เติบโตเป็นผลได้ เรื่องนี้คนที่จะอธิบายได้ดีกว่า น่าจะเป็นคุณสามารถ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องไม้ผล ที่ม. เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน นะคะ

 

สวัสดีครับ อาจารย์ Ico48 ผศ. วิไล แพงศรี

 

-แม่ยายผมเป็นคนแบบ "กลางๆ" นะครับ ไม่ทันสมัยมากเกินไป แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ใช่คนที่ล้าหลังหรือตกยุคสมัย

แม้ว่าท่านจะเป็นคน "อนุรักษ์นิยม" เคร่งครัดในจารีตประเพณีและเชื่อคติโบราณ แต่ท่านก็ไม่ได้งมงายแต่อย่างใด

หากแต่มีการเรียนรู้เรื่องราวใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา รวมทั้งส่งเสริมให้ลูกๆ ได้ศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์จนประสบความสำเร็จในชีวิตทั้ง 2 คนอีกด้วย(แม่บ้านผมจบคณิตศาสตร์ ส่วนน้องชายของภรรยาจบแพทยศาสตร์)

-คติความเชื่อ....ส่วนใหญ่จะอาศัย "ศรัทธา" เป็นหลักนะครับ ส่วนวิชาการหรือวิทยาศาสตร์นั้น จะอาศัย "เหตุผล" เป็นหลัก

บางสิ่ง....สามารถอธิบายได้ด้วยการอาศัยอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นหลัก

แต่บางสิ่ง....ก็สามารถอธิบายได้ ทั้งด้วยหลัก "ศรัทธา" และ "เหตุผล"

สำหรับผมแล้ว....คติความเชื่อเหล่านี้ ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่มีความงดงามนะครับ ในฐานะที่ช่วยจรรโลงจิตใจของเราให้มีความงดงามและมีความสุขได้..... ไม่ว่ามันจะอธิบายได้หรือไม่ได้ก็ตาม

-ขอบคุณอาจารย์มากๆ เลยครับ ที่กรุณาแวะเข้ามาเยี่ยมและให้กำลังใจเป็นประจำ

ผมปลูกพริกมะเขื่อไว้น่าบ้าน มะเขือได้กินลูกแล้ว พริกกำลังออกดอกมีผลบ้าง แต่แฟนบอกว่ามันหัวหยิกๆ

แม่ยายที่ต่างจังหวัดบอกให้เอายากันแมลงไปฉีดแล้วรดน้ำสองสามวันก็จะหาย

แต่ผมกลัวยาฆ่าแมลงไม่กล้าทำตาม ปล่อยให้มันหยิกๆอย่างนั้นไปตามธรรมชาติของมัน

สวัสดีครับ คุณ พ.แจ่มจำรัส

-บอกตรงๆ ว่า ในกรณีต้นพริกกับต้นมะเขือของพิชัยนิ คงไม่สามารถจะนำคติความเชื่อที่ผมเขียนไว้ไปใช้ได้นะครับ เนื่องจากว่ามันต้นเล็กเกินไปนั่นเอง ขืนเอากระโปรงไปคลุมต้นพริกหรือต้นมะเขือ มีหวังตายอย่างเดียวครับ เพราะจะทำให้มันหายใจไม่ออกนั่นเอง คิคิคิ

 

-อาการหัวหยิกของต้นพริก ผมก็เจอบ่อยๆ นะครับ ซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุนะครับ เช่น เพลี้ยกิน หนอนเข้าไปอยู่ในนั้น หรือน้ำเลี้ยงไม่พอ เป็นต้น ซึ่งไม่ใช่ปัญหาใหญ่แต่อย่างใด

ให้หมั่นคอยดูแลอย่างใกล้ชิด หรือหากจำเป็นจะต้องใช้ยากันแมลงช่วย ก็ให้ใช้ยาที่ทำจากสมุนไพรแทน เช่น น้ำสะเดาหมัก น้้ำบรเพ็ดหมัก น้ำตะไคร้ เป็นต้น จะช่วยไล่และกำจัดแมลงได้อย่างดี โดยไม่จำเป็นต้องใช้ยาฆ่าแมลงแต่อย่างใด

-ขอบคุณมากๆ ครับ ที่แวะเข้ามาเยี่ยมเยือนยามดึกๆ เช่นนี้

น่าสนใจค่ะ จะลองดูบ้าง ที่สวนไม้กินได้ มีแต่ดอก ไม่มีผลเลยค่ะ

สวัสดีครับ...อาจารย์อักขณิช กลับมารายงานตัวหลังจากห่างหายไปนานครับ

เรื่องราวความเชื่อของคนสมัยก่อนที่สือบทอดกันมา...มีมากมายครับ แม้กะเหรี่ยงเอง เรื่องแบบนี้ก็มีให้เห็นออกบ่อยๆๆ จะต่างหน่อยก็ตรง หากระโปรยีนส์ นุ่งยากหน่อย ต้นไม้ของกะเหรี่ยงจึงวาสนาน้อยได้นุ่งแต่ผ้าซิ้นสีแดงเก่าๆๆ ของคุณแม่ อะครับ 5555

สวัสดีครับ คุณป้านงนาท สนธิสุวรรณ

 

คุณป้าใหญ่ลองนำไปทดลองดูนะครับ

บางทีอาจจะได้ผลบ้างก็ได้ ไม่วิธีใดก็วิธีหนึ่ง

หากได้ผลอย่างไร....ก็กรุณาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ

สวัสดีครับ คุณป่าไม้เลื้อย/พาดีซอ

-ดีใจจังที่คุณพาดีซอกลับมาเขียนบันทึกอีกครั้ง หลังจากที่ห่างหายไปนาน

-ผมเคยผ่านไปทางหมู่บ้านของชาวกะเหรี่ยงหลายแห่งด้วยกัน เคยสังเกตเห็นต้นไม้บางต้นมีผ้าถุงมัดไว้ด้วย แต่ก็ยังไม่เข้าใจความหมายเท่าใดนัก นึกว่ามัดไว้เพื่อบูชาเทพเทวดาเสียอีก เพิ่งมาทราบความหมายที่แท้จริงจากคุณพาดีซอวันนี้เองนะครับ

-ขอบคุณมากๆ ครับ ที่กรุณาแวะเข้ามาเยี่ยมเยือน

ขอมาร่วมขายความคิดเรื่องมะละกอค่ะบางท่านอาจจะไม่ทราบว่าจิงๆแล้วมะละกอที่ตลาดต้องการต้องเกิดจากดอกมะละกอที่เปนดอกกระเทยค่ะ ขอย้ำดอกกระเทยนะค่ะ ถ้าเกิดมะละกอที่ออกดอกมาเปนดอกตัวผู้หรือตัวเมียเราต้องเด็ดทิ้งค่ะเพราะถ้าติดผลออกมาแล้วไม่เปนที่ต้องการของตลาดหรืออาจจะขายไม่ได้ราคาค่ะ อันนี้คอนเฟริมจากแม่เลี้ยงสวนมะละกอเองค่ะ อิอิอิ

สวัสดีครับ คุณครูฟ้า

 

-ขอบคุณมากๆ เลยครับ ที่กรุณาแวะเข้ามาเยี่ยมเยือน

-ที่ผ่านมา ผมเคยเห็นแต่มะละกอตัวกับมะละกอตัวเมียนะครับ เพิ่งจะทราบวันนี้นี่เองว่ามีมะละกอ "กระเทย" ด้วย นับว่าเป็นความรู้ใหม่สำหรับผมเลยนะครับ คิคิคิ

-ถ้า(มนุษย์) "กระเทย" ออกลูกได้เหมือนมะละกอกระเทย คงจะเป็นเรื่องมหัศจรรย์มากๆ เลยนะครับ  คิคิคิ

-เอ! ว่าแต่ว่า เราจะสังเกตได้อย่างไรละครับว่า ดอกมะละกอแบบใด เป็น "ดอกกระเทย" ครับ? ขอความกรุณาช่วยอธิบายเพิ่มเติมเพื่อความกระจ่างแจ้งด้วยนะครับ

-ขอบคุณมากๆ ครับผม

โอ๊ะ โอ ต้องมาขยายความกระจ่างนะค่ะพอดีพอดีวันนั้นรีบเขียนไปหน่อย

ดอกของมะละกอมี 3 ชนิดค่ะ

ดอกตัวเมีย ภายในดอกจะมีแต่เกสรตัวเมียดอกชนิดนี้ติดผลได้แต่ไม่เปนที่ต้องการของตลาดเนื้อน้อย น้ำหนักเบา

ดอกตัวผู้ ภายในดอกจะมีแต่เกสรตัวผู้อย่างเดียว ดอกชนิดนี้มักไม่ติดผลค่ะต้องเด็ดทิ้งอย่างเดียว (ผู้ชายไม่มีความหมายต้องทิ้งค่ะ)

ดอกสมบูรณ์เพศหรือภาษาชาวสวนเรียกว่าดอกกระเทย ภายในจะมีทั้งเกสรตัวผู้และตัวเมียค่ะ ดอกชนิดนี้สามารถผสมกันเองได้เมื่อติดผลแล้วมักให้ผลผลิตตรงตามสายพันธุ์ที่ปลูก รูปร่างดี น้ำหนักดี เนื้อแน่น รสชาติดี ราคาสูง (คงหมือนกระเทยแปลงเพศละเนาะ) ของครูฟ้าเปนมะละกอพันธ์ฮอลแลนด์ค่ะ ทำส่งที่กรุงเทพและตลาดเมืองใหม่

  • แปลกดีนะครับ
  • ไม่คิดว่าจะออกลุก สมัยเด็กๆเคยได้ยินตอนมีสุริยุปราคา
  • เขาเอาสากไปตำต้นไม้ให้ลูกดก
  • เอามาฝาก
  • http://www.gotoknow.org/blogs/posts/466977
  • อันนี้ตอนกิ่งไผ่ครับ
  • http://www.gotoknow.org/blogs/posts/402767

สวัสดีครับ คุณครูฟ้า

-ขอบคุณมากๆ ครับ ที่กรุณาแวะเข้ามาอธิบายให้ความกระจ่างเรื่องมะละกออีกรอบ ทำให้ได้รับความรู้ใหม่ๆ เพิ่มเติมอีกหลายอย่าง

- แหม! ดูเหมือนครูฟ้าจะใจร้ายกับผู้ชายนิดๆ นะครับ จากประโยคที่ว่า....(ผู้ชายไม่มีความหมายต้องทิ้งค่ะ)..... คิคิคิ

-ว่างๆ จะแวะเข้าไปแอ่วที่กาดเมืองใหม่ เพื่อซื้อมะละกอของครูฟ้ามาลองชิมดูนะครับ

-ขอบคุณมากๆ ครับผม

สวัสดีครับ อาจารย์ขจิต ฝอยทอง

 

-ว้าว! วิธีของอาจารย์ยิ่งแปลกกว่าที่ผมรู้จักอีกนะครับ ที่บอกว่า "ให้เอาสากไปตำต้นไม้ตอนเกิดสุริยุปราคา" ถือเป็นองค์ความรู้ใหม่ล่าสุดที่ผมเพิ่งจะเคยได้ยินครั้งแรกจากอาจารย์ในวันนี้นะครับ คิคิคิ

-ขออนุโมทนาบุญกับอาจารย์ด้วยครับ ที่ได้ลงพื้นที่นำสิ่งของไปมอบให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม....คนไทยไม่ทอดทิ้งกันนะครับ

-ขอบคุณมากๆ ครับ ที่แนะนำวิธีตอนกิ่งไผ่ให้รู้จัก ว่างๆ จะนำไปใช้ดูครับผม

สวัสดีค่ะ

แวะมาชมบันทึกนี้ค่ะ

เป็นบันทึกที่น่าสนใจ

และน่าแปลกมากค่ะ

ความเชื่อยังใช้ได้ผลเสมอค่ะ

ขอบคุณสำหรับบันทึกนี้นะคะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับ น้องต้นเฟิร์น

 

-ขอบคุณมากๆ ครับ ที่กรุณาแวะเข้ามาเยี่ยมและให้กำลังใจ

-ขอให้มีความสุขและสนุกกับการเรียนตลอดเวลานะครับ

เคยได้มะละกอพันธ์ดีมาปลูกเฝ้ารอดูมานานมีดอกเบิ่งบานแต่ได้ติดเป็นลูกแค่ลูกเดียว

เฝ้ามองดูทุกวันว่าเมื่อไหร่มันจะโตใหญ่...วันคืนผ่านไปลูกใหญ่เท่า....มะปราง ?

รอต่อได้อีกไม่นานมันก็หล่นไปกองใต้ต้น...อดกินเลยเรา..คนเขาบอกมือร้อน

ปลูกอะไรไม่ขึ้นหรอก...ไม่รู้นิต้องมีกระโปรง...สายไปซะละ...คุณ อักขณิช

มะละกอพันธ์ทะเลทราย.....ตายไปแล้วต่ะ

สวัสดีครับ คุณ Oraphan

-การปลูกไม้ผล....ต้องใช้ปัจจัยหลายอย่างช่วย เช่น ดินดี น้ำดี อากาศดี ปุ๋ยดี และดูแลดี แต่ถ้าหากทุกอย่างดีหมดแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ผล....ถึงตอนนี้คงต้องใช้คติโบราณที่ว่ามาช่วยแล้วละครับ คิคิคิ

-อ้อ! เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ เกี่ยวกับเรื่อง "มือร้อน มือเย็น"

พอดีผมกำลังจะเขียนเรื่องนี้อยู่พอดีเลย

เขียนเสร็จเมื่อไหร่ จะเอาลงให้อ่านในนี้นะครับ

-ขอบคุณมากๆ ครับ ที่กรุณาแวะเข้ามาเยี่ยมและให้กำลังใจ

  • สวัสดีค่ะ
  • ไม่ทราบว่าลอดสายตาไปได้อย่างไร
  • ไม่ได้อ่านบันทึกนี้แต่แรก
  • ดีใจจังค่ะที่การแลกเปลี่ยนความรู้ เคล็ดลับจากโบราณ
  •  จะต่อยอดความรู้กันได้ไม่รู้จบ
  • มะละกอนุ่งกระโปรง แบบเดียวกับมะยมนุ่งผ้าถุงของแม่ลำดวน คือออกลูกดกตามมา
  •  น่าสนใจอีกเรื่องคือ มือร้อน มือเย็น ในการปลูกเป็นเรื่องจริงที่ไม่น่าเชื่อค่ะ
  •  น้องสาวกับน้องชายเขาเคยเปรียบเทียบกัน
  • พบว่าน้องชายปลูกอะไรก็งาม แต่น้องสาวปลูกอะไรก็เฉาไม่งอกงาม เขาสรุปกันเองว่าเธอมือร้อน ฉันมือเย็นค่ะ
  • ขอบคุณมากค่ะที่ให้เกียรติ นำชื่อมากล่าวถึง...

สวัสดีครับ คุณป้าลำดวน

-ทีแรกผมก็นึกว่าคุณป้าลำดวนได้อ่านบันทึกนี้ไปแล้วนะครับ ยังงงๆ อยู่เลยว่า เอ๊ะ! เขียนถึงคุณป้าแท้ๆ แต่ทำไมถึงไม่เห็นคุณป้าเข้ามาทักทายหรือร่วมแสดงความคิดเห็นบ้างเลย.....ถึงบางอ้อ! ก็วันนี้เอง คิคิคิ

-จากบันทึกเรื่องนี้ ก็ทำให้ได้ทราบคติความเชื่อดีๆ เพิ่มเติมอีกหลายอย่างเลยนะครับ จากเพื่อนๆ ที่เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ ช่วยต่อยอดความรู้เพิ่มเติมอีกมากทีเดียว

-ผมกำลังจะเขียนเรื่อง "มือร้อน มือเย็น" อยู่นะครับ ว่างๆ จะเขียนให้เสร็จ แล้วก็จะแบ่งปันให้ทุกๆ ท่านได้อ่านกันครับ

มาสวัสดีปีใหม่และเลยได้ความรู้ไปทดลองค่ะ

ดิฉันเป็นคน มือเย็น โปรย ตัดกิ่งปักชำ หว่าน หรือเก็บต้นไม้ข้างทางมาเลี้ยงต่อ มักรอดและเติบโตเร็ว แต่ไม่ออกผลค่ะ

มะละกอที่บ้าน โตเร็ว ขึ้นเองจากการซื้อมะละกอมากินแล้วโปรยเมล็ดลงดิน ได้แต่โต ออกดอก แต่แล้วก็แห้ง และโรย เราเคยได้กินลูกมะละกอที่ปลูกเองเพียงลูกเดียว ทั้งที่มีขึ้นหลายต่อหลายต้น

ต้องไปนำกระโปรงมาให้เขาใส่บ้างค่ะ

เอ กับต้นกล้วยน้ำว้า จะได้ผลมั้ยหนอ

 

รูปบ้านและทุ่งนา ดูเปี่ยมความสุขสงบมาก ๆ เลยค่ะ

สุขสันต์วันหลังปีใหม่หมาด ๆ นะคะ

ขอบคุณที่ีส่งคำขอเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ค รับแอ๊ดไปแล้วค่ะ 

สวัสดีครับ อาจารย์ภูสุภา

 

-แนะนำให้อาจารย์นำวิธีที่กล่าวไว้ด้านบนไปทดลองใช้ดูนะครับ เผื่อบางทีอาจจะได้ผล

- กับต้นกล้วยน้ำว้าก็ใช้ได้เช่นกันนะครับ

-บ้านผมอยู่ติดกับทุ่งนานะครับ ที่บ้านแม่ตาดบรรยากาศยอดเยี่ยมมากเลยละ มีทั้งทุ่งนา ลำธาร ป่าไม้ และภูเขา ผมโชคดีมากๆ เลยครับ ที่ได้มาอยู่ที่นี่

-ขอบคุณมากๆ เลยครับ ที่กรุณารับแอ๊ดผมใน FB

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท