ล้มเพื่อลุก


กฎครอบครัวที่บ้านข้อหนึ่งบอกว่าคนที่ตายไปแล้วจะไม่มีวันทำผิดได้อีก
ช่วงนี้ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร...เจอแต่คนเครียดๆและรู้สึกท้อแท้ที่จะทวนกระแส.. เราเองบางครั้งก็เป็นเช่นนั้น... ความคิดที่อยากจะทำกับเลิกทำมันตีกันอยู่ในใจ แต่ความรู้สึกที่ว่าทำดีกว่าไม่ทำนั้นยังคงมีมากกว่า..เราจึงรู้สึกเหมือนฝืนและเหมือนพยายามฝ่าด่านอะไรสักอย่างที่รู้สึกได้ว่ามันกดดัน-ไม่สบายใจนักแต่ฉันก็จะต้องลุยไปให้ได้... หลายครั้งที่รู้สึกล้มเหลวในการทำความเข้าใจกับหุ้นส่วนในงานแต่เราก็ล้มเลิกไม่ลง...ปลอบตัวเองหลายครั้ง..ท้าทายความเชื่อให้กับตัวเอง.. ถือว่าโชคดีอย่างหนึ่ง(หรือหลายอย่างก็ไม่รู้)ที่ตลอดทางมานั้นแม้ในความทุกข์ก็ยังพอหาความสุขใจและสนุกกับเพื่อนได้อยู่..ไม่ได้ว้าเหว่หรือโดดเดี่ยวเกินไป ..หลายหนกำลังใจที่มาจากความตั้งใจทำดีให้กับคนเจ็บป่วยก็เป็นเหมือนน้ำที่ชะล้างความเศร้าและเจ็บปวดให้กับตัวเรา...สิ่งเหล่านี้เหมือนยาหรืออาหารเสริมที่ทำให้มีแรงสู้ต่อ... บางครั้งที่ผิดพลาดหรือล้มเหลวก็เป็นบทเรียนสอนใจทำให้เราแข็งแรงขึ้น ซึ่งที่บ้านมีกฎครอบครัวอยู่ข้อหนึ่งว่าคนที่ตายไปแล้วจะไม่มีวันทำผิดได้อีก...เมื่อก่อนไม่ค่อยเข้าใจมันนักแต่ตอนนี้ต้องเอามาใช้เพื่อให้สติแก่ตัวเองเวลาที่หวั่นไหวจิตตกและรู้สึกว่าตัวเองล้มลงแต่กลัวที่จะลุก...ก็ตราบใดที่เรายังไม่ได้ตายชีวิตมันต้องดำเนินต่อ..บางครั้งเราก็ได้พบสิ่งที่ถูกใจหรือเป็นอย่างที่เราอยากให้เป็น(สมหวังและสำเร็จ)แต่หลายครั้งอีกเช่นกันที่เราเจอกับความผิดหวัง/ผิดพลาด... ...แต่ข้อดีก็คือแม้ว่าเรายังคงมีการทำผิดเกิดขึ้นได้แต่เราก็ยังคงมีโอกาสที่จะแก้ไขหรือปรับเปลี่ยนตัวเอง.. หลังจากที่คุณเพิ่งเจอความล้มเหลวไม่กี่สิบอย่างแล้วไปติดว่าจะไม่ให้ชีวิตผิดพลาดอีกแล้วโดยไม่ยอมดิ้นรนหรือหาหนทางอื่นๆต่อไปมันก็เหมือนกับการใช้ชีวิตแบบคนที่ตายไปแล้ว..ถึงจะอยู่ไปจนอายุหกสิบแต่ชีวิตมันแช่แข็งไปนานแล้ว....
หมายเลขบันทึก: 46574เขียนเมื่อ 26 สิงหาคม 2006 22:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:43 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

สวัสดีคะ..พี่สาวที่น่ารักของกะปุ๋ม...

...

ไปที่นี่นะคะ

ระลึกถึงพี่ขวัญ พี่ไก่ ...และคนอื่นๆ..เสมอคะ..

*^__^*

  • แพ้ชนะทุกข์หรือสุขมันเป็นเช่นไร คนหนึ่งคนกว่าจะเข้าใจต้องรู้ต้องโดนด้วยตัวเอง

  • ไม่มีใครสอนให้มองเห็น ต้องล้มเองรับเองแพ้เองรู้เองถึงจะค่อย ๆ เข้าใจ

  • ตามเข้ามาล้มและร่วมลุกไปพร้อม ๆ กันครับ

   อยากบอกคุณฟ้าใหม่ด้วยความห่วงใยว่า จะเศร้าหมองไปใย...เวลาเปลี่ยน...ความคิดเปลี่ยน ....อยู่นิ่งๆเพื่อทบทวนตัวเอง และสิ่งต่างๆที่ผ่านมา ตลอดจนทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด แล้วกับไปนอนกอดแม่ก็พอแล้ว 

     อย่าลืม ท่องบ่อยๆเมื่อมีปัญหาว่า มนุษย์ทุกคนย่อมมีความแตกต่างกัน แล้วจะสบายใจขึ้นนะจ้ะ .

 

  • ตามเข้ามาล้มและร่วมลุกไปพร้อมๆกันอีกคนนะพี่สาวคนดี...

คนที่มีปัญญา

เมื่อรู้ว่าผิดพลาดไปแล้วจะรีบถอนตนออกมาอย่างทันท่วงที

แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ไม่ซ้ำรอยเดิมอีกต่อไป

คนที่ผิดหรือพลาดไปแล้ว

หากพยายามตั้งสติประพฤติตนเป็นคนใหม่

ถึงอย่างไรก็ยังมีโอกาสแก้ตัวได้เสมอ

ธรรมะรับอรุณ ว.วชิรเมธี

ปล. อย่าลืมสนธิสัญญา sizler นะจ๊ะ ("o)

ดร.Kapoom สวัสดีและขอบคุณมากที่แวะมาทักเป็นคนแรกเลยนะ ปกติจะชอบแอบไปแวะอ่านบล็อกของกะปุ๋มอยู่เสมอ แต่บางทีไม่ตอบหรือแสดงความเห็นอะไร(เพราะมีหลายคนพูดตรงใจเราไปก่อนแล้ว) จะฝากบอกสาวๆทั้งหลายตามที่ฝากมานะ ขอให้กะปุ๋มมีผลงานให้เราได้อ่าน+ขบคิดต่อไปเรื่อยๆจ๊ะ อจ.ปภังค์กร ขอบคุณค่ะที่แวะมาทักทายและให้กำลังใจบวกความคิด อย่างที่อจ.ว่าน่ะแหละค่ะล้มเองลุกเองมันจึงจะเข้าใจในความรู้สึก ตอนนี้ก็เริ่มติดนิสัยใหม่ๆของป้าบวม(คือ การอ่านหนังสือธรรมะ) ...แต่ไม่รู้ว่าตาลายหรือเปล่ากลายเป็นหยิบหนังสือเกี่ยวกับเรื่องดูแลคนใกล้ตายซะเฉยเลย อจ.เองก็อย่าท้อแท้นะคะเขียนบล็อกต่อไปเรื่อยๆเถอะค่ะยังมีแฟนๆบล็อกของอจ.อีกหลายคนที่นี่
skywalker คำแนะนำของพี่จะนำไปใช้ให้มากขึ้นค่ะและ ยินดีด้วยกับบล็อกใหม่...จะเข้าไปคุยด้วยแน่นอนแต่ตอนนี้คงได้แต่พักให้หายไข้ก่อนนะ moomi ไม่ลืมปฏิญญาเอ้ย!สนธิสัญญาแน่นอน อย่างน้อยถ้าพรุ่งนี้อาการดีขึ้นคงจะเจอกันนะ ปล.ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจและบทธรรมที่ส่งมาถึง
  • อย่าเพิ่งท้อแท้  เส้นทางชีวิตคนเราไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป  อาจมีหนามติดมาบ้าง พยายามเดินโดยถูกหนามตำให้น้อยที่สุด ท้าทายดีนะ
  • พี่ถือคติว่า ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันไป
  • ทุกข์และสุขเป็นสิ่งคู่กัน ฉะนั้น ต้องมีวันดีๆของเราบ้าง
  • เป็นกำลังใจให้จ้ะ

 

เห็นด้วยกับป้าปัทม์ค่ะว่า "ทุกข์และสุขเป็นสิ่งคู่กัน" และถ้าเห็นทุกข์ก็เข้าถึงธรรมนะคะ.... (ดีใจจังได้คอธรรมะเพิ่มเยอะแยะเลย)

ครั้งเมื่อเราเป็นเด็กเดินเตาะแตะ...เดินไปล้มไปไม่รู้สักกี่พันครั้ง เจ็บบ้าง ร้องไห้บ้าง แต่ก็มีแม่ที่คอยอุ้มประคองขึ้นให้ยืนและเดินต่อได้ จนเรามีพัฒนาการในการทรงตัวที่ดีขึ้นตามลำดับ จนในที่สุดเราก็สามารถลุก-เดินขึ้นได้ด้วยตนเอง

ครั้งนี้เมื่อเราโตเป็นผู้ใหญ่ พัฒนาการแห่งชีวิตสอนให้เรารู้ว่าหากเราล้มแล้วไม่ยอมลุกขึ้นเดิน ก็เท่ากับพัฒนาการที่ดำเนินไปตามช่วงวัยแห่งชีวิตของเราเริ่มถดถอย-ถอยหลัง ไปสู่ความเป็นเด็กอีกครั้ง

จงบอกตัวเองเสมอว่า...ไม่มีใครผลักให้เราล้มได้ หากฐานหลักแห่งจิตใจเราเข้มแข็ง

ขอบคุณสำหรับ "ล้มเพื่อลุก" เพื่อเตือนตนอีกครั้ง ว่าอย่าอ่อนแอให้สรรพสิ่ง แต่ให้รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน

   มีคนเคยบอกกับดิฉันว่า

  • ชีวิตต้องก้าวเดินไปข้างหน้า...ถ้าเหนื่อยก็หยุดพักซะ ..แต่อย่าเดินถอยหลังกลับ
  • ถ้าเมื่อไหร่ที่เราคิดว่าเราได้ใช้เวลาที่ผ่านมาอย่างคุ้มค่าแล้วละก็..ชีวิตที่เหลือต่อจากนี้ถือว่าเป็นกำไรให้เราเก็บเกี่ยวเอาแม้ว่าจะมีความทุกข์ยากแสนเข็ญบ้าง  หรือจะมีความสุขเปี่ยมล้นบ้าง...เป็นธรรมดา
  • เวลาที่เราเดินไปข้างหน้าแม้ว่าจะเหยียบหนามบ้างในบางก้าว แต่ถ้าเราท้อและถอยหลังกลับ ก็เท่ากับว่าที่ผ่านมานั้น เราเจ็บฟรี
  • จะเป็นกำลังใจให้

พี่ปัทม์

ขอบคุณมากค่ะทั้งน้ำใจและกำลังใจที่ส่งมาให้...ส่งย้อนกลับไปให้พี่สองเท่าเลยก็แล้วกัน

ป้าเปรี้ยว

ขอบคุณที่มาให้กำลังใจและข้อคิดถึงที่นี่เช่นกันค่ะ

vij

ข้อคิดที่ส่งมาถึงจะขอน้อมเอาไปคิดและสร้างกำลังใจให้ตนเอง...ขณะเดียวกันก็ไปอ่านเรื่องราวที่น่าสนใจของคุณเสมอๆค่ะ

nutim

ขอบคุณสำหรับกำลังใจและความปรารถนาดีที่มีมาให้ค่ะ.

     อยากเห็น...(หากจำเป็นต้อง)ล้ม(ลง)แล้ว ให้รีบลุก(อย่านั่งแช่อยู่นาน)...ครับ

เข้ามาขอบพระคุณ คุณ seangja ค่ะ กับการทิ้งรอยไว้ในบันทึก "ข้อเท็จจริง บางประการ...." เป็นการต่อยอด ที่สามารถนำไปผลิดอก ออกผลได้จริง ๆ และมีคุณค่ายิ่งค่ะ

ขอบพระคุณอีกครั้ง...และจะขอน้อมนำไปตกผลึกอีกครั้ง เพื่อการพัฒนาต่อไปค่ะ 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท