เป้าหมายที่ดีที่สุด คือการไม่มีเป้าหมาย !?


ชื่อหัวข้อนี้ มาจากการได้อ่านบทความ The best goal is no goal ในบล็อกสุดโปรด zenhabits ซึ่งขัดต่อสามัญสำนึกใครหลายคน รวมทั้งข้าพเจ้า เหมือนบอกว่า การป้องกันน้ำท่วมที่ดีที่สุดคือปล่อยให้น้ำท่วม?

...น่าสนใจว่า เมื่อ 2 ปีก่อน ผู้เขียน (Leo Baboata) ได้เขียนบทความให้ความสำคัญต่อการตั้งเป้าหมายชีวิต อย่างมาก Think about your life goal

...

คุณ Leo ได้นิยามคำว่า goal ในหนังสือของเขา [1] ไว้ว่า “predefined outcome or destination" เขาได้ขยายความว่า ดังนั้นการไม่มี goal ไม่ได้หมายความว่า ไม่ทำอะไร แต่เป็นการทำไปโดยไม่ตั้งผลลัพท์ไว้อย่างจำเพาะเจาะจง

...

เขาเชื่อว่า การเลือกทำด้วยฉันทะ (passion) นำไปสู่ความสำเร็จได้มากกว่า
การทำตามวินัย (discipline ได้แก่ tracking, actionable steps)

...

ท่านคิดว่าอย่างไร ?

.

สำหรับข้าพเจ้า มีทั้งส่วนที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย

.

  • ส่วนที่ข้าพเจ้าเห็นด้วย..

การตั้งความหวัง สัญญา "เดิมพัน" กับตัวเอง
ย่อมมีความเสี่ยงที่จะผิดหวัง
เปรียบเหมือนการทำสัญญากู้เงินจากธนาคาร มาลงทุน

เพราะปัจจัยภายนอกการควบคุมของเรามีมากมาย

เมื่อ 6 เดือนก่อนไม่มีใครคาดว่า เดือนนี้น้ำจะท่วม จนกลายเป็นวาระแห่งชาติ

คุณ Leo มองว่า การควบคุมเป็นมายาภาพ (illusion of control)

ซึ่งก็จริง แม้สิ่งที่เราคิดว่าควบคุมได้มากที่สุด อย่างตัวเองก็ไม่แน่
เราอาจเจอก้อนเนื้องอกเดือนหน้า อาจพลัดตกบันได etc..
กระทั่งความเชื่อ คุณ Leo เองก็ยอมรับว่า 2 ปีผ่านไป..เขาคิดกลับทาง
.

สิ่่งที่ควบคุมได้มากที่สุด จึงเป็นปัจจุบันขณะ นาทีนี้

การวางแผน หรือใช้ตัวชีวัดที่ "คับแน่น"
จึงเป็นหนทางสร้างความทุกข์ใจให้กับคนทำงาน

.

  • ส่วนที่ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วย

สิ่งที่คุณ Leo กล่าวค่อนข้างเป็นอุดมคติ
เช่น การทำความดี เพราะมีความสุขที่ได้ทำดี
สิ่งที่เขาลืมกล่าวคือ มีคนสักกี่เปอร์เซ็นต์ที่ทำดีโดยไม่มีแรงกระตุ้นจาก reward

แม้ไม่ไช่ reward เป็นรูปธรรม อย่างเงิน ตำแหน่ง หรือวัตถุสิ่งของ

แต่ reward ที่เป็นนามธรรม Status,Relateness,Fairness สิ่งนี้ก็เป็น "predefined outcome"

การประเมินผลลัพท์ เป็น ส่วนสำคัญหนึ่งของการคิดวิพากษ์ ( Critical thinking)
การตัดสินใจเลือกสรร เพราะเรามีทรัพยากรจำกัด

การที่คุณ Leo มองข้ามจุดนี้ไป เพราะเขาผ่านการเลือก
เขาได้ทำในสิ่งที่เขารักแล้ว คือการเป็นนักเขียน
เขาประสบความสำเร็จแล้วจนสามารถทำงานอยู่กับบ้าน

แต่ในวิชาชีพ ยกตัวอย่าง การเรียนสอน การตั้ง measurable goal เป็นสิ่งจำเป็น [2]
เราตั้งจุดประสงค์การเรียนรู้ (objective :what you want them to learn) เพราะเวลาในห้องเรียนจำกัด

เราบอกความคาดหวัง ( Expectation :what you want them to do) เพื่อเพิ่ม certainty ให้ผู้เรียนลดความกังวล

ดังนั้น ขณะนี้ข้าพเจ้า จึงขอใช้วิธี "เลือก-ลอง-มอง-มุ่ง" ไปก่อน

...

ไม่ถึงกับ โยน การตั้งเป้าหมาย ทิ้งไป

แต่ยอมรับกับความฝันผวน ของผลลัพท์มากขึ้น

เป้าหมาย ในการทำงาน 5 ปีข้างหน้า ถูกวางเอาไว้

.

X - X -X- X

.

ข้าพเจ้า "เลือก" ทุ่มเทให้สิ่งสำคัญที่สุด ท้าทายที่สุด เพียงอย่างเดียว

ด้วยความเชื่อว่า เริ่มจากหนึ่งจุด ทำด้วยฉันทะ ทำอย่างดีที่สุด แล้วสิ่งอื่นๆที่อยากทำ จะตามมาเอง

สิ่งนั่นคือ การมีโรงพยาบาลชุมชน (รพช.)ต้นแบบ เป็นศูนย์การเรียนรู้ สำหรับแพทย์ประจำบ้านเวชศาสตร์ครอบครัว

ผ่องถ่าย การเรียนการสอนระบบ rotation based ใน โรงเรียนแพทย์ มาสู่ project based ในชุมชน.
ตอนนี้มี รพช. 4-5 แห่งในใจ ซึ่งต้องเลือกต่อไป..จริงๆ แล้วไม่ใช่ข้าพเจ้าเป็นผู้เลือกฝ่ายเดียว

รพช. แห่งใดจะ "เลือก" มาร่วมกัน " ลองผิดลองถูก"

บางโครงการอาจทำแล้วประสบความสำเร็จ บางโครงการอาจล้มเหลว

เราจะยอมรับมันทั้งคู่ แล้ว "มอง" ถึงจุดแข็ง จุดอ่อน

เพื่อจะ "มุ่ง" พัฒนาจุดแข็ง จากดีเป็นดีเลิศ

นำเสนอสู่สากล เป็นต้นแบบ สร้างแรงบันดาลใจต่อไป

...

ข้าพเจ้าขอปฎิญาณต่อชุมชนแห่งนี้ โปรดช่วยติดตามต่อไปว่า

"หาก 5 ปีไม่ได้เริ่มทำ หรือ ทำแล้วไม่คีบหน้าแม้แต่น้อย

ข้าพเจ้าก็สมควรพิจารณาตนเอง
ว่าเหมาะเป็นอาจารย์ของภาควิชานี้อีกหรือไม่."

มิได้ต้องการแสดงความอหังการ์
บุญคุณของครูอาจารย์และสถาบันนั้นมากล้น..

แต่ข้าพเจ้าคุยกับตนเองเสมอว่า

.

การทำงานใด

หากปราศจากแรงบันดาลใจ

นั่นไม่ใช่เส้นทางของเรา

####
6 ธันวาคม 2557
กลับมาอ่านบันทึก
และแล้วก็เป็นอย่างที่ปฎิญาณไว้
เส้นทางใหม่..หัวใจเดิม

####

อ้างอิง

[1] Leo Babuata, The efforless life (ebook) หน้า 22

[2] Brad Sharpe, Finding Clarity:Establishing Goals and Expectations ( powerpoint handout)

หมายเลขบันทึก: 465594เขียนเมื่อ 22 ตุลาคม 2011 07:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 ธันวาคม 2014 09:52 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (55)

เอาด้วย เอาด้วย ขอร่วมแนวคิด
และขอเป็นเครือข่ายหางเครื่องด้วยนะครับ อย่างน้อยก็ได้สะท้อนแนวคิดให้มีความเชื่อมโยงกันในสิ่งที่ทำอยู่แล้ว ให้เสริมพลังกันได้นะครับ 

ข้าพเจ้าขอปฎิญาณต่อชุมชนแห่งนี้ โปรดช่วยติดตามต่อไปว่า
"หาก 5 ปีไม่ได้เริ่มทำ หรือ ทำแล้วไม่คีบหน้าแม้แต่น้อย 
  ข้าพเจ้าก็สมควรพิจารณาตนเอง 
  ว่าเหมาะเป็นอาจารย์ของภาควิชานี้อีกหรือไม่."

อย่างนี้พระท่านเรียกว่า สัจจะบารมี  
อนุโมทนาด้วยครับ

สวัสดีครับ ยามสาย...แดดพรายระยับ...วันเสาร์

แต่ยังน่าเศร้ากับมหาอุทกภัย...ขอให้พวกเราผ่านวิกฤตด้วยดีครับ

.............................

แฟนคลับมารายงานตัว

เลือก-ลอง-มอง-มุ่ง...เป็นอีกบันทึกที่ปลุกใจให้ฮึมเหิมไม่น้อย

ลุยเลยครับ

ผมเป็นกำลังใจ

..............................

ฝากให้อาจารย์อีกครับ

ไอน์สไตน์กล่าวว่า "ถ้าคุณต้องการมีชีวิตอย่างมีความสุข ผูกชีวิตไว้กับเป้าหมาย ไม่ใช่กับคนหรือสิ่งของ"

http://www.winbookclub.com/article.php?articleid=361#361

แต่อาจารย์มีเป้าหมายชัดเจนในใจอยู่แล้วครับ

.............................

การทำงานใด

หากปราศจากแรงบันดาลใจ

นั่นไม่ใช่เส้นทางของเรา

ชอบมากครับ

ขอบคุณมากค่ะ อาจารย์หมอป.

อ่านแล้ว ได้ยินเสียงกลองรัวที่หัวใจตัวเองค่ะ

นักศึกษา...ผู้เริ่มตั้งไข่ไต่เต้า เข้ามาเรียนรู้ที่นี่ GotoKnow

พลอยได้รับคลื่นพลังแห่งฉันทะ

และเจตนาอันแรงกล้าของอาจารย์ด้วยค่ะ

"หาก 5 ปี นับแต่นี้ ที่ข้าพเจ้ามีโอกาสเข้ามาศึกษาณ ชุมชนแห่งนี้

แล้วไม่มีความคืบหน้า ในการพัฒนาตน องค์กร และชุมชน

อย่างเป็นรูปธรรมใดๆ

ข้าพเจ้า มิอาจเรียกขานตนเองได้ว่า ผู้รับใช้พระศาสนา "

ขอบคุณมากค่ะ

ขอบคุณค่ะ พี่ใหญ่เชื่อว่า การใช้ชีวิตที่ดีมีความสุขนั้น =>>

@@ ควรมีทั้งศาสตร์และศิลป์ ..มีหลักคิดที่เป็นเหตุผล และวิธีการที่เอื้อต่อตนและสังคม

@@ ควรมีศรัทธาที่มั่นคงในการทำความดี คิดเชิงบวก ไม่ตั้งความหวัง เพื่อจะได้ไม่ผิดหวัง

@@ ควรทบทวนความผิดพลาดเพื่อเลี่ยงประวัติศาสตร์ซ้ำรอย และพัฒนาการกระทำไปสู่วิถีทางที่สร้างความสมดุลแห่งความสุข

ฯลฯ

ผมเคยตั้งความฝันอย่าง leo และเคยตีพิมพ์แบบสมัครเล่นในนิตยสาร"ฟ้าเมืองไทย"ตอนจบมัธยมใหม่ๆไฟแรง

ชีวิตได้เข้าสู่ประตูโรงงาน พร้อมความรับผิดชอบตามค่าวัดKPI ความฝันถูกเก็บไว้ในลิ้นชัก

ตอนนี้เปิดลิ้นชักออกมาอีกครั้ง ในสภาพที่ไฟกำลังจะมอดดับไปพร้อมกับสังขาร

แต่ได้เปิกออกมาแล้ว และกำลังจุดประกายไฟใหม่

This reminds me of a battle between 'random walk' (no bias) and 'directed search' (preferred path) that we often face.

The same issue is in optimization (finding the best in a set of constraints). Often enough, random walk produces good solutions at lower cost than directed search. But people love 'preferred solutions' (because they love to see what they want to see?) even this may be more costly. Many researchers in optimization techniques praise 'random walk' but most use random walk in simulated (unreal) situations.

Preferred path is similar to accumulated small change, grafting or learning from history or experiences. Only limited options are evaluated and selected. Once committed, there are very few decisional issues to worry about, only few operational issues to make sure things get done (and ticked off the check list).

We can think about 'quantum' when all probable states are present, when a measurement is made (on one state -- all other states are ignored) or a decision is made, we no longer have many things (states) to deal with any more.

I would sum that up as "It is hard when we don't know what to do. It is easy when we make up our mind".

...............................................................................................................

บทความนี้เห็นควรรวบรวมเอาไว้เป็นบทหนึ่ง ใน "หนังสือเล่มอนาคต" ของคุณหมอบางเวลา

...............................................................................................................

อ่านแล้วคิดถึงคำสอนของพระพุทธองค์ ...

"... ทำดีไม่มีเงื่อนไข ..."

"... ทำดีโดยไม่หวังผลตอบแทน ..."

"... มันจึงเป็นเช่นนั้นเอง ..."

...............................................................................................................

ขอบคุณมากครับ คุณหมอช่างคิด ;)...

ชอบ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ความมุ่งมั่นและอารมณ์ที่ส่งออกมา

แรงบันดาลใจ คือ เป้าหมาย

ไทย สากล....ได้อานิสงส์แน่นอน

เว้นว่าง....อิสระไว้

ชื่นใจกับ...ไม่เป้าหมาย

ด้วยนะคะ

ขอบคุณค่ะ สำหรับความคิดดี ๆ

กรุงเทพมีอุโมงค์ยักษ์ สามารถสูบน้ำออกได้มากมายแต่ไม่ยอมให้น้ำไหลเข้ามา 555

น่าจะใกล้ถึงเวลาได้ทดสอบความสามารถของเครื่องสูบน้ำอุโมงค์ยักษ์แล้วมั้งคะ

เห็นด้วยค่ะ เราควรมีศรัทธาในสิ่งที่เราจะทำด้วยความมุ่งมั่นและทุ่มเท

ขอบคุณและยินดีเป็นอย่างยิ่งคะอาจารย์ "เชื่อมโยงและเสริมพลัง"
ตัวอย่างชุมชนหนองบัวเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจ
การเรียนรู้โดยเอาชุมชนเป็นที่ตั้ง
หากได้ผู้มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ มา "เชื่อมโยงและเสริมพลัง"
โครงการนี้มีทิศทางแจ่มชัดขึ้นคะ

    ขอเทียบเคียงกับคำกล่าวของสตีพจ็อบ  ที่ว่า

   "ความคิดสร้างสรรค๋์  ไม่ต่องการระเบียบวินัย   แต่การนำความคิดสร้างสรรค์มาทำให้เกิดผลต้องการความมีระเบียบวินัย"

     ประมาณนั้น  ครับ

คนหางแถว เอาด้วยๆ ช่วยสืบค้น ภูมิปัญญาประวัติท้องถิ่น

ขอบคุณคะ รูปไอคอนใหม่เก๋ไก๋ดีจัง

ได้มอบวิทยาทานที่มีคุณค่าอีกคำคือ "สัจจบารมี" อันเป็นหนึ่งใน ทศบารมี

จาก http://www.jariyatam.com/ ได้อธิบายความหมายไว้ว่า

สัจจบารมี หมายถึง ความจริง หรือความซื่อตรง พูดไว้อย่างไรก็ยอมรับตามนั้น  ตั้งใจไว้อย่างไรก็ทำตามนั้น  มุ่งแสวงหาความจริงหรือความถูกต้องเที่ยงธรรม  และรักษาความเที่ยงธรรมไว้  ลักษณะแห่งสัจจบารมีทางกาย   ได้แก่ การตั้งสัจจะกับตนไว้ว่า  จะไม่ทำสิ่งชั่วร้าย จะไม่พูดสิ่งชั่วร้าย และจะไม่คิดสิ่งชั่วร้ายโดยประการต่างๆ  จะทำแต่สิ่งที่ดีงาม จะพูดแต่คำจริง  คำอ่อนโยน  คำที่ทำให้เกิดความสามัคคีก่อให้ประโยชน์  จะไม่โลภ  ไม่โกรธ  ไม่หลง ไม่อิจฉาตาร้อน  เมื่อตั้งสัจจะไว้อย่างนี้แล้ว  ก็ตั้งหน้าตั้งตารักษาสัจจะด้วยความซื่อสัตย์ต่อความตั้งใจของตน

ดีใจที่ให้เกียรติเป็นแฟนคลับคะ
ข่าวมหาอุทกภัยตอนนี้ดังไปทั่วโลก
นี่คงเป็นอีกตัวอย่างของความเจ็บปวดจาก
"การตั้งความคาดหวัง" ในสิ่งที่เหนือการควบคุมของมนุษย์
...

ไอน์สไตน์กล่าวว่า
"ถ้าคุณต้องการมีชีวิตอย่างมีความสุข ผูกชีวิตไว้กับเป้าหมาย ไม่ใช่กับคนหรือสิ่งของ"
อาจประยุกต์กับการแก้ปัญหาน้ำท่วมได้คะ
เป้าหมายคือ การปรับตัวอยู่กับน้ำได้อย่างสงบสุข
มิใช่การหวังให้ใคร หรือ สิ่งใดมาแก้
.............................

ออกนอกเรื่องไปไกล
สำหรับงานนี้ ได้แรงบันดาลใจเต็มๆ จากทีม R2R คะ

หากอ่านด้วยตาคงสัมผัสได้เพียงแค่ความมุ่งมั่นอันยี่งใหญ่จากใครซักคน แต่หากลองอ่านด้วยค้นใจ(ตาใน)จึงได้เห็นพลังของความมุ่งมั่นและแรงศรัทธาอันเจิดจ้าจากหัวใจที่ใหญ่ยิ่งอีกดวงหนึ่ง. ขอร่วมเป็นอีกหนึ่งกำลังใจด้วยคนนะคะกับการ "ทำดีเพื่อดี"

ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน ความสำเร็จใดๆจะเกิดขึ้นไม่ได้หากมีแค่ฉันทะ เพราะธรรมะแนวทางแห่งวิถีชีวิต(ธรรม)ที่นำพาชีวิตถึงฝั่งฝันที่(ซึ่งแตกต่างกันไปของใจแต่ละดวง. แต่หากความฝันอันยิ่งใหญ่และเจิดจ้าในการทำเพื่อ 3ประโยชน์คือ 1.ประโยชน์ตน(การเป็นผู้ให้-มีจุดยืนแห่งตัวตน-แนวทางถูกต้อง) 2.ประโยชน์ท่าน(ทำดีเพื่อดี-สร้างแนวทางที่เป็นทางเลือก-สร้างไม้ให้กับคนรุ่นหลัง) 3.ประโยชน์อย่างยิ่งในภายภาคหน้า(ทำดีเพื่อดี แม้ไม่หวังสิ่งใดๆตอบแทนสิ่งดีนั้นมันยังคงอยู่และเป็นของผู้ทำเสมอ-เหมือนการที่เราฝากเงินไว้กับธนาคารดอกฯเท่าไหร่ไม่ว่ากัน หากแต่ต้นทุนไม่ถอนออกไปก็คงอยู่เช่นนั้นเป็นของผู้นั้นเสมอ)

คืออิทธิบาท๔ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ และวิมังสา

หากดิฉัน(ข้าผู้น้อย!)ไม่ถูกเคี่ยวเข็ญจากบุคคลคนและสิ่งนำพาที่อาจเรียกว่าดวงชะตาคงไม่อาจหลั่งไหลความรู้สึกจากใจได้เช่นนี้ {ในการทำดีเพื่อดี - ขอเป็นกำลังใจสำหรับคนทำเช่นกัน ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกันกับที่คุณป.กำลังมุ่งมั่นและดำเนินอยู่ การเป็นผู้ให้}ไม่ใช่การผ่าเหล่าหรือนอกคอก "แต่ฉันเรียกว่ามนุษย์สายพันธุ์ใหม่" ขอให้คุณป.เดินถึงความสำเร็จจุดหมายปลายทางที่ท่านตั้งใจในเร็ววัน สูดลมหายใจให้เต็มปอด ฮึดพลังทุกย่างก้าว เต็มที่ด้วยกาย วาจา และใจ คงไม่นานเกินรอค่ะ สู้ๆค่ะ

ไม่ผิดหวังที่เลือกเข้ามาสู่สังคมgotoknowจริงๆค่ะนับวันหัวใจยิ่งได้เติมเต็มพลัง ชีวิตได้พลังขึ้เยอะเลยค่ะ ขอบคุณบทความดีๆขอบคุณและอยากบอกว่า I LOVE GOTOKNOWอีกครั้งค่ะ "คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล"

เชื่อว่า! ดีและไม่ดีทุกคนต้องเคยทำมาด้วยกันทั้งสองอย่าง และเชื่อว่าดีและไม่ดีทั้งสองอย่างทุกคนต้องวางไว้กับโลกใบนี้.

ปล.ขออภัยหากทำให้ท่านตาลาย!

ขอบคุณนะคะ

อ่านแล้ว มีกำลังใจทำงานค่ะ

"หาก 5 ปี นับแต่นี้ ที่ข้าพเจ้ามีโอกาสเข้ามาศึกษาณ ชุมชนแห่งนี้

แล้วไม่มีความคืบหน้า ในการพัฒนาตน องค์กร และชุมชน

อย่างเป็นรูปธรรมใดๆ

ข้าพเจ้า มิอาจเรียกขานตนเองได้ว่า ผู้รับใช้พระศาสนา "

...อนุโมทนาด้วยใจจริงคะ
เป็นความตั้งใจมุ่งมั่น ที่ผู้สร้าง gotoknow ปลื้มใจเป็นแน่คะ

เป็นกำลังใจให้คุณหญ้าแสนฝนเป็นผู้รับใช้พระศาสนาที่สมบูรณ์ดังตั้งใจคะ

 

ขอบคุณคะ การตั้งเป้าหมายโดยไม่คาดหวัง
นับเป็น ศาสตร์และศิลป์ในการดำเนินชีวิต ที่ไม่มีสอนในโรงเรียน
เมื่อวานนี้ นั่งรถ คนขับใจลอยไปแค่เสี้ยวนาที
ขับรถเลยทางเข้าซอยแล้ว ขึ้นทางด่วนข้ามไปอีกเมือง
เสียอารมณ์ เสียเวลาไปโข (แถมเสียเงินค่าทางด่วน)
แต่ก็ ได้รู้จักเมืองที่สวยงามเพิ่มอีกเมืองหนึ่่งคะ

ขอบคุณคะ ที่แบ่งปันเกร็ดชีวิต ความฝันในวัยเยาว์
ความฝันกับความรับผิดชอบ บางช่วงมันเหมือนขนานกัน
ยินดีด้วยคะ ที่ได้ นี้เปิดลิ้นชักออกมาอีกครั้ง
แต่เชื่อว่า หากเป็นสิ่งที่เรารักแล้ว
แม้จะเริ่มต้นในสภาพที่ไฟกำลังจะมอดดับ
ก็มีโอกาสสว่างไสวได้
...

มีผู้กล่าวไว้ว่า
"ไม่สำคัญว่าเริ่มต้นอย่างไร แต่สำคัญว่าเราจะจบอย่างไร" 
คนที่เปลี่ยนหลายงาน กว่าจะเจอตัวเองมีไม่น้อยคะ
อย่าง Leo เอง ก็เคยทำทั้ง office ทั้ง sideline อยู่ 10 กว่าปี
กว่าจะเจอ "อิสรภาพ" 

 

ขอบคุณความเห็นกระตุ้นให้ขบคิดคะ คุณ Sr

น่าสนใจว่า

ในบางสถานการณ์ ต้องการทั้ง 'random walk' (no bias) และ 'directed search' (preferred path)

หากเป็นขั้นตอนพื้นฐาน ผลลัพท์ชัดเจนแจ่มแจ้ง เช่น การล้างมือลดการติดเชื้อใน รพ. การทำเป็น check list ก็ได้ผล

แต่สิ่งที่ซับซ้อน เช่น การใส่ท่อช่วยหายใจแก่ผู้ป่วยมะเร็งปอดที่มีอาการเหนื่อย..

แม้มีการศึกษามาบ้าง แต่ก็ไม่สามารถสร้างข้อยุติได้

ยากที่จะหา consensus

ในกรณีนี้ทางออก คือการละไว้ ให้ขึ้นกับ "วิจารณญาณ" และ "ความสมัครใจ" ของผู้เกี่ยวข้อง

ขอบคุณที่แนะนำคำศัพท์อีกตัวให้เรียนรู้คือ "quantum' เท่าที่อ่าน ไม่แน่ใจใกล้เคียงกับหลักอนัตตาของพุทธศาสนาหรือไม่

สวัสดีค่ะคุณหมอป.ที่คิดถึง

  • คุณยายมีดอกไม้วันพยาบาลแห่งชาติมาฝากค่ะ

ยังเชื่อใน "มันจึงเป็นเช่นนั้นเอง" คำสอนพระพุทธองค์ สิ่งต่างๆ เกิดตามเหตุและปัจจัย
การทำด้วยเจตนาดี แม้ผลลัพท์เฉพาะหน้าไม่เห็น ก็เชื่อในผลสะท้อนตามมาภายหลังคะ

....

อย่างไรเสีย สิ่งที่ได้คือ

ความรู้มือหนึ่งจากการลงมือทำ

ขอบคุณสำหรับบทสรุปข้อคิด แบบพกพาได้คะ :-)

เว้นว่าง....อิสระไว้

ชื่นใจกับ...ไม่เป้าหมาย

ทุกวันนี้ จึงวางแผนแต่ละวันแบบ 2/3 อีก 1/3 เว้นว่างอิสระไว้
เผื่อความไม่แน่นอน คะ

 

น่าติดตามมากคะ แต่ผู้ว่าออกมาแสดงความมั่นใจในข่าวนี้

อย่างไรก็ตาม การคาดหวังไว้กับใคร หรือสิ่งใด ย่อมมีโอกาสผิดหวัง

 ยกของสำคัญสูง 1 เมตรไว้ก่อนน่าจะดีคะ

ตรงใจคำว่า "ศรัทธา" มากคะ

หากปราศจากศรัทธาในงานที่ทำ ในสิ่งที่ตนเองเป็น

แม้ประสบความสำเร็จ ได้เลื่อนตำแหน่งบ้าง

ก็ไร้ความหมาย 

Steve Jobs เป็นบุคคลหนึ่งที่น่าศึกษาวิธีการคิดของเขามากคะ
Steve ลาออกจากมหาวิทยาลัย Standford เมื่อเรียนไปเพียง 1 ปี
( Bill Gates ก็ไม่น้อยหน้า ลาออกมหาวิทยาลัย Washington ก่อนจบ 1 ปี)
....

การตั้งเป้าหมายของเขาทั้งสอง คือ "ฉันทะ"
วินัยในตัวเองที่เกิดจากฉันทะนั้น อาจยั่งยืนกว่า วินัยที่ถูกล้อมกรอบจากภายนอก

ไม่ยอมให้เป็นหางแถวคะ  ขอให้เป็นหัวแถว..
น่าจะมีกิจกรรม ลปรร เหนือใต้กันต่อไปนะคะ 

ไม่ถึงกับ โยน การตั้งเป้าหมาย ทิ้งไป แต่ยอมรับกับความผันผวน ของผลลัพท์มากขึ้น
  • ข้อความโดนใจค่ะ
  • ขอบพระคุณค่ะ  

คุณน้อย น้ำพอง ที่ได้สะท้อนแนวคิด 3 ประโยชน์ จำง่าย ใช้ได้นานคือ
ประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน ประโยชน์อย่างยิ่งในภายภาคหน้า(ฝากลืม ธนาคารบุญ :-)

ฉันทะ เป็นหนึ่งในอิทธิบาท๔  ซึ่งได้ถูกเรียงไว้หน้าสุด
เห็นด้วยคะว่าฉันทะเป็นสิ่งสำคัญ แต่เพียงอย่างเดียวก็ไม่พอ
ลำพังตัวคนเดียวก็ไม่พอเช่นกัน เพราะความสำเร็จที่มีบ้าง ในชีวิตที่ผ่านมาก็ด้วย
ผู้ที่เป็นกัลยาณมิตร (ทั้งที่ตั้งใจและมิได้ตั้งใจ)

อ่านความเห็นนี้แล้ว รู้สึกปิติเป็นอย่างมากคะ
และขอบุญกุศลที่ได้มอบวิทยาทาน และ เมตตาธรรมนี้
ส่งผลให้คุณน้อยมีพลังในการทำดีเพื่อดีตลอดไป

ขอบคุณคะ

ขอบคุณคะ สงสัยมานานว่า Natachoei คืออะไร
เห็น ท่านวอญ่า พี่กระติก ก็ Natachoei อ้อ = หน้าตาเฉย :-D

เป็นกำลังใจให้กันและกันใน G2K ต่อไปเรื่อยๆ นะคะ

ขอบคุณคะ ร่วมรำลึกคุณความดีคุณพยาบาลทุกท่านด้วยคะ :-)

ขอบคุณคะคุณครูอิงจันทร์
มีผู้เปรียบชีวิตเหมือนขี่จักรยาน..สติจึงเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างสมดุล

ดังบทความที่คุณครูเขียนคะ "ดูแลจิตใจตนด้วยสติ"

 

คราวหนึ่งเพื่อนเคยถามผมว่าเป้าหมายของผมคืออะไร?

ผมบอกเขาว่า.... "ไม่รู้ และไม่มี"

นอกจากเขาจะงงและไม่เชื่อผมแล้ว เขายังพูดออกมาว่า "อ้าว! คนบ้านี่หน่า หลงคุยด้วยตั้งนาน "

แล้วเราทั้งคู่ก็พากันหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข......คิคิคิ

"ไม่รู้ และ ไม่มี" เพราะในความเป็นจริง อนาคตเป็นสิ่งที่คาดหมายมิได้
และเรามิได้ครอบครอง เช่นนั้นหรือเปล่าคะ :-) 

ขอบพระคุณเช่นเดียวกันค่ะคุณหมอ และก็ขอแบ่งอานิสงส์ หากสิ่งใดทีดิฉันได้ทำดีมอบให้ ส่งเสริมเติมพลังให้คุณหมอได้เสวยมรรคผลยิ่งๆขึ้นไปดั่งตั้ใจในทุกๆรอบ 5ปีด้วยเช่นกันนะคะ ไม่ว่าจะมากหรือน้อย แต่มันก็ช่วยต่อเติมไฟฝันให้กับชีวิตได้เช่นกันไม่ใช่หรือคะ (ไม่น่าเชื่อ! เพราะดิฉันเองก็ได้ตั้งความหวังจากสิ่งที่ทำในแต่ละ5เช่นกันค่ะ) ทำไมคนเราถึงได้ถูชะตากันทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้ากัน(ภาษาจิต ภาษาท่าทาง โลกใบนี้หลากหลายด้วยภาษา แต่ทุกภาษาสื่อสารได้ที่เดียวกัน คือหัวใจ!...ก็เกินพอ...

จากประสบการณ์ในการในชีวิตที่ดิฉัน(และสามี)ต้องดูแลอุปัฎฐากพระสงฆ์อาพาธ ซึ่งต้องประสานงานด้านเอกสารและผลัดกันเข้าออกรพ.นอนเฝ้าไข้ ในช่วงที่อาการท่านทรุดหนักผ่านความเป็นความตาย เหมือนได้เกิดใหม่. ได้เรียนรู้ธรรมะและสัจธรรมของชีวิตยิ่งขึ้น

โดยเฉพาะกับสิ่งที่มีค่ายิ่งในช่วงเวลาขณะนั้นคือการได้สัมผัสถึงจิตวิญญาณจากใจ เหล่าเทวดาและนางฟ้าในเมืองสวรรค์บนโลกใบนี้(ที่แห่งนี้คือโรงพยาบาล) ตั้งแต่คุณหมอ พยาบาล คนทำความสะอาด(ที่สามารถยกมือไหว้"หัวใจ"ได้อย่างเต็มใจทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน)รวมถึงรปภ.ที่มีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อย ได้เห็นคุณค่าทั้งคุณหมอและคุณพยาบาลที่จะขาดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไปไม่ได้ สำคัญเท่าเทียมกันด้วยหัวใจแห่งเมตตาธรรม(พรหมวิหาร๔) ยิ่งในยามค่ำคืนยิ่งดึกดื่นเท่าไหร่หัวใจยิ่งสว่างจ้ากับสายตาที่มองเห็นการทำงานของเหล่าเทวดานางฟ้ากับการตื่นตัว(หัวใจที่เตรียมพร้อมเพื่อผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา) หนัก!จริงๆ......

จากคำถามที่เคยอยู่ในหัวใจกับคำว่าทำไมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆได้มลายหายไปหมดสิ้น.......( คุณหมอ คุณพยาบาล ก็คน! )

ปล.ในยามที่อากาสหนาวเหน็บเห็นพี่พยาบาลนอนหัวซุกกันในเวลาเพียงน้อยนิดก่อนออกเวรยิ่งสงสาร ด้วยเหตุนี้จึงจัดให้พยาบาลหวานทั้งตึกจากเมนูสดๆร้อน เอาไปช่วยต่อเติมพลังจิตสาธารณะ ทำดีเพื่อดีของเหล่านางฟ้าตัวจริง!....

( สำคัญที่ใจ! ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ใจเป็นหัวหน้าการงานทั้งปวง เทศนาธรรมองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต )

การทำงานใด 
หากปราศจากแรงบันดาลใจ
นั่นไม่ใช่เส้นทางของเรา

โดนใจไปแบบเต็ม เต็ม

 

สำหรับพี่ ถ้าทำงานแบบไม่มีเป้าหมาย คงทำไม่ได้

เป้าหมายในการทำงาน

คือ ....ความสุข.... สุขกาย สุขใจ สุขจากการเป็นผู้ให้ สุขจากการเป็นผู้รับ 

 สุขทุกๆ อย่างที่มีและที่เป็น   (แต่บางครั้ง หลายครั้ง   ก็ทุกข์ จากที่มีและที่เป็นคะ ^__^)

 

แต่หลายครั้งหลายครา ก็ใช้แนวคิดของคุณ

Ico48

 

คราวหนึ่งเพื่อนเคยถามผมว่าเป้าหมายของผมคืออะไร?

ผมบอกเขาว่า.... "ไม่รู้ และไม่มี"

 

ผลคือ ได้รับคำถามกลับมาว่า  ทำงานยังงัย ไม่มีเป้าหมาย  (ไม่เข้าใจ)

 

ดีใจท่ี่คุณน้อย กลับมาเยี่ยมเยียนอีกครั้งคะ

อ่านมุมมองที่สะท้อนออกมา รู้สึกประทับใจคุณน้อย ที่มองบุคคลอื่น
ด้วยความมีเมตตา เข้าอกเข้าใจ และชื่นชมยินดี
ก็ด้วยบุคคลเช่นนี้ ที่ผ่อนความกระด้างของโลกให้น่าอยู่ขึ้น
เชื่อว่าการที่คุณน้อยมักได้พบคนมีน้ำใจ ซึ่ง  "สะท้อน" สิ่งที่คุณน้อยปฎิบัติต่อผู้อื่นคะ

ประโยคสุดท้าย คงทำให้คนทำงานหลายคนชื่นใจ ขึ้นเป็นกองเลยคะ :-)

 

เป้าหมายพี่กระติก"มอง" และเป็นเป้าหมายที่เกิดจากสุขภายใน
สุขที่่เกิดจากการได้กระทำ
จึงสุ่มเสี่ยงน้อยกว่า เป้าหมายที่คาดหวังสิ่งที่ผู้อื่นทำ 

มองเห็นเป้าหมาย แต่ไม่ยึดถือครอบครอง น่าจะพอได้ไหมคะ

  • เยี่ยมมากครับ
  • ได้ข้อคิดถึงๆเสมอ
  • อยู่ลำปางครับ

ยินดีด้วยคะ อยู่ลำปางแสดงว่าไม่โดนน้ำท่วม
ยังไงร่วมเป็นกำลังใจให้ทีมเกษตรศาสตร์กำแพงแสน ช่วยผู้ประสบภัย ด้วยคนคะ

  • สวัสดีค่ะ อาจารย์หมอ ป.
  • แล้วแต่มุมมองแต่ก็ได้มุมคิดที่ลึกซึ้ง
  • เป้าหมายทำให้เกิดความชัดเจนที่สำคัญต้องมีแรงบันดาลใจจึงจะก้าวเดินได้สำเร็จ
  • ขอบพระคุณบันทึกดี ๆ ค่ะ

ขอบคุณคะคุณครู 
มุมมองที่แตกต่าง แสดงถึงการพิจารณาก่อนตัดสิน
รวมทั้งประเมินจากการลองปฎิบัติ
นับเป็นคุณสมบัติที่น่าส่งเสริมคะ

....

Ask - Find - Appraise - Ack - Evaluate :-) 

อ่านแล้วนึกถึงสตีฟ จ๊อป นะครับ แต่ยังไงในฐานะคนอายุเยอะหน่อย ก็มั่นใจกับแนวทางที่คุณหมอตั้งมั่นไว้นั่นคือ ทำในสิ่งที่เรารัก เพราะอย่างไรเสีย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นความสุขในขณะที่ได้ทำนั้นรวมทั้งพละกำลัง ความอึด หลายสิ่งหลายอย่างเหล่านี้ไม่รู้ว่ามันมาจากไหนนะ มากมายจริง ๆ ผมทราบได้ก็ด้วยประสบการณ์ของผม คล้ายกันกับจ๊อปก็คือเราไม่สามารถทราบได้หรอกว่า หนทางที่เราเลือกนั้นมันถูกต้องหรือไม่ อย่างไร แต่จะทราบได้ก็ต่อเมื่อทำไปแล้ว ล้มเหลว หรือประสบความสำเร็จแล้วเรามองย้อนกลับไป สิ่งต่างๆ ถูกผิดหรือไม่อย่างไร จึงจะปรากฏ นะครับ

บันทึกนี้เป็นบันทึกที่ถือว่าทำได้สมบูรณ์ทำให้ผมได้นึกว่าตนเอง ก็เกิดแรงบันดาลใจ อยากจะปรับปรุง ระดับการเขียนบล็อกเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือนะ แต่ก็ไม่ทราบว่าจะทำได้สำเร็จหรือเปล่า เพราะแค่มีปิ้งแว็บแล้วมาเขียนทันทีทันใดก็ยังทำได้ เขียนได้ไม่ประจำเลย นะครับ

สวัสดี(รอบสอง)ค่ะ อาจารย์หมอป.

มาส่งข่าวค่ะ

วันนี้ ขยับได้ครึ่งเมล็ดงาแล้ววว เยเย่

การขยันมือขยันเท้า

บางครั้ง เห็นชัดว่าเราขี้เกียจซ้อน

ขี้เกียจใช้สมอง ที่มันต้องใช้สมาธิจดจ่อกว่าปกติ

เลยกลบเกลื่อนด้วย...วิ่งให้ยุ่งเข้าไว้

เฮ้อ...ตลกร้ายเนอะ

ขอบคุณมากๆๆนะคะ

สำหรับบันทึกอันทรงพลัง

เป็นแรงบันดาลใจอันวิเศษแก่กัน 

คุณเพชรถ่ายทอดออกมา มีความสวยงามและเป็นเหตุเป็นผลในตัวเอง

.. ทำในสิ่งที่เรารัก
เพราะอย่างไรเสีย
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นความสุขในขณะที่ได้ทำนั้น
ไม่ว่าผลสุดท้ายจะออกมาแบบล้มเหลว หรือประสบความสำเร็จ...

การสร้างสรรค์ด้วยการเขียน เริ่มต้นที่การปิ้งแว็บ ไอเดียที่ปิ๊งมักพิเศษ
เป็นกำลังใจให้คะ

 

ยินดีที่ได้ต้อนรับอีกครั้งคะ

เริ่มต้นได้ ถือว่าผ่านงานที่ยากอันดับแรก

ขั้นต่อไปคือความต่อเนื่อง

ชื่นชมในศรัทธาและความคิดสร้างสรรค์ของคุณหญ้าแสนฝนคะ

พี่หมอคะ

อ่านบันทึกนี้แล้ว พลังเล็กๆ บางอย่างในสมอง มันเริ่มจะทำงานขึ้นมาเลยค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ ^_^

ดีใจด้วยคะ ที่ได้เป็นส่วนร่วมจุด แชะๆๆ :-)

กลับมาอ่านบันทึกนี้อีกที ในวันที่หาคำตอบ
...หากเรา ถูกสถานการณ์บังคับให้ไปทำงานน่าเบื่อ ที่เราไม่อยากทำละ..

คำตอบ ก็ต้องหาจุดดีของงานนั้นที่มาเสริม งานที่สร้างแรงบันดาลใจ
           งานไหนที่ไม่สนุก ก็ต้องเล่นแล่แปรธาตุให้มันสนุก  

เห็นด้วยค่ะ

คนเรานั้นไม่ควรตั้งความหวังให้สุงนัก

เราต้องเผื่อความพลาดหวังเอาไว้ด้วย

ถ้าทำได้ก้ดีหากไม่ได้ก็ไม่ต้องเสียใจมากนัก

พี่หมอคะ

คงต้องพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสค่ะ

บางทีหนูก็เอาแรงอยากรู้อยากเห็นเป็นตัวสร้างแรงบันดาลใจ เมื่อเจอะปัญหาก็บอกตัวเองว่า เอ้า....วิ่งหาคำตอบดีกว่า จะได้เคลีย์ ^_^

 ผิดหวังในระดับพอดีๆ เป็นแรงผลักดัน ให้เรียนรู้ เพื่อสู้ใหม่

ขอบคุณคะ

 

ตรงใจ ใจตรงกันคะ "ใช้ความอยากรู้ อยากเห็น เป็นตัวสร้างแรงบันดาลใจ"

ในความธรรดา ประจำวัน มี "ประเพณีที่ทำตามๆ กันมา -dogma"

สิ่งนี้หากเราลองตั้งคำถาม ก็มีให้ท้าทาย

ขอให้โครงการแพทย์ประจำบ้านเวชศาสตร์ครอบครัวได้บรรลุเป้าหมายดังที่คุณหมอป. ตั้งใจไว้นะครับ

และผมเชื่อว่าในอนาคตแพทย์ในสาขานี้จะสามารถช่วยป้องกันโรคซึ่งย่อมจะให้ผลที่ดีมากกว่าการรักษาโรคด้วยครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท