หาประสิทธิภาพและคุณภาพของสื่อCAI


หาประสิทธิภาพและคุณภาพของสื่อCAI

เรามั่นใจในประสิทธิภาพและคุณภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน

ที่เราสร้างขึ้นได้อย่างไร1. การหาประสิทธิภาพสื่อการเรียนการสอน มีกระบวนการที่สำคัญ  2  ขั้นตอน   
(นิตยา เทพาขันธ์)
1. วิธีการหาประสิทธิภาพเชิงเหตุผล      เป็นการหาประสิทธิภาพโดยอาศัยหลักความรู้และเหตุผล  โดยอาศัยผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้พิจารณาตัดสินคุณค่า

2. การประสิทธิภาพเชิงประจักษ์  โดยการนำสื่อไปทดลองกับกลุ่มเป้าหมาย 

 

2.  ประสิทธิภาพ หมายถึง การปฏิบัติงานที่ต้องการให้ประสบผลสำเร็จและเกิดประโยชน์สูงสุด โดยงานนั้นจะต้องมีความรวดเร็ว ประหยัดและผู้รับบริการมีความพึงพอใจ

                 คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer-Assisted/Aided Instruction) หรือ CAI เป็นสื่อการเรียนการสอน และเป็นกระบวนการเรียนการสอน โดยมีลักษณะการทำงานในรูปแบบของสื่อประสม (Multimedia) คือใช้สื่อร่วมกันมากกว่า 1 ชนิด เช่น ตัวอักษร ภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว ที่สำคัญคือสามารถโต้ตอบระหว่างผู้เรียนกับ คอมพิวเตอร์ มีการประเมินผลเพื่อสนองตอบให้กับผู้เรียนอย่างรวดเร็ว โดยจะต้องมีลักษณะสำคัญ 4 ประการ ซึ่งเรียกย่อๆ ว่า 4-I คือ

                ดังนั้น  ประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์ช่วยสอน จึงหมายถึง คอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่สามารถ นำไปใช้ในการสอนแล้ว ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างสมบูรณ์  และผู้เรียนมีความพึงพอใจ      

                การหาประสิทธิภาพ  ก็หมายถึงการหาคุณภาพของคอมพิวเตอร์ช่วยสอนตามเกณฑ์ที่กำหนด     โดยไปวัดจากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของกลุ่มตัวอย่าง เมื่อได้เรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนจบบทเรียนแล้ว เช่น จะใช้เกณฑ์  80/80  

                แบบฝึกหัด หมายถึง ข้อสอบที่ให้กลุ่มตัวอย่างทำหลังจากเรียนจบ ในแต่ละบทเรียนเพื่อประเมินผลความก้าวหน้าทางการเรียนของกลุ่มตัวอย่าง

                แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง ข้อสอบที่ให้นักศึกษาทำภายหลังจากเรียนด้วยคอมพิวเตอร์ช่วยสอนจบแล้ว

3.  เครื่องมือที่ใชวัดผลและประเมินผลการเรียนรู จะตองตรวจสอบและวิเคราะหหาคาคุณภาพเครื่องมือกอนทุกครั้งเพื่อใหแนใจวาเครื่องมือนั้นมีเกณฑ์มาตรฐานไดผลการวัดที่ถูกตองและเชื่อถือไดในการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือ คุณภาพบางดานเมื่อสรางเครื่องมือเสร็จ ก็สามารถตรวจสอบไดทันที เช่นความเปนปรนัย แตคุณภาพบางดาน เชน ความเที่ยงตรง ความยากงาย อํานาจจําแนก ความเชื่อมั่นจะตองนําเครื่องมือนั้นไปทดลองใช (Try out) กับกลุมทดลองเครื่องมือ แล้วนําผลมาวิเคราะหหาคาคุณภาพ ถาปรากฏวาคาคุณภาพดานตาง ๆ ที่วิเคราะหไมไดตามเกณฑที่กําหนดไวก็ต้องปรับปรุงแก้ไขและนําไปทดลองใหมจนแน่ใจว่าได้ค่าคุณภาพตามเกณฑที่กําหนดในการวัดผลการเรียนรูผูสอนต้องมีความแน่ใจวาเครื่องมือที่วัดนั้นมีคุณภาพดีพอ ก่อนนําไปใชจริง ซึ่งลักษณะของเครื่องมือวัดผลการเรียนรูที่ดี ควรมีลักษณะดังนี้1. มีความเที่ยงตรง ( validity ) IOC แตละขอตองมีคามากกว 0.5 ซึ่งหมายถึงวัดไดตรงตามจุดประสงคของการวัด2. มีความเชื่อมั่น ( Reliability ) ของแบบทดสอบทั้งฉบับมีคาไมต่ำกว 0.7 ซึ่งแสดงวาเครื่องมือวัดใหผลการวัดที่สม่ำเสมอ แนนอน คงที่ แมจะวัดกี่ครั้งก็ตาม3. มีความเปนปรนัย หมายถึง เครื่องมือวัดที่มีขอความชัดเจน การตรวจใหคะแนนมีมาตรฐานสามารถแปลความหมายพฤติกรรมไดตรงกัน ไมว่าใครจะเปนผูวัดหรือผู้ตรวจ4. มีค่าความยากระหว่าง 0.2 - 0.8 (ไมควรยากเกินไปและไมายเกินไป)5. มีค่าอํานาจจําแนกระหวาง 0.2 – 1.0 (ายิ่งมากยิ่งดี คาที่คํานวณไดจะอยูระหวาง -1 ถึง 1) 4. การประเมินบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน  ดังนี้-          ด้านเนื้อหาข้อมูล  (content)-          ด้านการออกแบบระบบการเรียนการสอน (Instructional System Design)-          ด้านการออกแบบหน้าจอ (Screen Design)-          ด้านเทคนิค (Technique)ที่มา : http://th.wikipedia.org 
คำสำคัญ (Tags): #ส่งงาน#พรพรรณ
หมายเลขบันทึก: 46491เขียนเมื่อ 26 สิงหาคม 2006 12:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 00:11 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
  • เยี่ยมครับ
  • ถ้าเขียนเรียบเรียงจากความคิดของตนเอง OK เลย
  • แต่ถ้าอ้างอิงขอ แหล่งที่อ้างอิงบ้างก็ดีนะครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท