เกณฑ์ในการพิจารณา CAI ที่มีประสิทธิภาพ ควรประกอบด้วย
1. เนื้อหา ความถูกต้อง คุณค่า ฯลฯ
2. วิธีการสอนหรือการเสนอเนื้อหา ความมุ่งหมายชัดเจนตรงตามวัตถุประสงค์ มีความชัดเจนและตามตรรกะ เหมาะสมกับผู้เรียน การใช้ภาพ แสง สี และกราฟิกเหมาะสม น่าสนใจ ช่วยส่งเสริมในการคิดสร้างสรรค์ ตอบสนองความต้องการของผู้เรียนเหมาะสมกับสถานการณ์ เวลา และเหตุการณ์ ช่วยบูรณาการประสบการณ์ในอดีตผู้เรียนสามารถควบคุมได้ ฯลฯ
3. เทคนิควิธีการ การแสดงผล ง่ายต่อการใช้งาน มีความแน่นอนเชื่อถือได้
ประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์
หมายถึง ความสามารถของบทเรียนในการสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ถึงระดับเกณฑ์ที่คาดหวังไว้มีกระบวนการที่สำคัญ 2 ขั้นตอน
1. วิธีการหาประสิทธิภาพเชิงเหตุผล เป็นการหาประสิทธิภาพโดยอาศัยหลักความรู้และเหตุผล โดยอาศัยผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้พิจารณาตัดสินคุณค่า
2. การประสิทธิภาพเชิงประจักษ์ โดยการนำสื่อไปทดลองกับกลุ่มเป้าหมาย
การกำหนดเกณฑ์ประสิทธิภาพ
ประสิทธิภาพที่วัดออกมาจะพิจารณาจาก ค่าเฉลี่ยร้อยละของคะแนนแบบฝึกหัด กับค่าเฉลี่ยร้อยละของคะแนนแบบทดสอบ แสดงเป็นตัวเลข 2 ตัว เช่น 80/80, 85/85, 90/90
ขั้นตอนการทดลองหาประสิทธิภาพ
1. ทดลองแบบหนึ่งต่อหนึ่ง
1.1 เพื่อตรวจสอบความเหมาะสมของสื่อ ในด้านการออกแบบ ขนาดของตัวอักษร ภาพนิ่ง/เคลื่อนไหว คำบรรยาย สี เสียง เป็นต้น
1.2 ทดลองโดยใช้นักเรียนระดับเดียวกัน เก่ง ปานกลาง อ่อน อย่างละ 1 คน ดูสื่อที่สร้างขึ้น ครูคอยซักถามนักเรียนเกี่ยวกับการออกแบบข้างต้น
2. ทดลองแบบกลุ่มเล็ก
2.1 ใช้เด็กเก่ง ปานกลาง อ่อน กลุ่มละ 3-10 คน
2.2 ทดลองเหมือนการทดลองจริงโดยใช้เครื่องมือทุกชนิด เช่น บทเรียนคอมพิวเตอร์ แบบทดสอบ แบบสอบถามความพึงพอใจ
2.3 เพื่อตรวจสอบเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมและข้อบกพร่องของการออกแบบอื่นๆ
3. ทดลองแบบภาคสนาม
3.1 เป็นการทดลองกับกลุ่มตัวอย่างที่กำหนด
3.2 เพื่อหาคุณภาพของสื่อ เทคโนโลยี หรือนวัตกรรมที่กำหนด
3.3 มีการทดสอบก่อนเรียน เก็บคะแนนระหว่างเรียน ทดสอบหลังเรียน และสอบถามความพึงพอใจต่อ การเรียนวิธีนี้
3.4 ถ้าจะทดสอบความคงทนในการเรียน ก็ใช้แบบทดสอบเดิม สอบอีกครั้งหลังการเรียนผ่านไป 2-3 สัปดาห์ การหาค่าประสิทธิภาพรวมของบทเรียนคอมพิวเตอร์ มีหน่วยเป็นเปอร์เซ็นต์
95 – 100 มีประสิทธิภาพดีมาก
91 – 94 มีประสิทธิภาพดี
80 – 89 มีประสิทธิภาพ
ต่ำกว่า 80 ต้องปรับปรุงแก้ไข