ชีวิตที่พอเพียง : ๑๔๐๙. เรียนรู้การศึกษาของฟินแลนด์


          ระบบการศึกษาของฟินแลนด์ไม่เหมือนใคร ไม่เอาอย่างใคร   และเมื่อมีการวัดคุณภาพเปรียบเทียบโดยโครงการ PISA ก็ประหลาดใจไปตามๆ กันว่าคุณภาพอันดับ ๑ ของโลก   นิตยสาร The Smithsonian ไปศึกษาเอามาตีพิมพ์ในฉบับประจำเดือน ก.ย. ๕๔ เรื่อง A+ for Finland : Why Are Finland Schools Successful?   
 
          อ่านบทความนี้แล้ว ผมตีความว่าหัวใจของความสำเร็จของระบบการศึกษาของฟินแลนด์คือ   เขาเอาใจใส่เด็กมีปัญหาการเรียนมากกว่าเด็กเก่ง   เพราะเด็กเก่งช่วยตัวเองได้อยู่แล้ว  
 
          พฤติกรรมนี้มันฝังอยู่ในวัฒนธรรมที่ต้องการสร้างความเท่าเทียมกันของคนในสังคม  ไม่ใช่ว่าจะเกิดในสังคมอื่นได้ง่ายๆ   มันมากับประวัติศาสตร์ของประเทศ  สั่งสมกันมายาวนาน จนครูจะยึดถือเหมือนกันหมด  คือช่วยเหลือศิษย์ให้ได้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน  ศิษย์หัวดี มาจากครอบครัวดี เรียนได้ดีอยู่แล้ว ครูก็ไม่ต้องเปลืองแรง   จะได้มีเวลาและความเอาใจใส่พุ่งไปช่วยเด็กต่างด้าว เด็กพิเศษ หรือเด็กด้อยโอกาส
 
          เพราะกระบวนทัศน์แบบนี้ โรงเรียน ๓,๕๐๐ แห่งทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนในเมืองหลวง หรือที่อยู่ที่ Lapland อันห่างไกล จึงมีคุณภาพทัดเทียมกัน  เรียนที่ไหนก็สบายใจได้ว่าครูสอนอย่างมีคุณภาพ 
 
          เพราะจะเป็นครูได้ต้องมาจากบัณฑิตที่ผลการเรียนอยู่ในร้อยละ ๑๐ บนของชั้นเท่านั้น   แล้วไปเรียนปริญญาโทด้านการศึกษา   ในฟินแลนด์ครูได้รับการยกย่องและรายได้เท่ากับหมอและนักกฎหมาย
 
          ครูจะทำงานเป็นทีม ปรึกษาหารือกัน เพื่อช่วยเหลือนักเรียนที่เรียนอ่อน หรือด้อยโอกาสบางอย่าง   นักเรียนที่เรียนระหว่างเกรด ๑ – ๙ ร้อยละ ๓๐ จะเคยได้รับการดูแลเอาใจใส่พิเศษในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
 
          เขาไม่สอบวัดผลเพื่อเปรียบเทียบผลของต่างโรงเรียน  ไม่มีการสอบแข่งขัน   ไม่มี ranking   มีการสอบเพื่อผ่านหรือไม่ผ่านเฉพาะตอนจะจบชั้น ๑๒ ครั้งเดียว   คือให้ความไว้วางใจครูให้สอบติดตามผลการเรียนของศิษย์เอาเอง   คือเมื่อครูมีคุณภาพ มีความรับผิดชอบ และมีวิธีทำหน้าที่ที่ถูกต้อง (เอาใจใส่เด็กเรียนอ่อน)   กระทรวงศึกษาธิการก็ไม่ต้องเข้าไปบริหารแบบ top-down
  
          ที่สำคัญ เขาไม่ได้ทำงานเพื่อผลการทดสอบ PISA หรือผลการทดสอบใดๆ   เขาทำงานเพื่อการเรียนรู้ของศิษย์เป็นเป้าหมายสำคัญ   เขาบอกว่า การบ้าอวดผลการทดสอบ ทำให้หย่อนยานด้านมิติของความเป็นมนุษย์ด้านการศึกษา   ลองอ่านบทความเอาเองนะครับ จะได้รสชาติกว่าที่ผมเก็บมาเล่า  
 
          ผมอ่านระหว่างบรรทัดได้ว่า ครูของเขาภาคภูมิใจและได้รับการยอมรับนับถือที่ฝีมือการสอนและดูแลนักเรียน   โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การช่วยเหลือเด็กที่เรียนอ่อนหรือมาจากครอบครัวที่ยากลำบาก  ไม่ทราบว่าผมตีความถูกหรือผิด
 
          ทุกพรรคการเมืองของฟินแลนด์ยึดถือหลักความเท่าเทียมกัน (equality) ของการศึกษา   และร้อยละ ๙๓ ของประชากรจบชั้นมัธยมสายวิชาการหรือสายวิชาชีพ   โดยร้อยละ ๖๖ เรียนต่อระดับอุดมศึกษา (สูงที่สุดใน อียู)   นักเรียนชั้นมัธยมร้อยละ ๔๓ เรียนสายอาชีพ
 
         นักเรียนมีชั่วโมงเรียนน้อยกว่าประเทศอื่น  เน้นการเล่น เพราะเชื่อว่าการเล่นคือการเรียนอย่างหนึ่ง   และครูก็มีชั่วโมงสอนน้อย เพราะจะได้มีเวลาตรวจการบ้าน และร่วมกันวางแผนการเรียน เพราะเชื่อว่านั่นคือบทบาทสำคัญต่อผลการเรียนของนักเรียน
 
          มีการเล่าถึงเด็กไทยที่เข้ามาเรียนโดยไม่รู้ภาษาฟินแม้แต่คำเดียว   เด็กต่างด้าวเหล่านี้ได้รับการดูแลพิเศษโดยครูที่เชี่ยวชาญด้านการศึกษาหลายวัฒนธรรม   โดยที่รัฐบาลมีงบประมาณ positive discrimination fund ช่วยเหลือ
  
          ต้องอ่านรายละเอียดตาม link เอาเองนะครับ จึงจะได้สาระเชิงลึก

 

 

 

วิจารณ์ พานิช
๑๔ ก.ย. ๕๔

         
         
          
หมายเลขบันทึก: 464305เขียนเมื่อ 10 ตุลาคม 2011 10:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 15:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ขอบคุณคะ ขออนุญาตยกอีกประโยคที่น่าสนใจจากบทความที่ท่านอาจารย์แนะนำ

Teachers in Finland spend fewer hours at school each day and spend less time in classrooms than American teachers. Teachers use the extra time to build curriculums and assess their students.

แสดงถึง หากคัดสรรเนื้อหา กิจกรรมให้เหมาะสมแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้เวลานาน
และเห็นด้วยคะว่า การสอนเป็นทีม ทำให้เกิดการปรึกษาเพื่อพัฒนางาน

จะนำไปปรับปรุงตนเองคะ 
แต่น่าคิดคือ การคิดภาระงานของอาจารย์ในสถานศึกษาบางแห่งยังใช้การนับจำนวนชั่วโมง และ หากเป็นจำนวนชั่วโมงสอนร่วมกันหลายท่านต้องหารกัน..
 

ระบบการศึกษาของฟินแลนด์ ที่มาของ "สถานีโทรทัศน์ครู" ของบ้านเรา

ไปเห็นว่าดี เลยเอามาลองทำบ้าง ... รอดูว่า จะได้ผลอย่างไรบ้างครับ

ขอบคุณครับ อาจารย์หมอ ;)...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท