กำจัดวัชพืช vs กำจัดกิเลส


การกำจัดวัชพืช vs กำจัดกิเลส รุ่งเช้าของการไปอยู่วัดวันแรก (๖ ตุลาคม ๒๕๕๔) หลังรับข้าว ณ ศาลาลธรรมเสร็จแล้วก็เข้ามาในเขตแม่ชี ด้วยจิตภายในที่ฟุ้งซ่าน กระโดดไปคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ การเดินจงกรมหลังข้าวตามปกติดูจะใช้การไม่ได้ จึงค่อยๆมุ่งหน้าไปที่แปลงผัก น่าทึ่งคือ ขลู่สามารถชูช่อขึ้นมาได้ ทั้งที่เสียบลงดินและวางเฉยๆ เพราะวันนั้นมืดแล้วรู้สึกจะทุ่มกว่า ๆ ฟ้าก็มืด จึงรีบปลูกแบบติดๆ และวางที่เหลือไว้ ส่วนรุ่งเช้าก็รีบกลับ เพราะต้องไปกรุงเทพ ผลจากการไม่ละทิ้งความตั้งใจทำให้ขลูงามและติดขึ้นมาได้ อย่างน่าทึ่งค่ะ รวมๆถึง พลูคาวที่ผลิใบงามๆ ดีปลาช่อน หนุมานประสานกาย  สองสามวันหลังๆ ได้โอกาสเด็ดยกขึ้นสำรับด้วยเป็นผักสด ส่วนปัญจขันธ์และเสลดพังพอนตัวเมียยังไม่ค่อยงามนัก อาจจะยังไม่ค่อยเหมาะกับดินเท่าไหร่ ข้างๆต้นไม้ มีวัชพืชชูช่ออย่างงามเสมือนทุ่งหญ้า เล็กมีดอกชูช่อสลอน ใจแว๊บกับตนเอง "ถ้าปล่อยไว้ไม่กี่อาทิตย์ ดอกหญ้าที่กำลีงงามจะแห้งแตกและปลิวไปตามลม หรือร่วงลงแล้วขยายพันธุ์ หากไม่รีบจัดการตอนนี้อาจจะมีปัญหาใหญ่รออยู่ข้างหน้า" คิดได้ก็ลงมือทำเลย ไม่ร้องหาจอบหรือเสียมใด ๆ ใช้เพียงสองมือค่อยๆถอน ทำเท่าที่ทำได้ก่อน ระลึกกับตนเอง พื้นที่ไม่น้อยเลยค่ะ เกือบๆจะหนึ่งงานได้กระมัง แต่มีหญ้าอยู่ประมาณครึ่งงาน ถอนไปชั่วโมงกว่า ๆ หันมองหญ้าที่ถูกถอนไม้น้อยเลย รู้สึกยินดีแล้วระลึกกับตนเองว่า "วัชพืชก็เหมือนกิเลส ถ้ามันเล็กมากๆ มักจะมองไม่ค่อยเห็น ผู้มองไม่ละเอียดพอ แต่ถ้าเผลอหรือปล่อยไป กิเลสมันค่อยๆโตขึ้น เห็นได้ง่าย ครานี้ก็กำจัดได้ง่าย แต่ต้องออกแรงมากขึ้น หนักเข้าไปอีกเมื่อวัชพืชโตแล้ว เราเห็นแล้วแต่ยังละเลย วัชพืชก็จะเติบโตและขยายพันธุ์ต่อไป กิเลสก็เช่นเดียวกัน ถ้าไม่ละ เห็นกิเลสแล้วนิ่วเฉยปล่อยเลยไป จะถูกความืดดำแห่งกิเลสเจ้าครอบงำได่ง่ายแต่ถ้าเห็นปุ๊บ เห็นเล็กก็กำจัดเล็กๆ เห็นโตขึ้นมาหน่อยก็ถอนด้วยมือได้ หากปล่อยให้โตมากอาจจะต้องใช้อุปกรณ์ช่วยเช่นจอบหรือเสียมมากำจัด กิเลสก็เช่นกันถ้ามันยากๆใหญ่ๆเราอาจจะต้องฝึกมาก ๆหรืออาจจะขอความเมตตาผู้รู้ผู้ชำนาญมาช่วยชี้แนะวิธีในการกำจัด แต่เมื่อกำจัดได้แล้วก็เห็นได้ชัดเลยว่า สวนมีพื้นที่ในการปลูกผักมากขึ้น ใจนี้ก็คงเช่นกัน หากละชั่ว ละกิเลสได้คงจะมีพื้นที่ให้ทำความดีแล้วฝึกตนให้เป็นประโยชน์ต่อไป" การกำจัดวัชพืชก็คงเหมือนการละความชั่ว เหมือนกับการตัดกรรมเลยแฮะเพราะถอนมันก่อน ๆที่มันจะขยายพันธุ์
หมายเลขบันทึก: 464297เขียนเมื่อ 10 ตุลาคม 2011 01:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 พฤษภาคม 2012 18:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

We call plants we can't use (for our own benefits) 'weeds' (วัชพืช).

We see plants we can't use (for our own profits) 'useless', 'bad', 'untidy',...

Insects and other lives may depends on 'weeds' for food, for medicine, for habitats,...

Biodiversity is saving a large pool of 'genes' (or DNA combinations), so we can replenish Earth with 'Life'.

Weeds and weeders are no different -- all are 'lifeforms', carriers of DNA combinations,

None is useless. None is better than another. None can live 'alone'.

Next time we see 'weeds', think of 'lives'.

We have no right to 'kill off' other forms of Life.

We may be 'weeds' in someone's eyes.

Think instead 'Can we see goodness or use of these lifeforms?'

ธรรมะรับอรุณ ขอบคุณกับการจัดการกิเลส

สวัสดีค้ะท่าน sr ความคิดเห็นของท่านทำให้ติ๋วนึกย้อนว่า "หญ้าหรือวัขพืช ไม่ได้เลวร้ายเสมอไป" วัชพืชเป็นสัญญาณของความอุดมสมบูรณ์สะท้อนว่า ดินดี พอจะปลูกอะไรได้ พอเราเอาหญ้าออก ก็ปลูกต้นไม้ได้งาม ส่วนกิเลส เออแฮะก็เช่นกัน กิเลสเป็นสัญญาณของการมีชีวิต เป็นสัญญาณว่า หากเราเห็นแล้วกำจัด หรือ บริหารมันเป็นโดยให้ศีลมากำกับ สติมาประคอง (คำกล่าวพระอ.ต้อ) ก็จะเห็นว่า จิตใจนี้พอจะพัฒนาได้ และเมื่อทำอย่างสม่ำเสมอ ก็จะพบว่า ใจค่อยๆสบายอดทนและเผชิญสิ่งต่างๆด้วยใจที่ริ่วเย็นมากขึ้นเรื่องๆสาธุค่ะ (^_^)

อรุณสวัสค่ะท่านวอญ่า สบายดีนะคะ การจัดการกิเลส ทำให้ติ๋วนึกถามตนเองขึ้นมา วันหนึ่งๆ ทบทวนกับตนเองมากน้อยแค่ไหน อืมที่ผ่านมาดูจะแทบไม่อยากหันเข้าหาทุกข์ เพื่อละทุกข์ละกิเลส แหนะใจนี้ไม่ปฏิบัตติแต่อยากได้ผล ช่างเหมือนคน ไม่ปลูกข้าวแต่อยากให้ข้าวงาม แต่พอหายใจไปเรื่อยๆกับลมเข้าและออก แม้บางครายังเพ่งอยู่ แต่ก็พอให้เห็นทุกข์ เห็นจุดบกพร่องเห็นข้อเสียที่ควรแก้ไขของตน เอาหล่ะก็ "เร่งใหม่ เอาใหม่กีบตนเอง การเริ่มทำอะไรไม่ยากแต่รักษาไว้ยากกว่า" (คำกกล่าวครูที่เอ่ยไว้สม่ำเสมอ). ขอบพระคุณค่ะท่าน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท