ภาษารักสำหรับคนบอกรักไม่เป็น


บอกรักโดยไม่ต้องพูด ฟังภาษารักโดยไม่ต้องใช้หู เร่เข้ามาจิตแพทย์จะบอกค่ะ

ใครอยากให้คนอื่นๆบอกรักบ้างคะ

ใครอยากบอกรักคนอื่นๆบ้างคะ

   สองประโยคข้างบนนี้ต่างกันอยู่มาก แต่ไม่ว่าจะเป็นคนไหน ขอให้อ่านเรื่องนี้ให้จบแล้วจะรู้ว่าเสียงของภาษารัก นั้นก้องกังวาลอยู่รอบตัวเราจริงๆค่ะ

ภาษาที่๑ การบริการ

 ผู้หญิงไทย หรือผู้หญิงเอเชียจะถูกสอนให้ใช้ภาษานี้มากที่สุด เราจึงพบว่าแม่ของเรา ตื่นแต่เช้ามาทำทุกอย่างๆให้พวกเรา และเข้านอนเป็นคนสุดท้ายเสมอ

เมื่อเราถามว่า "แม่รักหนูบ้างไหม"

แม่จะตอบว่า "เป็นบ้าอะไร....มากินข้าวได้แล้ววันนี้อุตส่าห์ฝ่าฝนไปซื้อของชอบมาให้กินซะจะได้ไม่ชืด"

ถ้าไม่ติดเครื่องรับฟังจะไม่รู้ว่าแม่พูดอะไร แต่ถ้าอ่านเรื่องนี้และติดเครื่องรับฟังแล้วจะได้ยินว่า

  "แม่รักหนูมาก และรักเสมอ...แม้ต้องลำบาก แต่เพื่อให้หนูมีความสุข...แม่ก็จะทำ"

ภาษาที่๒ การให้ของขวัญ

 นี่ก็เป็นวัฒนธรรมทางตะวันออกมา กว่าตะวันตก

แต่ขอให้รู้ว่า ของขวัญนั้นเป็นตัวแทนของคำว่า เราเป็นคนสำคัญ ดังนั้นคนสำคัญ และคนซึ่งเป็นที่รักจึงจะเป็นผู้รับของขวัญนั้นไป เห็นง่ายๆ จากกลุ่มเด็กวัยรุ่น ที่รักนักร้องหรือนักแสดงที่พวกเขาชื่นชม ภาษารักของพวกเขาจะส่งผ่านของขวัญที่มากไปด้วยรายละเอียดและคุณค่าทางความรู้สึก หากวันนี้สามีจะส่งขนมถุงเหี่ยวๆมาให้แล้วบอกว่า "อ้ะ...ซื้อมาฝาก"

ขอให้ยิ้มรับและตอบว่า "ขอบคุณค่ะ...ฉันเองก็รักคุณ"

ภาษาที่๓ การชื่นชม 

  แม้จะเป็นเรื่องที่คนไทยไม่ถนัด แต่ขอให้ติดเครื่องแปลภาษาเครื่องนี้เข้าไปด้วย แล้วเราจะรู้ว่า คนใกล้ๆตัวที่ไม่เคยบอกรัก แต่มักบอกว่า

"เธอเก่งมากเรื่องนี้" 

"ลูกทำแบบนี้แม่ว่าดีจริงๆ"

"เมียผม....สุดยอดเรื่องแกงส้ม"

"ผัวฉันไม่เป็นรองใครเรื่องซ่อมรถ"

นั่นคือเขากำลังพูดว่า "คุณคือคนที่เขารักนั่นเอง"

ภาษาที่๔ การสัมผัสทางกาย

  เรื่องนี้สำคัญ ลองนึกภาพเวลาที่พ่อแม่กอดเราตอนเล็กๆ

  ตายาย หอมเราฟอดใหญ่

  เพื่อนจับมือเราเพื่อให้กำลังใจ

  แม้กระทั่งสัมผัสรักของสามีและภรรยา

เหล่านี้ล้วนเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ใช้แทนการบอกรัก ระหว่างกัน

ถ้าถามเขาว่า "คุณรักฉันไหมเนี่ย"

แล้วเขา เอามือมาจิ้มพุง พร้อมลูบไปมาเบาๆ แล้วบอกแค่ว่า "อ้วน...เอ๊ย...สงสัยอะไรนักหนานะ"

 ขอให้แปลออกมาได้ว่า "ผมรักคุณมาก...ทุกอณูเนื้อของคุณเลยจริงๆ"

ภาษาที่๕ การให้เวลากันและกัน การอยู่ร่วมกัน

ภาษานี้ถูกมองข้ามไปอยู่บ่อยๆ เพราะคิดว่าไม่มีความหมาย แต่จริงแล้วลองใช้ใจฟัง

แล้วจะพบว่า ใครก็ตามที่อยู่กับคุณ

ในงานรื่นเริง ในยามสนุกสนาน

ในงานโศกสลด ในยามวิกฤต

ในยามเจ็บป่วย ในยามยาก

ในยามใดๆ ก็เห็นแต่คนคนนี้ปรากฏอยู่เสมอ ร่วมแบ่งปันความรู้สึก หรือร่วมในเหตุการณ์เสมอ ถามหา ไม่ถามหาก็มีเขาอยู่ เคียงข้าง

แม้เขาจะไม่ยอมบอกอะไร....คุณก็บอกตัวเองได้

ว่า "เขารักคุณ"

    เมื่อรู้จักภาษารัก ทั้ง๕ ภาษาแล้วแบบนี้คงไม่รู้สึกว่า เราไม่มีใครบอกรัก

หรือเราบอกรักใครไม่เป็นอีกนะคะ

   ความรัก จะนำไปสู่ความเมตตา

  ความเมตตาจะนำไปสู่การให้อภัยค่ะ

  โลกเรายังคงความสมดุลย์ได้เพราะ เรายังรัก เมตตา และให้อภัยกันนะคะ

หมายเลขบันทึก: 463735เขียนเมื่อ 4 ตุลาคม 2011 19:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 พฤษภาคม 2012 00:06 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท