อาทิตย์ ๒๕ กันยายน ๕๕๔ ณ สถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา มีงานให้ผมได้อำลาชีวิตการทำงาน ๒๘ ปีที่มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมกับเป็นการอำลาชีวิตที่ได้เรียนรู้และทำงานอยู่ในกรุงเทพมหานครและสังคมเมืองใหญ่เกือบ ๓๕ ปี เพื่อไปอยู่บ้านกับครอบครัวที่สันป่าตอง เชียงใหม่
การสร้างบริบทร่วมของชุมชนวิชาการ
และการจัดวางตนเองให้ลงตัว ผ่านการสนทนาต่างสาขา
ครูอาจารย์และกลุ่มเพื่อนร่วมงานของผม รวมทั้งเครือข่ายคนทำงานในแวดวงต่างๆ ได้มีความเมตตาจัดให้ ซึ่งพอได้เห็นจนครบกระบวนการแล้ว ก็พอจะปะติดปะต่อได้และคงต้องขอถือโอกาสกราบขอบพระคุณไว้ ณ ที่นี้ คือ ท่าน ดร.อุทัย ดุลยเกษม อธิการบดี มหาวิทยาลัยศิลปากร รองศาสตราจารย์ ดร.เนาวรัตน์ พลายน้อย หัวหน้าภาควิชาศึกษาศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล รองศาสตราจารย์ ดร.ศุภวัลย์ พลายน้อย สาขาประชากรศึกษา คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล รองศาสตราจารย์ ดร.อนุชาติ พวงสำลี รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล อาจารย์ชัยวัฒน์ ถิระพันธุ์ สถาบันพัฒนาการเรียนรู้และประชาสังคม Civicnet ศาสตราจารย์ ดร.วีระพงศ์ ปรัชญาสิทธิกุล คณบดีคณะเทคนิคการแพทย์ และอดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล
ผุดประเด็นวิจัยเชิงยุทธศาสตร์ เป็นชุมชน :
การสร้างพื้นที่และสภาพแวดล้อมสร้างปฏิสัมพันธ์บนความแตกต่างหลากหลาย
ท่านอาจารย์ ดร.อุทัย ดุลยเกษม รองศาสตราจารย์ ดร.เนาวรัตน์ พลายน้อย ดร.โสฬส สิริไสย จากสถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมแห่งเอเชีย มหาวิทยาลันมหิดลพร้อมกับอาจารย์หมอช้าง แพทย์หญิงสุพัตรา ศรีวนิชชากร ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน และมือประสานงานกิจกรรมทางวิชาการของท่าน ได้ช่วยกันจัดวางองค์ประกอบต่างๆของเวที ให้เป็นการมาพบปะกันของเครือข่ายนักวิชาการแนวประชาคมและคนทำงานเชิงสังคม
เสวนาเป็นกลุ่มต่างสาขา : Multi-Disciplines Dialogue
การบ่มสร้างเครือข่ายวิจัยผ่านการสนทนาข้ามศาสตร์และข้ามสาขาอาชีพ
อาจารย์ ดร.โสฬส สิริไสย นำการเสวนา และเชิญท่านอาจารย์ ดร.อุทัย ดุลยเกษม เปิดประเด็น จากนั้น เวทีนำการเสวนา ก็นำเอาเรื่องราวของคนทำงานเชิงสังคมเป็นแกนสำหรับเดินประเด็น แล้วเชื่อมโยงสู่การวิเคราะห์และติดตามสถานการณ์แนวโน้มที่สำคัญทางด้านต่างๆ พร้อมกับร่วมกันแลกเปลี่ยนทรรศนะและแบ่งปันบทเรียนเกี่ยวกับโอกาสการทำงานเชิงสังคมในอนาคตของเครือข่ายคนทำงานแนวนี้ของประเทศ รวมทั้งแบ่งปันแนวคิดเกี่ยวกับเครื่องมือและนวัตกรรมต่างๆเพื่อการวิจัยและทำงานเชิงสังคม อภิปรายเปิดประเด็นและจากนั้นก็ร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนกันทั้งเวทีในบรรยากาศสบายๆ
ทุกท่าน รวมไปจนถึงผู้ร่วมรับฟังอีกหลายท่านในเวทีที่ได้ร่วมเสวนากัน ล้วนมีแง่มุมที่สามารถเชื่อมโยงมาสู่ชีวิตและการงานของผมด้วย เหมือนกับเป็นทั้งการชื่นชมเสริมกำลังใจ และการเป็นกระจกสะท้อนให้แก่ผมในหลากหลายเรื่อง
กรอบอ้างอิงบนความเป็นจริงของคนบนเวที
สร้างความรู้เชื่อมโยงประเด็นสังคมผ่านชีวิตคนทำงาน
ท่านอาจารย์ ดร.เนาวรัตน์ พลายน้อย ท่านอาจารย์ ดร.อนุชาติ พวงสำลี อาจารย์ชัยวัฒน์ ถิระพันธุ์ และอาจารย์ชูชัย จงฤดีสุขสกุล จากสมัชชานครปฐมและโรงเรียนเรียนรู้เมธา สถาบันการศึกษาทางเลือก นอกจากจะสะท้อนข้อสังเกตจากมุมมองของกัลยาณมิตรรอบข้างในชีวิตการงานแล้ว ก็ช่วยทบทวนชีวิตเหมือนกับเป็นเครือข่ายบันทึกความทรงจำในชีวิตให้ผมย้อนหลังกลับไปกว่า ๑๐- ๒๐ ปี ซึ่งนอกจากเหมือนได้เดินตามหลังย้อนกลับไปเรียนรู้ชุดประสบการณ์ชีวิตของตนเองผ่านสายตาของผู้ที่มุมมองกว้างขวางแล้ว ผมก็ให้รู้สึกชอบศิลปะของการทำให้เรื่องบุคคลกลายเป็นเรื่องหลากประเด็นสำหรับได้แสดงทรรศนะทางวิชาการและการทำงานเชิงความคิดของกลุ่มผู้นำความคิดเห็นของสังคมหลายสาขา
เวทีสานพลังเครือข่ายวิชาการเพื่อสุขภาวะสังคมสูงอายุ : อาจารย์นายแพทย์จำรูญ มีขนอน ที่ปรึกษาอาวุโสของสถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน ให้เกียรติมาร่วมงาน อาจารย์เป็นแหล่งวิทยาการและเป็นผู้ร่วมประสานงาน เครือข่ายผู้สูงอายุ ในระดับประเทศของมูลนิธิสมเด็จพระพี่นางเธอ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ให้กับเครือข่ายเชิงพื้นที่หลายแห่งของประเทศ เครื่องมือการทำงานเชิงเครือข่ายและการวิจัยแบบ PAR เป็นเครื่องมือทำงานที่อาจารย์ให้ความสำคัญมาก
งานศิลปะและหัตถกรรมจากความสร้างสรรค์
เครื่องมือและวิธีสร้างกระบวนการสังคมวัฒนธรรม กล่อมเกลาชีวิตด้านใน
ด้านหลังห้องจัดแสดงรูปเขียนของผมกับหลาน น้องน้ำ : เด็กหญิงเข็มทิศ คำศรีจันทร์ เป็นงานที่นำเอาผลงานวิจัยและเรื่องราวมิติต่างๆของชุมชนมาสื่อสะท้อนและถ่ายทอดด้วยงานศิลปะ
หนังสือและสื่อสิ่งพิมพ์
วิธีสร้างความรู้และเผยแพร่ไปบนเวทีเคลื่อนไหวชีวิตสังคม
ขอกราบขอบพระคุณสถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน อาจารย์แพทย์หญิงสุพัตรา ศรีวนิชชากร ผู้อำนวยการ ทีมคณาจารย์ ประกอบด้วยรองศาสตราจารย์ ดร.จิราพร ชมพิกุล ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สมศักดิ์ วงศาวาส ดร.บังอร เทพเทียน และทีมวิชาการของท่าน ณัฐพัชร์ ทองคำ เริงวิชญ์ นิลโคตร กานต์ จันทวงษ์ ศราวุธ ปรีชาเดช ที่ได้ช่วยจัดทำหนังสือ พลังความรู้จากการวิจัยแบบ PAR
หนังสือ พลังความรู้จากการวิจัยแบบ PAR จัดทำขึ้นโดยดึงมาจากเนื้อหาบันทึกใน gotoknow.org ซึ่งนับว่าเป็นงานที่หนักหนาสาหัสมาก จึงต้องขอถือโอกาสนี้ขอบคุณทาง gotoknow.org ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย ปิยะวัฒน์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จันทวรรณ ปิยะวัฒน์ คุณมะปรางเปรี้ยว และทุกท่านของ gotoknow.org หนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือเชิงความคิดและถ่ายทอดบทเรียนภาคสนาม ของการทำวิจัยและทำงานเชิงสังคมด้วยกระบวนการวิจัยแบบ PAR และนวัตกรรมการวิจัยแบบผสมผสาน ที่ให้บุคลิกของเครือข่ายนักวิชาการและคนทำงานแนวประชาคม ในอีกบุคลิกหนึ่ง
หนังสือทำมือ สื่อและเครื่องมือสานใจด้วยใจ : สมุดบันทึกวาดภาพและทำกราฟิคทั้งเล่มโดยผมและภรรยา พร้อมกับผนึกและจัดเล่มด้วยมือทุกเล่ม เพื่อน้อมคารวะแด่ครูอาจารย์ หมู่มิตร เครือข่ายชุมชน และผู้เคารพนับถือทุกคน
ศิลปะจัดวางดอกไม้ ถักทอเครือข่ายชีวิตและการงาน
ด้วยเครื่องมือและวิธีสานสุนทรียภาพแห่งชีวิต
การจัดดอกบัว จากน้องรัก คุณอัชฌ์และเพื่อนๆ จากร้านอู่ข้าวอู่ปลา และเป็นเครือข่ายสร้างความรู้ท้องถิ่น ของเครือข่ายขับเคลื่อนกลุ่มประชาคมในพุทธมณฑล มาแอบจัดทิ้งไว้ตอนกลางคืนก่อนเดินทางไปทำภาคกิจต่างๆกับเครือข่ายของตนเองที่ชัยภูมิและภาคใต้ ไม่เพียงที่จะต้องขอขอบคุณอย่างยิ่งเท่านั้น แต่ต้องขอคารวะจิตใจที่นฤมิตรศิลป์อย่างนี้เลยทีเดียว จะขอฝากรูปเขียนอีก ๒ รูปเพื่อเป็นเครื่องขอบคุณและได้แขวนไว้เพื่อหมู่มิตรที่มานั่งกินข้าวที่ร้านอู่ข้าวอู่ปลาเหมือนเป็นครัวอาหารกายใจของกลุ่มคนรสนิยมชีวิตเดียวกัน ได้ชมเพื่อรำลึกถึงกันนะครับ
อาหารและวิธีกินข้าวที่สร้างคนและเครือข่ายชุมชน
พร้อมกับเรียนรู้วิธีจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม
นอกจากจัดเป็นการต้อนรับและดูแลผู้มาร่วมงานทุกคนแล้ว การจัดอาหารและองค์ประกอบต่างๆของเวที ก็จัดเตรียมโดยสะท้อนวิธีทำงานที่ผมกับเครือข่ายวิจัยชุมชน ของมหิดลกับเครือข่ายชุมชน ใช้เป็นวิธีทำงานมาด้วยกันกว่า ๒๐ ปีอีกด้วย โดยระดมวัตถุดิบและแรงกายแรงจัดช่วยกันทำ อาหารการกินก็จัดหา และหิ้วมาจัดด้วยกันเหมือนวัฒนธรรมศาลาวัด
ดนตรีและการสนทนา เครื่องมือและวิธีการทางศิลปวัฒนธรรม
เพื่อเข้าถึงเครือข่ายที่มีความสะท้อนชีวิตด้านใน
หลังการเสวนาวงคีตาญชลีเดินทางมาจากเพชรบุรีครบทั้งครอบครัวและเพื่อนฝูง ชวนเวทีพูดคุยและเล่นเพลงเสริมกำลังใจและเสริมกำลังแห่งความสร้างสรรค์ ทำให้บรรยากาศและองค์ประกอบทั้งหมดของเวที มีความผสมผสานกลมกลืน ทั้งเป็นเวทีบ่มเพาะเครือข่ายวิจัย เครือข่ายวิชาการ เครือข่ายชุมชน เครือข่ายศิลปะและสื่อการเรียนรู้เชิงสังคม และเครือข่ายภาคประชาสังคม ที่สะท้อนเชื่อมโยงความสนใจซึ่งกันและกันอยู่ในงานเชิงสังคมหลากหลายสาขา เวทีเสวนาวิชาการ แลกเปลี่ยนความคิด และเผยแพร่สื่อสิ่งตีพิมพ์ทางวิชาการแนวชุมชน งานมหรสพและสร้างความรื่นรมย์ออกจากข้างในด้วยบรรยากาศแห่งหมู่มิตรเครือข่ายศิลปิน จิตรกร และคนทำงานศิลปะเชิงเคลื่อนไหวกระบวนการเรียนรู้ทางสังคม รวมทั้งเป็นโอกาสได้พบปะกันของผู้ซึ่งคุ้นเคยกันดังญาติทางชีวิตและการทำงาน
คารวะคีตาญชลีด้วยลายเส้นจารึกจากใจ : ผมและเพื่อนๆชาวมหิดล ขอคารวะครอบครัววงคีตาญชลี ผู้เป็นทั้งครูสอนหนังสือเด็กๆและครูทางจิตวิญญาของผู้คนในสังคม ด้วยการมอบรูปวาดลายเส้น ซึ่งผมวาดบันทึกการแสดงบนเวทีที่วัดคลองใหม่ อำเภอสามพราน นครปฐม ไว้ตั้งแต่ปี ๒๕๔๗ หลังจากวาดแล้วก็โพสต์และเขียนบันทึกออนไลน์ไว้ ปีนี้เลยขอมอบให้เป็นการคารวะชีวิตงามของวงดนตรีครอบครัววงนี้
เครือข่ายการงานและชีวิต
ที่มีความสะท้อนเชื่อมโยงซึ่งกันและกันด้วยใจ
เวทีนี้เหมือนกับว่าเป็นเวทีอำลา แต่ในความเป็นจริงแล้ว กลับจะเป็นเวทีที่ได้มาพบปะและได้เห็นความเชื่อมโยงกันหลายมิติในขอบข่ายที่เชื่อว่าจะก้าวเลยออกไปจากความเป็นมหาวิทยาลัยและองค์กรหนึ่งองค์กรใด เป็นการมาแตะมือกันเหมือนอย่างที่อยู่ในวิถีปฏิบัติอย่างนี้เป็นระยะๆ ของคนทำงานในแนวอย่างนี้อยู่แล้ว ซึ่งสำหรับจังหวะก้าวต่อไปของชีวิตผมนั้น ก็ให้รู้สึกว่าไม่ใช่การลาจากกัน ทว่า เป็นการมาร่วมสร้างจุดเชื่อมโยงเพื่อเป็นเครือข่ายนำการเปลี่ยนแปลงต่างๆของสังคมและภาคสาธารณะที่กว้างขวางกว่าเดิม
พาแม่และญาติพี่น้องมาคารวะและลากันกับหมู่ผู้ก็เป็นเสมือนดังญาติของกันและกัน : ครอบครัวพี่น้อง ๗ คน ขาดแต่พ่อซึ่งถึงแก่กรรมแล้ว และน้องสาว ๑ คน คือ อาจารย์วิกานดา (คำศรีจันทร์) บุญเอก กับครอบครัว พต.ท.สุรชัย บุญเอก กับน้องบอม ซึ่งต้องอยู่เฝ้าบ้านระวังน้ำท่วมที่หนองบัว นครสวรรค์ จากซ้าย : พี่สุทัศน์ คำศรีจันทร์ ประกอบกิจการส่วนตัว ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิรัตน์ คำศรีจันทร์ กมล คำศรีจันทร์ พนักงานบริษัท JVC และ น้องพลอย ส.ต.อ.สงบ คำศรีจันทร์ พี่อภิรดี ศรีสุโร คำศรีจันทร์ น้องน้ำ เด็กหญิงเข็มทิศ คำศรีจันทร์ น้องจันทร์วรรณ คำศรีจันทร์ ทนายความและนักกฏหมาย บริษัทธุรกิจเอกชน กับครอบครัว พี่อภิรดี (ศรีสุโร) คำศรีจันทร์ และน้องน้ำ เด็กหญิงเข็มทิศ คำศรีจันทร์ น้าพร สมพร เกษาแสง น้องคนสุดท้องของแม่ แม่บุญมา คำศรีจันทร์ น้องสาว ประคอง (คำศรีจันทร์) คุ้มชนะ พนักงานบริษัทเอกชน และริมขวา พีระ คำศรีจันทร์ นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ
การวิจัยในฐานะเครื่องมือสร้างความรู้และนวัตกรรมการทำงานเชิงสังคม :
บางแง่มุมจากการสะท้อนคิดและถอดบทเรียนจากเวที
งานนี้ ผสมผสานกันไป ทั้งเป็นโอกาสพบปะกันของเครือข่ายวิชาการและหมู่มิตรคนทำงานในแนวชุมชน การเสวนาวิชาการการวิจัยและทำงานเชิงสังคม และการใคร่ครวญประเด็นสังคม ได้สัมผัสกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ มีพลัง ให้ความบันดาลใจ และให้ปัญญามากอย่างยิ่ง ขอนำมาบันทึกแบ่งปันไว้บางส่วน....
ตัวคนและการดำเนินชีวิต
ในฐานะเป็นเครื่องมือวิจัยและทำงานเชิงสังคม
ชีวิตเป็นการเดินทางเพื่อสร้างความหมายบนหนทางไกลไปตามความมีอิสรภาพในชีวิตของตัวเราเองทุกคน การเดินออกไปจากหาวิทยาลัยมหิดลในครั้งนี้ของผม ไม่ใช่สิ่งที่เพิ่งคิดและตัดสินใจ แต่ผม ภรรยา และแม่ รวมทั้งน้องๆที่เป็นทีมทำงานด้วยกันในงานต่างๆที่มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ค่อยปฏิบัติและเรียนรู้ ค่อยเตรียมการมาอย่างเป็นลำดับมากกว่า ๑๐ ปี
นอกจากนี้ ก็เป็นจุดหมายชีวิตที่ผมได้วางไว้ตั้งแต่เดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯและเรียนหนังสือว่า เมื่อถึงช่วงที่มีความนิ่งในชีวิตและได้ทำหน้าที่ต่อสังคมพอสมควรแล้ว ผมกับครอบครัวจะไปหาแหล่งใช้ประสบการณ์ชีวิตเพื่อทำงานที่พอทำได้ ให้เป็นการเสริมกำลังกันในแหล่งอันเป็นที่มาของเราคือชนบทและในสภาพแวดล้อมที่เชื่อมได้กับวิถีชีวิตของชาวบ้าน ผมและทีมได้เตรียมพื้นฐานหลายอย่างด้วยกันอย่างที่คิดด้วยกันอยู่เสมอได้พอสมควร
ดังนั้น จึงไม่ใช่การอำลาแบบจากลากัน ทว่า เป็นการก้าวออกไปเป็นเครือข่ายการทำงานให้เชื่อมโยงกันในบทบาทที่หลากหลายและร่วมมือกันได้มากกว่าเดิม เดินไปข้างหน้าด้วยกัน และร่วมกันทำสิ่งต่างๆไปตามเหตุปัจจัยตนเองที่กว้างขวางมากยิ่งๆขึ้น เวทีนี้จึงเป็นการรวบรวมพลังใจจากครูอาจารย์และหมู่มิตร เพื่อเป็นทุนชีวิตและการทำงาน จึงขอขอบคุณและช่างเป็นบุญของผมจริงๆที่ได้เจอกัน.
เป็นการเดินทางที่มีคุณค่าและเต็มเปี่ยมอย่างยิ่งเลยค่ะ
...
การเดินทาง ผ่านร้อน และผ่านหนาว
มีเรื่องราว จดจำ ให้ย้ำถึง
มีรอยเท้า รอยทาง พรางคำนึง
ติดตราตรึง ถึงวันก่อน ย้อนกลับไป
ศิลปะ สรรสร้าง ทางชีวิต
เลือกลิขิต ตัวตน เป็นจุดหมาย
เพื่อชีวิต เพื่อสังคม อันมากมาย
มีเป้าหมาย ให้สังคม นั้นงอกงาม
...
ขอแสดงความยินดีสำหรับเส้นทางใหม่นะครับท่านพี่ ;)...
ขอบคุณและเป็นบุญ...ครับอาจารย์
งดงามมากเลยค่ะ อาจารย์วิรัตน์ ^___^
อบอุ่นจังค่ะ...ดอกบัวกับใบมะพร้าวสาน...งดงามจัง..
เสียดายจังค่ะที่ไม่ได้ไปร่วมงานที่มีความหมายและเปี่ยมด้วยคุณค่าทางใจเช่นนี้..เห็นคำชวนจากอาจารย์เอาเมื่อต้องไปร่วมงานบุญของเพื่อนร่วมรุ่นที่รับปากไว้ก่อนแล้ว..แต่ได้อ่านจากการเล่านี้และของน้อง Dr,Pop ก็เหมือนได้ไปร่วมงานด้วยแล้วค่ะ
พี่ใหญ่จะติดตามข้อคิดและผลงานดีๆขอชอาจารย์อย่างต่อเนื่องนะคะ
เรียนท่านอาจารย์วิรัตน์
เวทีนี้เหมือนกับว่าเป็นเวทีอำลา แต่ในความเป็นจริงแล้ว กลับจะเป็นเวทีที่ได้มาพบปะและได้เห็นความเชื่อมโยงกันหลายมิติในขอบข่ายที่เชื่อว่าจะก้าวเลยออกไปจากความเป็นมหาวิทยาลัยและองค์กรหนึ่งองค์กรใด เป็นการมาแตะมือกันเหมือนอย่างที่อยู่ในวิถีปฏิบัติอย่างนี้
อบอุ่น งดงาม และเชื่ออย่างที่อาจารย์เขียนเช่นกันคะ
ดีใจที่ทราบว่าบ้านอาจารย์อยู่สันป่าตอง เชียงใหม่
ถ้ามีโอกาสในอนาคต อยากเชิญอาจารย์เป็นวิทยากร การทำงานกับชุมชน ของ ม.ช. คะ
ชื่นชมและเป็นบุญที่ได้เห็นบรรยากาศในงาน พี่เป็นแบบอย่างของคนที่มีอุดมการณ์อย่างแท้จริง ที่ยากจะหาได้ในปัจจุบัน
ชอบสมุดที่ทำเองมากๆ ค่ะ ละเมียดละมัยมาก เหมือนออกมาจากโรงพิมพ์เลยค่ะ
สวัสดีครับดร.กะปุ๋มครับ
เป็นการเดินไปก็ใคร่ครวญในชีวิตไปด้วยอย่างนี้นี่ จะว่าไปแล้ว
ก็เป็นมรรควิถีที่เหมาะสมดีสำหรับคนที่มีพื้นฐานมาจากต่างจังหวัดอย่างเราๆนะครับ
สวัสดีครับอาจารย์ Wasawat Deemarn ครับ
คงต้องได้มีโอกาสชีพจรลงเท้ากับอาจารย์และหมู่มิตรทางเหนือกันบ้างนะครับ
บทกลอนสองบทนี้นิ่งดีจัง ขอบพระคุณครับผม
สวัสดีครับดิเรกครับ
นั่งดูรูปโปสการ์ดและบันทึกเล่าความเป็นมาเป็นไปของดิเรกด้วยความรู้สึกประทับใจหลายอย่างนะครับ มันมีพลังของการเลือกสรร บรรจงคิด บรรจงทำ เรียบง่าย แต่สื่ออย่างใสๆจากภายใน
สวัสดีครับดิเรกครับ
นั่งดูรูปโปสการ์ดและบันทึกเล่าความเป็นมาเป็นไปของดิเรกด้วยความรู้สึกประทับใจหลายอย่างนะครับ มันมีพลังของการเลือกสรร บรรจงคิด บรรจงทำ เรียบง่าย แต่สื่ออย่างใสๆจากภายใน
สวัสดีครับมะปรางเปรี้ยวครับ
หากมะปรางเปรี้ยวและทีมได้ไปร่วมรูปแบบงานอย่างนี้ด้วยละก็
รับรองว่าต้องชอบมากครับ
สวัสดีครับเจ้าอ้อยเล็ก
งานนี้เออออไปกับน้องๆหลายรอบนะครับว่าต้องไม่ลืมที่จะชวนครูอ้อยเล็กกับอาจารย์ดร.ขจิตไปดูงานศิลปะ การจัดดอกไม้ ฟังเสวนา และฟังดนตรีวงคีตาญชลี ไปให้ได้
สวัสดีครับพี่ใหญ่ครับ
งานนี้ได้คิดอยู่นะครับว่า หากพี่ใหญ่ไป
จะขอพาพี่ใหญ่เดินดูงานศิลปะสักหน่อย
สวัสดีครับคุณมนัสดาครับ
สวยมากเลยนะครับ น้องๆและเพื่อนของเขากลุ่มนี้มีแนวคิดสำหรับทำเรื่องพวกนี้ดีมากครับ ทั้งสวยและมีความหมาย กล้าเล่น วัตถุดิบทั้งหมดมาจากท้องถิ่น ซึ่งก็สื่อเรื่องราวหลายอย่างในวิถีชีวิตสู่กันได้หลายอย่างครับ
ผมเห็นแล้วก็อึ้งล่ะสิครับ เพราะทั้งขนาดของผลงานที่เขาพากันทำขึ้นซึ่งจัดวางเต็มไปหมดในห้อง กับลักษณะของดอกบัวที่นำมาใช้เป็นบัวฉัตรแดงดอกใหญ่และงามมาก ซึ่งลักษณะอย่างนี้จะเป็นบัวที่มีราคามากที่สุดสำหรับชาวนาบัวของพุทธมณฑล รวมทั้งความละเอียดประณีต สลับซับซ้อน ดูแล้วคงช่วยกันทำหลายคนและต้องใช้เวลามากในตอนกลางคืนก่อนวันงาน
สวัสดีครับอาจารย์หมอ CMUpal ครับ
ที่บ้านสันป่าตอง ก็ยินดีเป็นแหล่งทำงานความรู้และเป็นเวทีความคิด ของคนทำงานที่อิงกับท้องถิ่นและชุมชนนะครับ หากสามารถเชื่อมโยงการทำงานและเสริมกำลังในการทำงานโครงการทางสุขภาพและการพัฒนาคุณภาพชีวิตได้ รวมทั้งเป็นเครือข่ายการทำงานที่ร่วมประเด็นกันได้ ก็ยินดีเสมอนะครับ
อีกทั้งยินดีขออาสาร่วมสานความเชื่อมโยงคนทำงานและเชื่อมเครือข่ายวิชาการของมหิดลกับทาง มช.และทางเหนือ ในแนวที่เป็นเครือข่ายแลกเปลี่ยนเรียนรู้และทวีคูณพลังการทำงานกันได้ เมื่อมีโอกาสไปด้วย นะครับ
สวัสดีครับคุณครูธรรมทิพย์ครับ
ใช่เลยครับ ต่อไปนี้น่าจะเป็นห้วงเวลาของความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น
พร้อมกับได้ดูความงอกงามเติบกล้าของคนรุ่นหลัง
คอยเป็นแรงเสริม แรงหนุน ให้กัน
สวัสดีเจ้าเล็ก เมื่อวานได้รับ MSM จากหนูเล็กกับหนูแดงแล้วละ
ด้วยความดีใจอย่างยิ่งเลย คนชอบหนังสือและสมุดบันทึกทำมือมาก
วันนี้ก็ยังมีโทรมาถามหาอยู่แน่ะ เล็ก แดง น๊อต สบายดีนะ
อาจารย์โชคดีมากค่ะ ที่มีโอกาสได้ทำในสิ่งที่วางแผนไว้
ขอให้อาจารย์มีความสุขกับเรื่องใหม่ๆที่น่าตื่นเต้น
หวังว่าพวกเรา..คงได้ติดตามอ่านเรื่องราวดีดีจากอาจารย์นะคะ
สวัสดีครับคุณแก้ว..อุบล จ๋วงพานิชครับ
ขอบพระคุณครับ รู้สึกตื่นเต้นดีมากจริงๆด้วยครับ
เหมือนกำลังเดินทางไปไหนสักอย่างเหมือนกัน
กราบท่านอาจารย์ที่เคารพครับ
เพื่อนที่มหิดล เพิ่งบอกผมเมื่อวานนี้เองครับว่าวันอาทิตย์ที่ผ่านมามีการจัดงานอำลาให้แก่ท่านอาจารย์ จึงพลาดที่จะไปกราบท่านอาจารย์อีกครั้ง ทั้งนี้ผมอยากบอกท่านอาจารย์ว่า ท่านคือครูที่ดี และจะเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ลูกศิษย์และแก่ตัวผมตลอดไป
วัชชิระ หวั่นท๊อก
งานนี้ถ้าจัดใกล้ๆ แถวนครสวรค์หรือที่หนองบัวละก็ คงได้มีโอกาสไปร่วมรับฟังวงเสวนาแน่เชียว
การได้กลับไปอยู่บ้าน เป็นความสุขที่อยู่ในส่วนลึกของหัวใจ อย่างแท้จริง
ด้วยความรักและเคารพอาจารย์นะครับ
เห็นแม่มานำกลับบ้านนอกแล้ว ดูแล้วก็อบอุ่นดีจัง
"...ผมกับครอบครัวจะไปหาแหล่งใช้ประสบการณ์ชีวิตเพื่อทำงานที่พอทำได้ ให้เป็นการเสริมกำลังกันในแหล่งอันเป็นที่มาของเราคือชนบทและในสภาพแวดล้อมที่เชื่อมได้กับวิถีชีวิตของชาวบ้าน..."
อยากต่อยอดเรื่องหนังสือ ช่วงนี้ก็ใกล้ปีใหม่แล้ว ที่บริษัทก็ต้องสั่งซื้อของขวัญให้ลูกค้าด้วย ถ้าพี่ทำหน้าปกออกมาแบบว่าอวยพรปีใหม่ ให้ข้อคิดแก่คนทั่วไปในปีใหม่นี้ไปด้วย ก็อยากจะสั่งซื้อแจกลูกค้าซะเลย ทำเลยมั้ยคะ อยากให้รายได้ส่วนหนึ่งสักเล่มละ 5-10 บาท ช่วยสมทบโครงการที่พี่คิดจะทำด้วยในอนาคต เชื่อว่าสมุดนี้น่าจะช่วยสังคมได้มากที่เดียว เพราะอย่างน้อยเงินที่ไปอยู่ในมือคนดีๆ ก็จะช่วยให้ให้พี่ทำโครงการดีๆ ต่อไปในอนาคตนะคะ ถ้าทำจะช่วยรับจองให้เองค่ะ
เข้ามาอ่านงานโยมอาจารย์ อิ่มบุญและอบอุ่นดีครับ..เจริญพร
สวัสดีครับคุณวัชชิระ
ดีใจนะครับที่ได้เห็นข่าวคราวนะนี่
ตอนนี้สนุกกับประสบการณ์แปลกใหม่มากมายใช่ไหมครับ
กราบนมัสการท่านพระอาจารย์มหาแลครับ
เวหนองบัวอยากจัดให้มีบรรยากาศอย่างนี้สักครั้งหนึ่งเหมือนกันนะครับ
เราช่วยกันคิดหวังไปก่อนก็ถ้าจะดีนะครับเนี่ย
สวัสดีครับคุณแสงแห่งความดีครับ
เป็นการไปอยู่บนฐานชีวิต เพื่อทำงานเชื่อมโยงเครือข่ายที่คงจะกว้างมากขึ้นน่ะครับ
บางส่วนก็อยากได้เข้าไปทำในแนวทางใหม่ๆที่ตนเองพอทำได้
คงจะได้ประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆอีกเยอะเลยละครับ
สวัสดีครับอาจารย์ ดร.ขจิตครับ
ขอบพระคุณครับผม มีโอกาสก็คงได้เจอ และได้ทำสิ่งต่างๆด้วยกัน เมื่อชาติต้องการนะครับกัน
เป็นแนวคิดที่เข้าท่ามากเลยเชียวแหละหนูเล็ก
เข้าใจว่าคงถูกใจคนมากเหมือนกัน เพราะทำมาแจกจ่าย ๑๐๐ กว่าเล่ม
กะว่าคงจะได้แจกจ่ายไปหลายกลุ่มอย่างเพียงพอ
แต่ปรากฏว่าหมดไปตั้งแต่ยังไม่เลิกงาน วันต่อมาคนก็ยังโทรตามาขอ
พี่เองขอถือติดมือไว้เล่มหนึ่ง ก็หลุดไปตอนไหนก็ไม่รู้
ตอนนี้เจ้าของเองก็ไม่มีเสียแล้ว แต่กะว่าจะทำขึ้นอีกสักหน่อย
เอาไว้จัดวางไว้อวดกันในมุมหนังสือในบ้าน
ขอบคุณไอเดียแนวดอกเตอร์อาราเร่นี้มากจ้ะ
กราบนมัสการท่านพระอธิการโชคชัยครับ
เลยนึกได้ว่ายังไม่ได้เข้าไปเปิดอ่านโครงร่างวิทยานิพนธ์ของพระคุณเจ้าเลยนะครับ
ตอนนี้งานจอแจใช้ได้เลยทีเดียว
เห็นบรรยากาศในงาน ถึงแม้ไม่ได้ไปร่วมงานด้วย แต่ก็เห็นได้ว่าอบอุ่นจริงๆค่ะ
สำหรับคนทำงานชุมชนคงมีความสุขและเติมเต็มกำลังใจซึ่งกันและกันอย่างอบอุ่น
ใช่ไหมคะ ถึงแม้อาจารย์จะไปไกล แต่รับรองได้ว่าศิษย์ทุกคนยังอบอุ่นเสมอ
เวลานึกถึงอาจารย์ค่ะ
สวัสดีครับกุ้ง : นภาพร
ประเด็นต่างๆจากวงเสวนาเวทีนีี้ เป็นประเด็นที่เชื่อมโยงและส่งเสริมกันอย่างยิ่งกับเวทีสุขภาพชุมชนเมื่อบ่ายของวันจันทร์น่ะครับ อยากหาจังหวะเล่าเพื่อให้เห็นโอกาสที่เครือข่ายที่เห็นบนเวทีทั้งเวที จะสามารถเชื่อมโยงบทบาทการทำงานเชิงพื้นที่ร่วมกันให้เวทีสุขภาพชุมชนได้ฟังเหมือนกัน
แต่ก็ให้นึกเสียดายหากจะไม่ได้ฟังเครือข่าย รพสต.และคนทำงานเชิงพื้นที่จากหลายแห่ง ที่ได้เดินทางมาร่วมเวที ได้คุยและสะท้อนบทเรียนจากประสบการณ์จากพื้นที่ต่างๆของประเทศ หลังจากฟังประสบการณ์และการถอดบทเรียนตนเองของคุณหมอสันติกับคุณหมอนภดล เลยก็ขอร่วมนั่งฟัง ซึ่งก็ได้ความประทับใจมากมายจากเครือข่ายที่มาจากพื้นที่ครับ
สวัสดีครับคุณอุ้มบุญครับ
บทกลอนเพราะและให้ความชื่นชูใจจังเลยครับ ขอขอบพระคุณอย่างยิ่งครับ
หลังจากนี้แล้ว นอกจากขอไม่อำลาไปไหน และขอเป็นตัวบวกอีกแรงหนึ่ง ร่วมสร้างความเป็น gotoknow.org ไปกับทุกท่านในฐานะผู้เรียนรู้และช่วยกันสร้างรูปแบบการใช้ระบบเพื่อสังคมไทย รวมทั้งร่วมไปกับท่านอาจารย์ ดร.จันทวรรณ ปิยะวัฒน์ กับอาจารย์ธวัชชัย ปิยะวัฒน์ และคณะ ในฐานะผู้พัฒนาและดูแลระบบ หรือกำนันแหนบทองของหมู่บ้านโลก gotoknow.org แล้ว ก็คิดว่าเป็นระยะที่อยากจะหาโอกาสตระเวนไปถอดบทเรียนยกระดับประสบการณ์ และถอดบทเรียนเสริมความเข้มแข็งยั่งยืน ให้กับเครือข่ายในพื้นที่ต่างๆ ในด้านที่ผมจะดูให้ได้ แล้วก็นำมาเล่าถ่ายทอด ขยายกำลังทางสื่อและแหล่งแพร่กระจายความรู้ออนไลน์ในแง่มุมการเล่าและชี้ชวนให้ดูของผมน่ะครับ
ได้เลยค่ะ เดี๋ยวจัดให้นะคะ แล้วจะมาอัพเดทรายละเอียดสัปดาห์หน้านะคะ
มาแสดงมุทิตาจิต คารวะท่านพี่ ครับ
สวัสดีจ้ะเจ้าเล็ก
กราบคารวะท่านอาจารย์หมอ JJ ครับ
ทำไมผมเห็นอาจารย์ทีไรก็มักให้นึกถึงพี่นภ และเห็นพี่นภก็นึกถึงอาจารย์ไปด้วยทุกทีไป
เห็นอาจารย์ทีไร ก็นึกเห็นภาพอาจารย์ และผอ.ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมมหาวิทยาลัยขอนแก่น เดินกรำแดดพาพี่นภและพวกเราชาวมหิดลไปเดินชมพระธาตุนาดูน กับแหล่งโบราณคดีหลายแห่งในขอนแก่นกับมหาสารคามทุกที ประทับใจวิถีของข้าวเต็มรวงและไม้ใหญ่ที่ก็จะน้อมกิ่งใบตนเองลง งดงามดีครับ
ถึงแม้จะเป็นน้องเล็กสุดในเวทีวันนั้น แต่จากที่ฟังมุมมองหลายๆท่านที่แลกเปลี่ยนกัน เชื่อว่าถ้าเป็นอย่างที่ผู้ใหญ่หลายๆท่านเห็นก็คงจะช่วยเติมเต็มกำลังใจคนทำงานในชุมชนได้มากอยู่ค่ะ อย่างน้อยเวทีดีๆอย่างนี้ก็ช่วยให้คนทำงานด้วยใจรักที่เรียกว่าการสร้างความดีให้สังคมคงจะอยากทำงานต่อไปเรื่อยๆค่ะ กุ้งโชคดีที่ได้กัลยาณมิตรที่ดีอย่างลูกศิษย์อาจารย์ทั้ง 2 คนค่ะ ถ้ายังมีแรงก็จะสานต่องานเพื่อชุมชนต่อค่ะ
ทีมของกุ้ง นับแต่คุณหมออนุวัฒน์ กุ้ง กับอีกท่านหนึ่งที่เห็นไปด้วยกัน และคณะ
มีความเป็นทีมเรียนรู้ที่น่าประทับใจมากนะครับ
เห็นหนังสือ และเมื่อตนเองได้ ก็นึกถึงกัน อยากให้พี่ๆเพื่อนๆได้ด้วย
และเวลาสนทนากัน ก็ช่วยกันสนทนาและช่วยกันถามในแง่มุมที่แตกต่าง
แต่ทั้งทีมได้สัมผัสแต่ละเรื่องรอบด้านไปด้วยกัน ทีมอย่างนี้เท่าที่เคยเห็น
จะเป็นทีมเรียนรู้ที่มีหน่วยหลอมหล่อชีวิตทางปัญญาให้กันเป็นกลุ่มก้อนดีนะครับ
อาจารย์ครับ ผมแอบเว่าลาวกับคุณแม่ของอาจารย์ด้วยครับ....ท่านบอกว่า รู้กันสองคนเสียงในฟิล์ม ยินดีกับอาจารย์ที่ได้ทำงานในส่วนที่ชอบในบั้นหลายของชีวิต.?..และยินดีกับตัวเองที่ได้ร่วมงานกับอาจารย์ในช่วงชีวิตเริ่มต้นการทำงานของผมเช่นเดียวกัน ยินดีที่มาพ้อกันน้อ...ขอให้สุขสำราญที่เมืองเหนือ คราวนี้อาจารย์จะได้เป็นชายเหนือแล้วหรือนี่ ฮาๆ..
ศุกร์สวัสดีค่ะท่านอาจารย์เซียนศิลป์
เป็นวันแห่งความอิ่มเอม ปิติ และน่าชื่นชม อ่าน ดูภาพ แล้วมีความสุขไปตวยเจ้า
ส่งกำลังใจให้ท่านอาจารย กับการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ในวิถีสงบ งาม เงียบ และเรียบง่าย ด้วยจิตคารวะเจ้า
โชคดีเด้อพี่ม่อย สำหรับเส้นทางสายใหม่ที่พี่ฝันไว้เพื่อไปเติมเต็ม วันนั้นคือความบังเอิญที่เราพบกัน แต่แปลก ในวันอำลาโครงการบอก. พี่ม่อย ผม พี่เหมียว ไก่ ทำไลด์ ปิดโครงการยันเช้า และนึกไม่ถึงว่า งานอำลาของพี่ในวันนั้น ขาดเจ้าไก่คนเดียว ทุกคนครบ เขาเรียกว่า เป็นการอำลาต่างตอบแทนก็แล้วกัน ดีใจที่ได้เคยทำงานร่วมกันกับพี่ชายคนนี้ มีความสุขมากๆครับกับอนาคตที่จะตามมา....คิดถึงครับ
ใหญ่
ยินดีด้วยค่ะพี่ จะได้ไปสูดอากาศเมืองเหนือ เสียดายไม่ได้ไปร่วมงาน แค่อ่านบล็อกก็ยังดี
ตี๋ (พีรพัฒน์ โกศลศักด์สกุล) ฝากความระลึกถึงบอกว่า ขอให้โชคดีและพบกันที่เชียงใหม่ค่ะ
สวัสดีเจ้าโอ