กิจกรรมบุญเพื่อน้องผู้พลัดถิ่น โครงการเสริมพลังจิต สร้างภูมิคุ้มกันภัย


เด็กทุกคนล้วนเกิดมาพร้อมจิตปภัสสร แต่สภาพแวดล้อมเป็นสิ่งหล่อหลอมความเจิดจรัสหรืออับแสงของจิตประภัสสร

            วันพุธที่ 28 กันยายน  2554 นี้  ดร.พระปลัดเสน่ห์  ธมมวโร  พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารมูลนิธิการศึกษาพระพุทธศาสนาอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง และพุทธศาสนิกที่มีจิตกุศล  จะจัดกิจกรรมบุญ ถวายอาหารเพลแก่พระภิกษุสามเณรวัดฟ้าเวียงอินทร์  และเลี้ยงอาหารกลางวัน เด็กนักเรียนโรงเรียนวันละบาท รวมทั้งการจัดอบรมคุณธรรมจริยธรรมแก่เยาวชนโรงเรียนวันละบาทและในศูนย์พักพิงบ้านกู่จ่อ  ซึ่งทั้งหมดตั้งอยู่ที่ อ.เวียงแหง  จ.เชียงใหม่  

            ท่านอาจารย์ ดร.พระปลัดเสน่ห์  ธมมวโร  ได้ประสานให้ทางคณะครุศาสตร์ โดยดิฉันและ อ.ไพศาล  ศรีวิชัย  ทำหน้าที่ประสานระดมพลังจิตอาสาของนิสิตและออกแบบกระบวนการจัดกิจกรรมอบรมคุณธรรมจริยธรรมฯ   จึงก่อเกิดโครงการเสริมพลังจิต  เพิ่มภูมิคุ้มกันภัยเยาวชนขึ้น

           โครงการเพื่อสังคมนี้   ได้รับการอนุเคราะห์จากหลายส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น  มูลนิธิการศึกษาพระพุทธศาสนาอนุภาคลุ่มน้ำโขง       มจร. วิทยาเขตเชียงใหม่   อาจารย์ณัฐพล  ลึกสิงห์แก้ว  นิสิตครุศาสตร์ชั้นปีที่ 4 ซึ่งมีพระครูวินัยธรทรงธรรม และพระศุภกิจ  เป็นแกนนำหลักร่วมประสานสัมพันธ์เพื่อระดมพลังบุญจากเพื่อนนิสิตคณะครุศาสตร์ทั้งศิษย์เก่าปัจจุบัน และญาติโยม 

            เมื่อวันที่  22 กย. เจ้าอาวาสวัดดวงดี  ชม. ได้เมตตาอนุเคราะห์สังฆทานจำนวนมาก รวมทั้งผ้าสบง จีวร ยารักษาโรค  เทียน และหลอดไฟฟ้า  รวมแล้วเกือบเต็มรถตู้ที่ อาจารย์ไพศาลและดิฉันนำไปบรรทุกมาเก็บไว้ที่ มจร. เพื่อเตรียมจำแนกสำหรับการนำไปช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในศูนย์พักพิงกู่จ่อ   ทั้งนี้จากการสื่อสารข้อมูลใน  Face book ระหว่างนิสิต ทำให้มีการนำสิ่งของทะยอยมาบริจาคเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง  และมีเรื่องน่าประทับใจในน้ำใจคนไทยคือ  วันเสาร์ ที่ 17 กย. ระหว่างที่ พระครูวินัยธรทรงธรรม  นั่งรถโดยสารมาเรียนหนังสือ  ได้มีโอกาสพูดคุยกับโยมผู้ชายที่โดยสารมาด้วยกัน  ถึงการที่ท่านมีโอกาสไปเยี่ยมศูนย์พักพิง และคิดทำกิจกรรมอบรมเยาวชน  ปรากฏว่า โยมผู้ชายคนนั้นขอร่วมสร้างความดีต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยการบริจาคเงิน จำนวน 1000 บาท  โยมคนนั้นชื่อ คุณอรรคเดช   ซึ่งเงินที่ร่วมทำบุญนั้นได้นำเข้ามูลนิธิฯและได้จัดทำใบอนุโมทนาให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

            เราพูดคุยกันในคณะทำงานโครงการฯ ว่า  เด็กทุกคนไม่ว่าชาติภาษาใด  ล้วนเกิดมาพร้อมจิตประภัสสร  หากแต่สภาพแวดล้อมที่อยู่รอบกายเด็กมีความสำคัญต่อการกล่อมเกลาจิตประภัสสรนั้นให้เจิดจรัสหรืออับแสง   ฉะนั้นสภาพสังคมปัจจุบัน เด็กคือ  ผู้ที่น่าหวงใย เพราะเต็มไปด้วยสิ่งที่รุกเร้านำสู่ความเบี่ยงเบนได้โดยง่าย   เด็กจำนวนน้อยที่เติบโตในสภาพที่อุ่นอวลด้วยไออุ่นแห่งความรักจากครอบครัว  และท่ามกลางความพร้อมทางสังคม  เศรษฐกิจ การศึกษาของครอบครัวที่พร้อมจะส่งเสริมให้เขาก้าวไปสู่วิถีที่งดงามแห่งอนาคต   แต่เด็กอีกจำนวนมากเผชิญกับความขัดสน  ขาดโอกาส ขาดไออุ่นแห่งรักและการชี้นำที่เหมาะสม  ทำให้น่าเป็นหวงว่า  เขาจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ลักษณะเช่นไร  และเมื่อเราทุกคนล้วนตระหนักดีในความจริงที่ว่า  เด็กคืออนาคตของสังคม  เราควรจะช่วยกันอย่างไรในวันนี้  วันที่เรายังอุดมด้วยพลังกายใจในการขับเคลื่อนงานให้เกิดการบ่มเพาะเด็กเป็นต้นกล้าที่แข็งแรงเพื่อเป็นไม้ใหญ่ที่สมบูรณ์และคงรักษาสืบทอดเมล็ดพันธุ์ความดีในกาลข้างหน้า   ใช่ว่า  วันนี้เรานิ่งเฉยต่อสถานการณ์เกี่ยวกับเด็ก และรอเผชิญสภาพสังคมข้างหน้าซึ่งเด็กวันนี้คือผู้ขับเคลื่อน  และในวันนั้นเราอาจต้องทอดความหวังพร้อมพลังที่ลดลง

            สำหรับเด็กที่มีเลขบัตรประชาชนเป็นพลเมืองไทย  นับว่า  โชคดี เพราะมีสิทธิที่พึงมีพึงได้ตามที่รัฐกำหนด   หากแต่เด็กอีกจำนวนหนึ่งที่พลัดถิ่นเกิด มาพร้อมกับพ่อแม่ เพื่อหลีกภัยสงครามระหว่างชาติพันธุ์ในประเทศเพื่อนบ้าน  เข้ามาอาศัยแผ่นดินไทยในฐานะคนชายขอบ  มีสถานะน่าสงสารนัก  ขัดสนทั้งปัจจัยการดำรงชีวิต ขาดโอกาสทางการศึกษา และสิทธิด้วยไม่ใช่พลเมืองไทย  หากแต่เด็กเหล่านี้ยังมีความหวัง เป็นพลังแห่งชีวิตในการต่อสู้เพื่อดำรงอยู่ในฐานะมนุษย์   ด้วยพวกเขาได้รับการบอกกล่าวจากพ่อแม่ว่า   เขาโชคดีที่ยังได้เข้ามาอาศัยในแผ่นดินที่ร่มเย็นด้วยพระบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว   ฉะนั้นเราจึงเห็นเด็กเหล่านี้ร้องเพลงชาติไทย  และกราบไหว้พระบรมฉายารักษ์ของพระเจ้าอยู่หัวที่ประดับไว้ในบ้านพักในศูนย์พักพิงกู่จ่อ   อนึ่งเด็ก ๆ เหล่านี้  ได้รับการบ่มเพาะจากครอบครัวให้ศรัทธายึดมั่นในพุทธศาสนา   ดังจะเห็นว่า  เด็กน้อยห้าหกขวบสามารถสวดมนต์ไหว้พระทำสมาธิ และกราบพระอย่างถูกต้อง แต่กระนั้นครอบครัวของเด็กเหล่านี้  เริ่มหวงใยว่า  ต่อการเผยแผ่ศาสนาอื่นที่รุกเร้าเข้าสู่เด็ก ๆ  จึงขอให้มูลนิธิฯ  จัดกิจกรรมอบรมให้เด็ก ๆ เพื่อให้เด็กได้ซึมซับกระบวนทัศน์พุทธศาสนามากยิ่งขึ้น     

            โดยนัยนี้  จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนิสิตครุศาสตร์ ในทำงานเพื่อสังคมและพระพุทธศาสนา  ด้วยการระดมพลังจัดทำโครงการเสริมพลังจิต เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันภัยเยาวชนขึ้น ซึ่งจะดำเนินการในวันที่  28 กันยายนนี้  ด้วยหวังว่า  จะช่วยสร้างพลังเร้าแห่งชีวิตให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีมีคุณธรรมและมีสำนึกรักแผ่นดินไทย และสืบสานอุดมการณ์ทางพุทธศาสนาให้เป็นพลังขับเคลื่อนสร้างสังคมอุดมธรรม สรรค์พลังสันติสุขในทุกกลุ่มชาติพันธุ์ในสังคมโลก  

หมายเลขบันทึก: 462248เขียนเมื่อ 23 กันยายน 2011 12:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 พฤษภาคม 2012 21:25 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท