ขอบคุณค่ะ..เพราะเชื่อว่า "To do somethings is better to be someone"..จึงมีวันนี้ที่มีความสุขค่ะ..
ทีมงานขับเคลื่อนการพัฒนาเยาวชนของมูลนิธิสยามกัมมาจล
ขอบพระคุณค่ะ...
...
เป็นคำตอบที่ดีมากค่ะ
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ปฏิบัติการของ "ผู้แพ้" เป็นประสบการณ์ที่ดีมากจริงๆครับ
เห็นด้วยกับคำกล่าวของอาจารย์ "ความพ่ายแพ้เป็นระยะๆ ในชีวิต อาจจะเป็นเส้นทางสู่ควายิ่งใหญ่ในระยะยาว" เป็นวลีที่จะทำให้ "ผู้แพ้" เกิดแรงมุ และ "กำลังใจ" ที่จะดำเนินชีวิตต่อไป "The Show Must Go On" แต่เรื่องของการสรรหาผู้บริหารระดับสูง ไม่ควรเรียกผู้ได้รับเลือกว่า "ผู้ชนะ" หรือเรียกผู้ไม่ได้รับเลือกว่า "ผู้แพ้" จะกลายเป็นเรื่องของการแข่งขัน เหมือนเกมกีฬา ซึ่งในเวทีวิชาการหรือสถานศึกษา ไม่ควรมี .. ผู้ได้รับเลือก จะเป็นผู้ที่มีความเหมาะสมในทุกๆ ด้านมากกว่า ผู้ไม่ได้รับเลือก และเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้ได้รับเลือก ย่อมจะรู้สึกดีใจ ต่างจากผู้ไม่ได้รับเลือก ที่ต้องเสียใจ หรือผิดหวัง ทุกอย่างย่อมเป็นไปตามกติกา บนพื้นฐานของความถูกต้อง ความประณีตงดงาม และไม่ก่อให้เกิดความแตกความสามัคคี เพื่อภาพพจน์ที่ดีขององค์กร.. แต่อย่างไรก็ตาม ต้องคิดถึงว่า "อำนาจไม่อยู่กับใครนาน" ไม่ว่าวันนี้ หรือวันข้างหน้า อำนาจก็จะหมดไปในที่สุด.. สิ่งที่พวกเราควรทำคือ ยกย่อง ชมเชย ทุกท่านที่ทำประโยชน์ให้กับบ้านเมือง สังคม หรือองค์กร และร่วมสานต่อนโยบายที่ดี/มีประโยชน์กันต่อไป ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกๆ ท่านค่ะ
สวัสดีครับท่านอาจารย์
ชัยชนะของผู้แพ้ คับคล้ายว่า เป็นผลงานของหลวง วิจิตร วาทะการ เนื้อเรื่อง สาวชาวสวนบ้านนอก ถูกข้าราชการทิ้ง เธอเรียนรู้ต่อสู้ ไต่เต้า จนได้รับชัยชนะในที่สุด (เนื้อหาประมาณนี้) หลายสิบปีแล้วที่อ่านมา หรือว่า ผิดพลาดขออภัยครับ
เห็นด้วยกับอาจารย์ว่า ยิ่งแพ้ยิ่งเรียนรู้ โดยเฉพาะเอาชนะใจตนเอง ครับ
..(.เคยมีประสพการณ์นี้เช่นกัน.)..ชีวิตที่ไม่ต้องสวม..หัวโขน..ทำงานด้วย..ใจ..รัก..จะเป็นสุข..กับความอิสระที่ได้มา..อันนำพามาซึ่งความพอดี..ที่หาได้ยาก..ในสังคมปัจจุบัน..เจ้าค่ะ...ยายธี...
ชอบประโยคทอง (Sound bite) นี้จังครับ ท่านอาจารย์ เป็นคติที่ยึดถือ และปฏิบัติได้ เป็นแรงบันดาลใจให้คนทำงานได้ดี
".....ชีวิตว่าการทำงาน ไม่ว่าในหน้าที่ใดถือเป็นการรับใช้บ้านเมือง รับใช้สังคม เป็นหลัก ความเจริญก้าวหน้าของตนเองเป็นเรื่องรอง และในทุกตำแหน่งผมไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง การรับตำแหน่งบริหารถือเป็นการสวมหัวโขน หรือสวมมงกุฎหนาม ที่เจ็บปวดทิ่มแทงจากสารพันปัญหา การปลอดตำแหน่งบริหารถือเป็นโอกาสมีชีวิตที่เบาสบาย และมีเวลาสนุกสนานกับงาน..."