เป็นการพัฒนากลยุทธ นั่นคือ การกำหนดทิศทางในระยะยาวหรือ แนวทางการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายที่วางไว้
Level of Strategy (ระดับของกลยุทธ) มี 3 ระดับ ดังนี้
- Corporation-level Strategy ให้ความสำคัญในการกำหนดความต้องการในเรื่องเกี่ยวกับ การทำธุรกิจใหม่ , การยกเลิกธุรกิจเก่า , สร้าง alliances และ joint ventures
- Business-level Strategy กำหนดความต้องการในเรื่อง สินค้าและบริการอะไรที่จะนำไปเสนอขาย การบริการอะไรที่ลูกค้าต้องการ การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ เช่น การโฆษณา งานวิจัยและพัฒนา เครื่องจักร ฯ อย่างไร
- Functional Strategy ปฏิบัติตามแนวทางที่แต่ละแผนกที่ได้กำหนดไว้เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ขององค์กร
Determining the Organization’ Strategy ( การกำหนดกลยุทธขององค์กร)หลักเกณฑ์ที่ช่วยในการกำหนดกลยุทธขององค์กร ได้แก่ five forces model ประกอบด้วย
- อำนาจต่อรองของผู้ขายปัจจัยการผลิต ( bargaining power of suppliers)
- อำนาจต่อรองของผู้ซื้อ ( bargaining power of buyers)
- การคุกคามของสินค้าใหม่ ( threat of new entrants)
- การคุกคามของสินค้าทดแทน ( threat of substitue )
- การแข่งขันของคู่แข่ง ( competitive rivalry)
Situation analysis กระบวนการที่ใช้ในการกำหนดกลยุทธ ประกอบด้วย
- Strengths จุดแข็ง
- Weakness จุดอ่อน
- Opportunities โอกาส
- Threats ภัยคุกคาม
หรือที่เรียกว่า SWOT โดยในส่วนของจุดอ่อน จุดแข็งนั้น ใช้วิเคราะห์ลักษณะภายในขององค์กร โอกาสและภัยคุกคามนั้นให้พิจารณาในเรื่องของปัจจัยภายนอกที่จะมีผลกระทบต่อองค์กร ดังตัวอย่างต่อไปนี้
จุดแข็ง
- ความเชี่ยวชาญในการแข่งขัน
- ความเป็นผู้นำด้านการตลาด
- การได้เปรียบในเรื่องราคา
- ความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยี
จุดอ่อน
- การกำหนดกลยุทธที่ไม่ชัดเจน
- ความล้าหลังของการวิจัยและพัฒนา
- ระบบเครือข่ายที่อ่อนแอ
- มีสายการผลิตที่ไม่กว้างไกล
โอกาส
- การยกเลิกการกีดกันทางการค้า
- ตลาดที่เติบโตเร็ว
- เปิดตลาดใหม่
ภัยคุกคาม
- ผลิตภัณฑ์ทดแทนที่เพิ่มมากขึ้น
- ตลาดเติบโตช้า
- อำนาจต่อรองของลูกค้าและผู้ผลิตปัจจัยการผลิตที่เพิ่มมากขึ้น
- นโยบายการค้าของต่างประเทศและการเปลี่ยนแปลงของอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ
Types of strategy (ประเภทของกลยุทธ)
- ความแตกต่าง ได้แก่ ความแตกต่างในด้านการออกแบบ , รูปร่าง , ปริมาณ
- เป็นผู้นำในด้านราคา เช่น การลดราคา หรือการควบคุมราคาได้ดีกว่าคู่แข่ง
- มุ่งเป้าหมายเฉพาะ ( Focus ) เช่น การที่เป็นผู้ค้ารายใหญ่ในตลาดเล็ก
- Linkage เช่น การสร้างความสัมพันธ์เป็นกรณีพิเศษกับบุคคลหรือองค์กรต่างๆ ได้แก่ ลูกค้า รวมทั้งคู่แข่งด้วย
- เป็นผู้นำด้านสารสนเทศ เช่นการส่งรายงานผลการดำเนินงานให้แก่สมาชิก หรือส่งข้อมูลรายการสินค้าให้แก่ลูกค้าเป็นความรู้ที่ดีมากครับ เพราะผมเห็นว่ากลยุทธในการวางแผนหรือการกำหนดเป้าหมายในการดำเนินงานนั้นเป็นสิ่งที่ช่วยให้การดำเนินงานนั้น สามารถประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นการลดอัตราความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในการดำเนินงาน และทำให้เรามองเห็นโครงสร้างของการดำเนินงานได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
แต่ทั้งผมมองว่า การวิเคราะห์ SWOT นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในการวางแผนกลยุทธหรือกำหนดเป้าหมายในการดำเนินงาน เนื่องจากเราจะต้องรู้จุดอ่อน จุดแข็งของตัวเอง รู้โอกาสและอุปสรรคในการดำเนินงาน จึงจะทำให้การดำเนินงานประสบความสำเร็จ เช่น การทำธุรกิจที่ต้องมีการแข่งขันกัน เราก็จะต้องทราบว่าองค์กรของเรามีจุดอ่อนจุดแข็งอย่างไรที่จะใช้แข่งขันกับคู่แข่ง และรู้ว่าช่วงไหนที่เป็นโอกาสหรืออะไรที่เป็นอุปสรรคในการดำเนินงาน ซึ่งหากทำเช่นนี้จะทำให้เป็นการลดความเสี่ยงที่จะเกิดกับองค์กรและจะทำให้เราประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี
สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบมากๆ สำหรับความรู้ดีๆ ที่เอามาให้ได้อ่านกัน อยากให้มีความรู้ดีๆ แบบนี้มาให้อ่านกันเรื่อยๆ แล้วผมจะคอยติดตามเรื่อยๆ นะคับ :)