งานวันนี้


งานวันนี้ ที่หน่วยการุณย์รักษ์

เช้าวันทำงานวันนี้เราเริ่มงานด้วยการ conference กับอาจารย์หมอศรีเวียง เหมื่อนเช่นเคยทุกวัน ประเด็นที่คุยกันก็คือ การวางแผนการทำงานเริ่มจาก check โปรแกรมต่าง ๆ ที่วางแผนไว้ เช่น การบริการวิชาการ งานธุรการจดหมายข่าว จากนั้นก็เป็นการส่งต่อ case consult ทั้ง new case และ case ที่ดูแลต่อเนื่อง เช่น กรณี ผู้ป่วยกลับไปโรงพยาบาลใกล้บ้าน case ที่กลับบ้านไปเสียชีวิตที่บ้าน นอกจากนี้ยั้งเป็น case หลังเสียชีวิตที่เราจะโทรติดตาม บางครั้งญาติเขาจะโทรมาส่งข่าว ให้เราทราบว่าแต่ละคนเป็นอย่างไร บางรายเสียชีวิตแล้วคนไข้บริจาคร่างกาย  ทีมเราก็จะประสานเรื่องการนำศพกลับบ้านและประสานให้ครอบครัวเรื่องการนำศพกลับมามอบเป็นครูใหญ่ต่อไป การทำงานเราจะสื่อสารผ่านการ meeting ตอนเช้าทุกวัน คนไข้รายไหนที่มีปัญหาเร่งด่วน เราจะยก ขึ้นมาพูดคุย และลงพื้นที่เยี่ยมทันที เพื่อช่วยเหลือในการจัดการอาการโดยเฉพาะปัญหาที่ถือว่าคุกคามคุณภาพชีวิต ผู้ป่วยระยะสุดท้ายคือ ปัญหาเรื่องความปวด ซึ่งบทบาทของพยาบาลจะทำหน้าที่ในการประเมินความปวดเเละช่วยลดปวดโดยไม่ใช้ยา  ประเมินการใช้ยาที่ได้รับ เช่น จำนวนครั้งของยาแก้ปวดที่ขอ break เพื่อประกอบการปรับยาให้สามารถควบคุมความปวดได้ ซึ่งการสั่งยาต้อง ปรึกษา ท่านอาจารย์ศรีเวียง palliative care doctor ที่เป็นสุดยอดของหมอผู้ทุ่มเท เเละเป็นหมอในดวงใจของคนไข้ทุกคนที่อาจารย์ได้มีโอกาสดูแล  เเละตอนนี้มีอยู่เพียงคนเดียวในหน่วยของเรา

            หลัง conference เสร็จ ฉันกับปาก็ได้รับโทรศัพท์จากครอบครัวคนไข้มะเร็งทางเดินน้ำดี ที่เมื่อวานเราได้พาครอบครัวและคนไข้ทำพิธีถวายสังฆทาน และขอขมาซึ่งกันและกันว่าคนไข้เสียชีวิตแล้ว พร้อมกับคำขอจากครอบครัวว่า ให้เราไปช่วยแต่งหล่อให้พ่อด้วย กิจกรรมแรกของเราวันนี้ก็คือ การทำหน้าที่ make up artist ค่ะ (ช่างแต่งหน้า)  ทันทีที่วางโทรศัพท์จากคนไข้ ฉันกับปาก็เตรียมกระเป๋าเครื่องสำอางที่เราเตรียมไว้  เพื่อปฏิบัติภารกิจแต่งหน้าศพ   เดลิเวอรี่เลย ไม่นานเราก็มาถึงห้องพิธีกรรม ฉันขอปาทำหน้าที่นี้ ส่วนปาเป็นตากล้อง ปกติปาเขาเป็นคนที่เชี่ยวชาญในการแต่งหน้าศพคนไข้ที่เสียชีวิตมาก่อน แต่วันนี้ฉันขอเป็นมือใหม่หัดแต่ง ปาให้โอกาสฉันได้แสดงฝีมือ (แต่อยากบอกว่ารู้สึกหวิว ๆ เหมือนกันนะคะ แต่ก็ต้องบอกตัวเองว่า “เราต้องทำได้ เราต้องทำได้ ได้บุญ ได้บุญ”) แต่คนไข้ที่พึ่งเสียชีวิตใหม่ ๆ ก็ไม่ต่างจากคนนอนหลับนี่แหละนะจะกลัวอะไร? นี่คือบอกตัวเอง  นับวันการทำงานยิ่งลงลึกกับคนไข้และครอบครัว งานแต่งหน้าศพ ฉันเองเคยคิดว่าจะทำไม่ได้ แต่สุดท้ายภารกิจนี้ก็ดี ผ่านฉลุย หลังแต่งเสร็จลูกชายมาชมว่า “พ่อหล่อ ปากแดงเลย” และก่อนแต่งเขาบอกให้ฉันทำคิ้วพ่อให้เข้ม ๆ ฉันเองก็จัดให้ไม่ขัดเจตนาของลูกชายหลังเสร็จก็นั่งคุยเป็นเพื่อนครอบครัวสักพัก 

            ขณะนั้นก็มีสายเข้าจากหอผู้ป่วยอายุรกรรม (4ข) แดงโทรแจ้งปาว่ามี case consult ใหม่    ดูจะด่วนมาก และเท่าที่ทราบว่าคนไข้จะขอกลับบ้านแล้ว ไม่นานเราก็มาถึงหอผู้ป่วยอายุรกรรม4ข เราตรงปรี่เข้าไปดูประวัติและสักพักพอรู้ข้อมูลเบื้องต้น เราจึงแยกกันประเมิน ฉันประเมินญาติครอบครัว ส่วนปาประเมินคนไข้ ดูแลความสะอาดปากเเละฟัน (mouth care) ดูแลดูดเสมหะ เราต่างใช้เวลาประมาณ 45 นาที เราจึงมา share ข้อมูลร่วมกัน ทำให้ทราบปัญหาและความต้องการของคนไข้

คนไข้คนนี้เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะลุกลาม

  1. รับรู้ต่อโรค และการพยากรณ์โรคที่ไม่ดี ทุกข์ทรมานมานาน

  2.  ต้องการกลับไปเสียชีวิตที่บ้าน / แพทย์อนุญาตแล้ว

  3. ครอบครัว ลูก ให้อำนาจตัดสินใจอยู่ที่คนไข้ผู้เป็นแม่

  4. ปัญหาปวด ปวดท้องมาก คะแนน 10/10

              เมื่อได้ข้อมูลแล้ว เราประสานกับพยาบาลที่หอผู้ป่วย  และแพทย์เจ้าของไข้สื่อสาร และวางแผนที่จะปรึกษาอาจารย์หมอศรีเวียง เรื่องการจัดการอาการทั้งเรื่องปวด และเมื่อผู้ป่วยกลับถึงบ้าน ถอดท่อช่วยหายใจ จะช่วยเขาอย่างไร ไม่ทรมาน  ก่อนเดินจากมาเราสองคนไปจับมือคนไข้ และบอกให้เขาทราบว่าทีมจะช่วยไม่ให้ยายทรมาน ยายผงกหัวและยกมือไหว้เราสองคน เป็นการขอบคุณ เราไปทานข้าวเนื่องจากเที่ยงพอดี เสร็จแล้วรีบวิ่งกลับไปที่หน่วยเพื่อวางแผนดูแล case นี้ต่อ เราช่วยกันเขียนใบส่งตัวเพื่อส่งต่อโรงพยาบาลร้อยเอ็ด แต่เนื่องจากมีประชุม เตรียมความพร้อมอบรม หลักสูตร palliative care เข้มข้นจึงวางมือด่วน เมื่อประชุมเสร็จเรา 3 คน ฉัน ปา และอาจารย์จึงวิ่งมาดู คนไข้คนนี้ด้วยกัน  สรุป อาจารย์ order ยามอร์ฟีน  และยานอนหลับเพื่อให้คนไข้ไม่ทรมานมากจากการปวด เเละหอบเหนื่อยระหว่างเดินทาง และหลัง ถอดท่อช่วยหายใจออก  และจากการประเมินครอบครัวแล้ว มีปัญหาด้านเศรษฐกิจด้วย ทีมจึงช่วยค่ารถ 1000 บาท เป็นงบประมาณกองทุนที่มีผู้บริจาคมา  และอาจารย์ยังควักเงินส่วนตัวช่วยอีกแรง สาธุ ! ปาอยู่จัดการต่อ  ส่วนฉันกับอาจารย์เดิน round ผู้ป่วยต่อที่ตึกอายุรกรรม 4ค ที่อยู่ในโปรแกรม case นี้ ความสำเร็จของทีมที่เข้ามาช่วย คือ คนไข้จากที่เบื่อหน่าย ท้อแท้ “อยากตายไว ไว”ทีม เราเข้าเป็น approach ดูแลด้านร่างกายปัญหาปากแห้ง หายใจลำบาก และ เยียวยาจิตใจ จิตวิญญาณ นิมนต์พระแสดงธรรม "คนเราเกิดมาก็เหมือนปลากระป๋องที่มีวันผลิต และมีวันหมดอายุ แต่คน รู้วันผลิตคือวันเกิดแต่ไม่มีใครล่วงรู้วันหมดอายุคือวันตาย  เพราะฉะนั้นถ้ายังไม่ถึงเวลาหมดอายุ ก็ไปไม่ได้"  เชื่อว่าคำพระสอนคำนี้ เป็น เป็นสิ่งช่วยให้เขาเปลี่ยนความคิดว่า แทนที่จะคิดว่าอยากตาย ไว ๆ ทำให้เขามีกำลังใจ พร้อมที่จะเผชิญและอยู่เพื่อทำความดี  ใช้ธรรมะเยียวยาจนสุดท้ายเมื่อใจสวบายก็หายโกรธ หายเคือง ให้อภัยต่อผู้อื่นญาติ ๆ ที่ทะเลาะกัน พี่น้องที่โกรธกันได้ขอขมาลาโทษกัน

          วันนี้เรามาจบที่ case  เด็กทารกแรกเกิดโรคหัวใจที่ผิดปกติมีหัวใจห้องเดียว คลอดได้เพียง 8 วัน โรคยากเกินเยียวยา ต้องรักษาด้วยวิธิผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจเท่านั้น แต่หมดปัญญาเพราะบ้านเราทำไม่ได้ ทางเดียวก็คือประคับประคอง แผนการสำหรับน้องก็คือ คุยกับครอบครัว เพื่อวางแผนและทำความเข้าใจเป้าหมายร่วมกับครอบครัว และเขียนแบบส่งต่อข้อมูลให้ เพื่อส่งต่อให้โรงพยาบาลมหาสารคาม เพราะครอบครัวประสงค์จะพาน้องกลับไปรักษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน

  งานของเราในเเต่ละวันจะออกมาในรูปเเบบนี้ นับวันคนไข้ก็เยอะขึ้นเเละเป็นที่รู้จักของบุคลากรในโรงพยาบาล โดยภาพรวมสิ่งหนึ่งที่เห็นชัดเมื่อทีมเราเข้าไปก็คือเราไป make the difference คนไข้ได้รับการดูแลครอบคลุมทุกมิติขององค์รวม คุณภาพชีวิตดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เเละบ่อยครั้งที่เราจะได้รับคำขอบคุณ ขอบคุณ จากทั้งทีมเจ้าของไข้ เเละตัวคนไข้เเละครอบครัว  คิดว่าเท่านี้เราพอใจ มีความสุขเเเล้ว

 

 

 

คำสำคัญ (Tags): #palliative care
หมายเลขบันทึก: 459721เขียนเมื่อ 10 กันยายน 2011 21:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 17:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

พบกันวันที่ 13 ที มข.ครับน้องกุ้งนาง

โห! ยินดีเลยค่ะลุงวอญ่า จะมีเวลาพาลุงไปกินส้มตำมัียเนี่ย ปรึกษาทีมงาน g2kชาว ขอนเเก่นก่อนนะคะ

แต่วันนี้ฉันขอเป็นมือใหม่หัดแต่ง ปาให้โอกาสฉันได้แสดงฝีมือ (แต่อยากบอกว่ารู้สึกหวิว ๆ เหมือนกันนะคะ แต่ก็ต้องบอกตัวเองว่า “เราต้องทำได้ เราต้องทำได้ ได้บุญ ได้บุญ”)

อ่านเรื่องนี้ของพี่กุ้ง แล้วคิดถึง "The depature" 

เป็นกำลังใจให้คะ สุดยอดทีม palliative can do :-)

 

depature ได้ดูแล้วค่ะ อาจารย์ศรีเวียงชวนดูค่ะอาจารย์หมอเเต้ เรายังเป็นมือใหม่นะคะ เเต่พระเอกรื่องนี้เค้ามืออาชีพ

ขอบคุณนะคะที่มาเป็นกำลังใจให้ทีมเรา

โห... เหนื่อยมั้ยคะ  เป็นกำลังใจให้นะคะ

นิดหน่อยค่ะ เเต่ก็ยินดี มีความสุขกับงานดีค่ะ คุณชาดา

  • เห็นภาพในโกทูโนสัญจรของพี่แก้ว แล้วคิดถึงน้องกุ้งค่ะ อิอิ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท