รวมความคิด กิจกรรมที่จังหวัดในเขต 2 ได้วางแผนทำกันค่ะ ก็คือ
-
การอบรมให้ความรู้ แกนนำ อผส. เผื่อไปถึงกลุ่มแม่บ้าน กลุ่มกองทุนหมู่บ้าน กลุ่มวัยรุ่น - ขยายการถ่ายทอดความรู้ต่อก็ได้ ในเรื่องของการแลกเปลี่ยนความรู้ ภูมิปัญญาจากผู้สูงอายุ ผนวกกับ ความรู้ของเจ้าหน้าที่ เช่น ด้านสุขภาพ ด้านสมุนไพร รวมถึงสามารถไปสอนให้กับลูกหลานได้ด้วย
-
การสอน ฝึกแปรงฟันที่ถูกวิธี ตั้งแต่สอนให้รู้ ฝึกทักษะ จับคู่ตรวจฟัน เพื่อเสริมการมีส่วนร่วมในผู้สูงอายุ ที่จะได้รู้ว่า ฟันของเพื่อนเป็นอย่างไร จะทำความสะอาดกันได้อย่างไร
- ให้ความรู้ทางเสียงตามสาย โดย ผู้สูงอายุ
-
การตรวจสุขภาพผู้สูงอายุ - ตั้งแต่ตรวจโดยทันตบุคลากร ปีละครั้ง ให้คนอื่นช่วยตรวจได้ เช่น ผู้สูงอายุ อสม. ผู้สูงอายุตรวจสุขภาพช่องปากตนเอง และการสร้างสิ่งแวดล้อมให้เอื้อต่อการส่งเสริมสุขภาพช่องปาก
-
สร้างแกนนำทันตสุขภาพ - แกนนำบางคนทำทุกเรื่อง ทั้งเรื่องสุขภาพ สิ่งแวดล้อม แกนนำสามารถให้ความรู้ได้ เป็นต้นแบบที่ดีทางด้านสุขภาพ
-
การสร้างภาคีเครือข่าย - ด้วยการประสาน ขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
-
การส่งเสริมทันตสุขภาพอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดตั้งกองทุนแปรงสีฟัน ยาสีฟัน การจูงใจ แปรงเก่าแลกแปรงใหม่
-
การหาช่องทางการทำฟันเทียม - เพื่อสนับสนุนให้มีแหล่งสนับสนุนการให้บริการมากขึ้นจากองค์กรในท้องถิ่น ทั้งภาครัฐ และเอกชน
-
รณรงค์ส่งเสริมสุขภาพช่องปาก - เช่น ประกวดผู้สูงอายุฟันดี การแปรงฟันให้สะอาด ผู้สูงอายุพาลูกหลานแปรงฟันใน ศพด. ประกวด ปู่ย่าตายายลูกหลานฟันดี ให้เกิดความคิด การมีฟันดีในครอบครัว
-
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องการดูแลสุขภาพช่องปาก อาจเป็นผู้สูงอายุด้วยกันเอง เป็นแบบอย่างให้กันและกันได้
-
กองทุนสุขภาพช่องปาก - ไม่เฉพาะเรื่องใส่ฟันเทียม แต่เป็นเรื่องการทำแผนงาน / โครงการ เรื่องสุขภาพช่องปากด้วย
-
สถานที่แปรงฟัน - เป็นสัดส่วนในชมรมผู้สูงอายุ อาจเป็นที่ล้างมือ-แปรงฟัน พร้อมเพลงเพื่อกำหนดเวลาในการแปรงฟัน
- การสนับสนุนอุปกรณ์ทำความสะอาดช่องปาก
- จัดทำมุมความรู้เรื่องสุขภาพช่องปาก
ผลที่เกิดขึ้นในกระบวนเหล่านี้ ก็พบว่า กิจกรรมทั้งหมดนี้ ลงไปที่ผู้สูงอายุ จะทำให้
- ผู้สูงอายุตระหนัก มีความรู้เรื่องสุขภาพช่องปาก สามารถดูแลสุขภาพช่องปาก ตนเอง เพื่อนสมาชิก ลูกหลานได้
- แกนนำ ช่วยทำกิจกรรม ถ่ายทอดความรู้ การปฏิบัติ ให้สมาชิก ลูกหลาน
- ผู้สูงอายุได้รับการรักษาตามปัญหาเร่งด่วน ซึ่งสัมพันธ์กับการเข้าถึงบริการของผู้สูงอายุ
- ผู้สูงอายุได้รับทันตกรรมป้องกัน โดยโรงพยาบาล รพ.สต. หรือบางอย่างโดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือพยาบาล
- เครือข่ายมีส่วนร่วม
- หาซื้อแปรงสีฟันได้ง่าย จากกองทุนแปรงสีฟัน ยาสีฟัน
- เมื่อชมรมเข้มแข็ง ก็ทำให้มีคนเข้าร่วมกิจกรรมมากขึ้นด้วย
สิ่งสนับสนุน และกลยุทธ์ในการทำกิจกรรม
- ระดับต้น รพ.สต. เป็นผู้ให้ความรู้ที่ถูกต้อง
- ในชุมชน มีการสัญจรในชุมชน
- งบฯ สนับสนุนการดำเนินการ อย่างน้อย 5,000 ต่อปี
- งบฯ เบื้องต้น ขอการสนับสนุนได้จาก อปท. ท้องถิ่น
- รพช. ให้ความรู้ในเรื่องที่ยากขึ้นมา ให้การรักษา ทำฟันเทียม
- บุคลากรทันตฯ เป็นผู้ตรวจให้ความรู้แกนนำ
- ยุทธศาสตร์จาก สสจ. หรือ ผู้สูงอายุให้ความสำคัญ ก็ทำขึ้นไปก็ได้
- ศูนย์อนามัย จัดประชุม ลปรร. ระหว่างหน่วยงานในพื้นที่
- กรมอนามัย สนับสนุนสื่อทันตสุขศึกษา เช่น ภาพพลิก โมเดล, Air war
ข้อเสนอการทำกิจกรรม ... ฝากไว้ให้คิดนะคะ
- การทำกิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถ้ามีอยู่เสมอๆ จะเป็นการต่อยอดความรู้ การกระตุ้น ทำให้่อยากให้ทำกิจกรรม ทำกิจกรรมกันอย่างมีส่วนร่วม การคิดค้น และเป็นแรงจูงใจที่จะสร้างสรรค์งานต่อไป
- การแสวงหา สืบทอดภูมิปัญญา ที่มีประโยชน์ นำมาถ่ายทอด ปรับปรุง พัฒนาให้ทำกันต่อไปได้ โดยใช้ให้เหมาะสมกับกลุ่มคน ตามบริบทของชุมชน
- การสร้างภาคีเครือข่าย ทำให้เกิดความร่วมมือในชุมชน ครอบคลุมการทำกิจกรรมให้ชุมชน
- การปลูกฝังกิจกรรม ให้เกิดพฤติกรรมเป็นกิจวัตรประจำวัน เหมือนกับตื่นมา ก็ต้องอาบน้ำแปรงฟัน ก็จะมั่นคงถาวร สืบต่อไปถึงลูกหลาน
- การสร้างระบบ ให้มีการสร้างเสริมสุขภาพครบวงจร ครอบคลุมการส่งเสริม ป้องกัน รักษา และฟื้นฟูสุขภาพช่องปาก ในทุกกลุ่มวัย
และเพื่อเป็นการต่อยอดการประชุมต่อไป คุณหมอกบ ได้บอกไว้ว่า ครั้งต่อไป ก็จะจัด ลปรร. กันอีก จะได้ชวนผู้สูงอายุมาอีกเยอะๆ จะได้คึกคักค่ะ