เมื่อภาคเรียนวิริยะมาถึง เด็ก ๆ ชมรมก็ยังคงมีหน้าที่เหมือนเดิมคือ เมื่อมาถึงก็ลงชื่อ แล้วก็ไปหามุมโปรดนั่งทำงานเงียบ ๆ
การเรียนชมรมครั้งที่ ๒ ของภาคเรียน ครูแคทแก้งานให้เด็ก ๒ คน และสอนเด็กที่ยังทำไม่ได้อีก ๑ คน เมื่อเงยหน้าขึ้นมามองรอบๆ ห้อง ก็อดยิ้มไม่ได้ เมื่อได้เห็นภาพเด็กๆ นั่งอยู่เป็นกลุ่มๆ ตั้งอกตั้งใจทำงานของตัวเอง เด็กที่ทำไม่ค่อยได้ในภาคเรียนที่แล้ว ตอนนี้ทำเก่งขึ้นแล้ว
ของขวัญนั่งสอนเพื่อนที่ยังถักได้ไม่คล่องเป็นกลุ่ม
โมนิซึ่งไม่ได้เอางานมาในครั้งแรก ครูแคทบอกว่า พรุ่งนี้หนูเอามาให้ครูดูด้วยนะคะ เพราะโมนิบอกว่า “หนูทำได้เยอะแล้วค่ะ”ครูแคทแอบไม่เชื่อเล็กน้อยเพราะภาคเรียนที่แล้วโมนิพึ่งจะมัดห่วงได้เองจะทำได้เยอะแล้วได้ยังไง
เที่ยงวันต่อมา ขณะที่เดินผ่านห้องสมุด ก็ได้ยินเสียงเด็กคนหนึ่งเรียก “ครูแคทคะ!!!” เมื่อมองกลับไป ก็เห็นโมนิยืนยิ้มอยู่หน้าห้องสมุดพร้อมกับชูงานที่ถักค้างอยู่ให้ดู ครูแคทก็ยิ้มให้แล้วบอกว่า “โห...นี่หนูถักได้ตั้งเยอะแล้วนี่คะ” แล้วโมนิก็เดินกลับเข้าห้องสมุดไป
การเรียนชมรมในครั้งที่ ๒ โมนิก็เอางานชิ้นเดิมมานั่งข้าง ๆ และถักให้ดูอย่างคล่องแคล่ว (ปกติเด็กที่ทำไม่เก่งจะมีแม่หรือพี่เลี้ยงถักเพิ่มให้ พอมาถึงเวลาชมรมก็จะทำเองไม่ได้) ครูแคทจึงอดถามไม่ได้ว่า “โมนิปิดเทอมหนูไปฝึกมาเหรอคะ?” แต่โมนิกลับบอกสิ่งที่ไม่น่าเชื่อกับครูแคทว่า “หนูเห็นแม่ถัก แล้วหนูก็ถักเป็นเลย พอหนูถักเป็นก็เริ่มสนุก”
และในคาบนี้ก็มีเรื่องที่ทำให้ครูแคทต้องแปลกใจ จนขนลุกก็อีกเรื่องก็คือ
หมี่หมี ห้อง ๑/๑ ที่วันนี้เดินไปบอกครูแคทที่ห้องพักครูก่อนถึงเวลาชมรมว่า “วันนี้หนูลืมเอาไหมพรมมา” ครูแคทแอบผิดหวังเล็กน้อย เพราะหมี่หมีพึ่งจะถักได้และยังไม่คล่องเลย กลับบ้านก็ไม่ค่อยได้ทำเพิ่ม แต่ครูแคทก็บอกไปว่า “งั้นวันนี้ครูแคทมีงานให้ทำค่ะ”
พอขึ้นไปครูแคทก็ยื่นไหมพรม ๑ ม้วนที่ยุ่งเหยิงให้ พร้อมกับบอกว่า “คาบนี้หนูแกะไหมพรมนี้แล้วม้วนให้เป็นวงกลมให้เสร็จนะคะ” หมี่หมีรับงานไปพร้อมกับตอบว่า “ค่ะ” ครูแคทให้งานนี้ไปทั้งๆ แต่ก็คิดในใจว่าหมี่หมีคงทำไม่ได้หรอก เด็กป.๑ คงจะมีสมาธิและความอดทนไม่พออย่างแน่นอน เพราะเคยให้เด็กป. ๒ - ป.๓ ทำงานนี้ยังทำไม่ค่อยได้ แต่เอาเถอะ ลองดู...
ก่อนหมดคาบ หมี่หมีเดินมาหา พร้อมกับยื่นก้อนไหมพร้อมที่พันเป็นม้วนเรียบร้อยให้ครูแคทพร้อมกับบอกว่า “พึ่งเสร็จค่ะครูแคท” นาทีนั้นครูแคทถึงกับขนลุก มองงานแล้วมองหน้าหมี่หมีที่ทำหน้าเหนื่อยๆ กับผลงานชิ้นนี้ ครูเรียกหมี่หมีมานั่งใกล้ๆ แล้วบอกว่า “งานนี้เป็นงานที่ยากมาก หนูมีความอดทนและมีสมาธิที่ดีมากๆ จึงทำได้สำเร็จ เก่งมากๆ ค่ะ!!”
เมื่อมานึกย้อนไปเมื่อภาคเรียนที่แล้ว หมี่หมียังบ่นอยู่เลยว่าม้วนไหมพรมให้เป็นวงกลมไม่ได้ มือเล็กเกินไปที่จะจับไหมและม้วนให้แน่น เมื่อเริ่มถักหมี่หมีก็ทำผิดๆ ถูกๆ ต้องแก้ใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า และมีอาการใจร้อนอยู่นิดๆ อยากทำให้เสร็จเร็วๆ แล้วพอรีบร้อนก็เลยทำผิด
มาวันนี้หมี่หมีใช้เวลา ๔๕ นาที ไปกับการแกะไหมพรมที่ยุ่งเหยิงสำเร็จลงด้วยตัวเอง จึงเป็นเรื่องไม่ธรรมดาที่ทำให้ผู้ใหญ่ได้เรียนรู้ว่างานนิตติ้งไม่ใช่เพียงงานฝีมือที่เอาไว้ทำเพื่อฆ่าเวลา แต่งานนี้ยังช่วยฝึกการอยู่กับอุปสรรคปัญหาอย่างไม่ย่อท้อได้อย่างดี การแกะไหมพรมจึงเป็นบทเรียนของการรู้จักวางใจ ที่ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ต้องสอบให้ผ่าน
งานนิตติ้งเป็นงานที่ต้องใช้ใจดีๆ ที่มีสติและสมาธิมากำกับการถักไปในแต่ละห่วง เป็นผลงานจากใจที่สะท้อนให้เห็นภาวะภายในของผู้ทำ ที่ไม่อาจได้มาด้วยการบังคับ รีบเร่งให้ลงมือทำเพียงเพื่อต้องการผลงานสุดท้าย
เป็นรูปธรรมหนึ่งของ อิทธิบาทสี่ นะคะ..
หลังจากอ่านจบ ก็ได้ข้อสรุปว่า เราจะไปฝึกสมาธิด้วยการไปแกะไหมพรมที่ยุ่งเหยิง แล้วม้วนให้เรียบร้อย