วันนี้วันศุกร์ ปกติจะไปหาลูกที่นครสวรรค์ และก็เลยไปนอนที่บ้านจังหวัดอุทัยธานี
พวกเราดีใจที่ได้พบลูกหยกนะ ในขณะเดียวกัน เราก็ไม่ได้คิดถึงนะ ว่าจริงๆ มีอีกท่านหนึ่งที่ดีใจว่าวันนี้ลูกชายจะมาบ้าน จะได้เห็นเค้า พอถึงวันนี้ก็เฝ้ารอนะว่า เค้าจะมีโทรศัพท์มาบอกหรือเปล่า
เมื่อเสียงโทรศํพท์ดังขึ้น “แม่วันนี้ยอดไปบ้านนะ” เป็นเสียงที่ผมมักจะโทรไปบอกประจำ
ประโยคอย่างนี้แม่ทุกคนก็อยากได้ยิน
จริงๆ กลับไปก็ไม่ทำอะไรกันหรอก ไปนอนค้างคืน ตอนกลางวันก็กลับแล้ว เข้าไปถึงบ้านก็มืดค่ำแล้ว
แต่แม่ก็ทำเป็นเรื่องเป็นราวนะ ต้องซื้อโน่นซื้อนี่ เตรียมไอ้นั่นไว้ คือยุ่งไปหมด มีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที
นี่แหละน้า ความรักของแม่ ช่างไม่หวังอะไรเลย มีแต่ให้อย่างเดียว อยากเห็นหน้าลูก
อุปมาอุปมัย เรารักลูกแค่ไหนแม่เราก็รักเราเท่านั้น
ลูกผมไปเรียนไกล ก็คือต้องไปหาลูกบ่อย แม่เราก็ได้พบเราบ่อย บางครั้งอาจจะถึงสี่ครั้งต่อเดือน จากแต่ก่อนหนึ่งครั้งต่อเดือน นี่ก็เป็นความจริงที่เราเองไม่เคยตระหนักรู้
เป็นพ่อเป็นแม่ก็ต้องเข้มแข็งกับเรื่องราวอย่างนี้นะ เค้ามองข้างหน้าก่อนแล้วค่อยหันหลังกลับมามอง จึงเห็นพ่อแม่ทีหลัง เมื่อรู้อย่างนี้ เราในฐานะคุณพ่อคุณแม่ก็จะได้ไม่ตำหนิลูกนะ ไม่คาดหวังเอาประโยชน์จากลูกนะเพราะหน้าที่ของเราคือ เป็นผู้ให้ ทั้งๆที่ไม่มี..ชีวิตก็คงต้องให้กระมัง..
นี่คือความยิ่งใหญ่ของพ่อของแม่นะครับ
มาร่วมคิดถึงแม่ด้วยคนนะครับ
สวัสดีค่ะ'คุณเพชร'
ขอบคุณสำหรับบันทึกที่มีคุณค่าค่ะ
ขอบคุณอาจารย์โสภณครับ
ขอบคุณ ดร.พจนา แย้มนัยนา นะครับ ที่ให้กำลังใจกันน่ะครับ
มาให้กำลังใจและร่วมคิดถึงคุณแม่ค่ะ
แอบร้องให้...คิดถึงแม่มั่ง นานแล้วที่หนูไม่ได้กลับบ้าน
ิิอายุ 67 ปี แล้ว วันเวลาผ่านมาเร็วมาก อีก 10 ปี แม่หลองก็ 77 ปี เยอะจริงๆ นะเนี่ย แล้วจะทำอย่างไรต่อล่ะครับ
ที่บ้านขายกาแฟ ใครจะชงกาแฟขายต่อนะ ทุกวันนี้คนซื้อก็ชงกันเอง ทานเอง ทอนตังค์เองกันอยู่แล้วนะ
ความจริงที่เราทำให้แม่น้อยใจมาโดยไม่รู้ตัว และนี่ก็คือความยิ่งใหญ่ของคนเป็นแม่ในความคิดของผม
สวัสดีครับ มาร่วมระลึกถึงแม่ครับ