นี่หรือผู้ที่จะเรียนรู้


ถ้ามหาวิทยาลัยยังจะผลิตคนเช่นนี้ออกมาอีก ยิ่งเป็นการทำบาปกับประเทศชาติและสังคมอย่างมิมีวันจบสิ้น

เรียนแล้วฟังแล้ว นำสิ่งที่จดมาพิมพ์มาเขียนมาเล่า ก็คงไม่ต้องใช้เวลามาก เพราะสิ่งเหล่านั้นไม่ได้ผ่านแม้กระทั่งหัวสมอง ฟังแล้วเรียนแล้วยังไม่ได้ทำ ยังมิได้พิสูจน์ แถมยังนำมาเผยแพร่อีก “อย่างนี้เหรอผู้เรียนรู้”


อ่านหนังสือแล้ว ฟังคนอื่นพูดแล้ว ลอกตามสิ่งที่ได้เห็น สรุปเป็นองค์ความรู้ได้เลย “อย่างนี้เหรอที่เรียกว่าผู้เรียนรู้”


เรียนรู้ถึงต้นเหตุทางด้านประวัติศาสตร์การศึกษาไทย สาเหตุใดที่ทำให้ประเทศไทยต้องประสบวิกฤตอยู่ในปัจจุบัน รู้แล้วยังทำอีก “อย่างนี้เหรอผู้เรียนรู้”


อ่านหนังสือ อ่านตำราเพื่อให้รู้เท่าทันความคิดของคนและรู้ถึงที่มาที่ไป เหตุและผลของสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบัน ถ้าอ่านแล้วรู้แล้วว่าไม่ดี แถมไม่รู้จักคิดใช้และไม่มี “ปัญญา” ไตร่ตรองเสียก่อน  แล้วยังนำสิ่งเหล่านั้นมาเผยแพร่อีก “อย่างนี้เหรอผู้เรียนรู้”


ทุกอย่างฉันเก่ง ฉันถูกต้อง สิ่งที่ฉันเคยทำมาถูกหมด คนอื่นโง่หมด เลวหมด “อย่างนี้เหรอผู้เรียนรู้”


สงสารอนาคตประเทศชาติจริง ๆ ที่จะต้องมีบุคคลเหล่านี้เดินออกไปทำงาน โดยเฉพาะทำงานกับชุมชน
เห็นชุมชนเป็นผักเป็นปลา เป็นหมู เป็นหมา ฉันทำอะไรถูกหมด ถูกต้องหมด ฉันรู้ทุกเรื่อง ขนาดเรื่องส่วนตัวในบ้านเขา น้ำท่วมบ้านคนอื่น คนประเภทนี้ยังรู้ดีกว่าคนที่ถูกน้ำท่วมหรือแม้กระทั่ง สามี/ภรรยาของเขาเสียอีก “อย่างนี้เหรอผู้เรียนรู้”

เข้าไปชุมชนก็หวังแต่เพียงเก็บข้อมูล อยากแค่เรียนจบปริญญา หารายได้ หาผลประโยชน์ จัดเวทีก็เพื่อสอนคนอื่น แสดงภูมิว่าฉันเก่ง “อย่างนี้เหรอผู้เรียนรู้”


ถ้าคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างตนเองนั้นเก่งหมดรู้หมด ก็ไม่สมควรใช้คำว่า “ผู้เรียนรู้” เพราะเรียนไปคงจะไร้ประโยชน์

เรียนไปก็ยิ่งเป็นการติดอาวุธ ได้ปริญญาสูงขึ้นและใช้ทำบาปให้กับสังคมอย่างหนักขึ้น


วันนี้คนเก่งมีเยอะล้นประเทศไทยอยู่แล้ว เก่งท่อง เก่งจำ เวลาเรียนพูดได้ท่องได้เป็นนกแก้วนกขุนทอง คนแบบนี้ประเทศไทยมีเยอะ และถ้ามหาวิทยาลัยยังจะผลิตคนเช่นนี้ออกมาอีก ยิ่งเป็นการทำบาปกับประเทศชาติและสังคมอย่างมิมีวันจบสิ้น

หมายเลขบันทึก: 45103เขียนเมื่อ 17 สิงหาคม 2006 18:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ต้องเป็นมุมมองใหม่....ซึ่งไม่เกี่ยวกับสิ่งที่คนอื่นคิดไว้แล้ว...มุมมองใหม่ เกิดจากสิ่งที่ได้เรียนรู้ คิดเอง แนวทางของตนเอง ซึ่งจะขาดจากสิ่งที่บุคคลอื่นชักจูง ต้องเป็นแนวทางของตนเอง  และได้เรียนรู้จากสิ่งที่ตนคิดและจากของจริง มิใช่นำเอา คัดลอกมา ตีพิมพ์ ซึ่งไม่ใช่แนวทาง G0tokrow  แนวทาง gotokrow เกิดจากสิ่งที่ได้เรียนรู้จากของจริงที่มีอยู่ในทุก ๆ ที่ของประเทศไทย ทุก ๆ ท้องถิ่นของไทย

.....ผู้ที่ถ่ายทอดจึงต้องคำนึงถึง ข้อกฎหมาย ข้อจำกัด สิทธิส่วนบุคคล การนำเสนอข้อมูล ข่าวสาร ต้องเป็นเชิงบวกเท่านั้น และหรือ อาจจะเป็นในเชิงลบ ก็ขอให้เป็นกรณีศึกษา  คิดว่าน่าจะใช่ มุมใหม่ของ gotokrow นะครับ

....คำนึงสภาพการศึกษาไทยแต่ในอดีต...ก็ไม่ได้ว่าใคร ก็เพราะสภาพ " ฐาน" คิดแต่ละพื้นที่ของชุมชนท้องถิ่นแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน การศึกษาก็แปรสภาพเช่นนั้น

  • กาลเวลาเปลี่ยน วิธีการ และ แนวคิดก็ต้องปรับเปลี่ยน
  • ลองอ่านตอนหนึ่งของ อนาคต หนังสือ ของ คนไร้กรอบ ดูครับ
  • ขอบพระคุณทั้งสองท่านมาก ๆ เลยครับ
  • คุณ น.เมืองสรวง ได้เติมเต็มให้บันทึกนี้มาก ๆ เลยครับ
  • ขอบพระคุณคุณ Panda ที่เปิดโอกาสได้อ่านหนังสือที่มีคุณค่า คนไร้กรอบ
  • จะติดตามอ่านและนำกลับมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท