ตลอดชีวิตของการเป็นครู ฉันไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดเท่าวันนี้มาก่อน เมื่อนักเรียนที่ฉันดูแลมาเล่าให้ฟังว่ามีเพื่อนคนหนึ่งไปบอกคุณครูบางท่านว่า "อยากเปลี่ยนครูที่ปรึกษา" ในช่วงเปิดเทอมใหม่ ๆ ที่ฉันไปดูแลเขา...
ฉันไม่รู้หรอกว่าการที่ฉันได้เป็นครูที่ปรึกษานักเรียนที่ได้ชื่อว่าเรียนดีของระดับชั้น เป็นความโชคดีหรือโชคร้ายของชีวิตกันแน่
สามปีกับประสบการณ์ที่ต้องดูแลเด็กห้องสุดท้าย แม้เด็กเหล่านั้นจะดูเลวร้ายในสายตาครูบางคน มาโรงเรียนสาย สอบตกเป็นอาจิณ แต่งกายไม่ถูกระเบียบ เข้าเรียนไม่เคยตรงเวลา ส่งงานไม่เคยครบ แต่ทุกครั้งที่เขาทำผิด ฉันสามารถตักเตือนว่ากล่าวแม้ทำโทษรุนแรงเขาก็ยอมรับผิดโดยที่ไม่เคยปริปากบ่น
ดูเหมือนเวลาสามปีกับเด็กสามรุ่นที่ฉันต้องเหน็ดเหนื่อยอบรมพร่ำสอนด้วยความรักและความเอาใจใส่ ไปเยี่ยมบ้านรับฟังปัญหา คอยดูแลให้กำลังใจทุกครั้งที่มีปัญหา สิ่งที่ได้รับกลับคืนมา คือภูมิคุ้มกันเรื่องความอดทน และการเคารพบูชา แม้จบไปแล้วก็ไม่เคยลืมครู ยังมากราบไหว้ทักทายเมื่อมีโอกาส บ่อยครั้งก็มีคำพูดดี ๆ ซื่อ ๆ แต่จริงใจคอยออดอ้อนเมื่อยามฉันบ่นว่าจนรู้สึกผ่อนคลาย....
ปีนี้เป็นปีแรกที่ฝ่ายบริหารจัดครูที่ปรึกษาเอง และมีมุมมองว่าควรเลือกครูที่ปรึกษาซึ่งดูแลเอาใจใส่นักเรียนเป็นอย่างดีไปดูแลห้องที่เรียนดีเพื่อส่งเสริมศักยภาพเด็กมากยิ่งขี้น ฉันไม่รู้หรอกว่าความคิดของฝ่ายบริหารถูกหรือไม่
วันแรกที่ฉันทราบข่าวว่าได้เป็นครูที่ปรึี่กษานักเรียนห้อง ม.๖/๑ ฉันรู้สึกดีใจไม่น้อย และยังจำคำพูดของครูบางคนที่รู้จักเด็กรุ่นนี้มาก่อนพูดว่า "ไม่รู้จะโชคดีหรือโชคร้ายนะพี่"
ฉันยังรู้สึกแปลก ๆ ทำไมพูดอย่างนั้น ผ่านไปสองเดือนฉันจึงรู้คำตอบ เด็กห้องนี้ไม่เหมือนเด็กทุกรุ่นที่ฉันเคยสอน เด็ก ม.๖/๑ ทุกรุ่นที่ฉันสัมผัสไม่เคยมีรุ่นไหนที่เป็นเช่นนี้ เด็กผู้ชาย ๑๑ คน รวมตัวสามัคคีรักใคร่กันเป็นอย่างดี แต่เด็กผู้หญิง ๓๗ คน แบ่งเป็นกลุ่มแ่ตกสามัคคี ขาดความรักและความเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน บางกลุ่มก็พูดมาก บางกลุ่มก็ก้าวร้าว ขาดสัมมาคารวะ บางกลุ่มก็ชอบแต่งกายผิดระเบียบ สมาธิสั้น เก็บความรู้สึกไม่เป็น บางคนก็พูดจาโผงผางไม่มีหางเสียง
ช่วงที่ผ่านมาฉันได้เห็นธรรมชาติของเด็กบางคนที่เขาแสดงออกอย่างเต็มที่เมื่อฉันตักเตือน นั่นคือโต้เถียงไม่ลดละ ชนิดที่ว่าขาดความเคารพ แสดงท่าทีเบื่อหน่ายเมื่อฉันคอยอบรมพร่ำสอนช่วงกิจกรรมโฮมรูม บางคนก็แสดงออกทางสีหน้าและคำพูด
สองปีที่เด็กห้องนี้อยู่กับครูที่ปรึกษาเดิมที่เป็นผู้ชาย เขาอาจไม่เคยฝึกเด็กเหล่านี้เหมือนกับที่ฉันฝึก นั่นคือดูแลเอาใจใส่ อบรมทุกเช้าก่อนเข้าเรียนในเรื่องระเบียบวินัย กิริยามารยาท ความรับผิดชอบ ความอ่อนน้อมถ่อมตน จนเด็กบางคนเริ่มเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมรู้จักสวัสดีคุณครูโดยอัตโนมัติ และเด็กบางคนรู้สึกเบื่อหน่าย
แม้วันนี้ฉันจะรู้ว่าเด็กบางคนอาจรำคาญฉันเต็มทีก็ตาม แต่ฉันยังคงทำหน้าที่ของฉันต่อไปนั่นคือช่างปั้นหม้อ ปั้นด้วยหัวใจของคนเป็นครู ปั้นด้วยความรักและความเอาใจใ่ส่ แม้หม้อเหล่านั้นอาจถูกขึ้นรูปทรงมาบ้างแล้ว เมื่อถึงมือฉัน หม้อบางใบอาจสวยงามเพราะธรรมชาติของดินเดิมที่มีคุณภาพ บางใบอาจรอการตบแต่งไม่นานก็สมบูรณ์ หากแต่บางใบอาจมีรอยร้าวจนเกินแก้ไขไม่ว่าหม้อแต่ละใบจะมีสภาพเ่ช่นไร ฉันไม่มีสิทธิ์เลือก รู้อย่างเดียวว่าต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดโดยปราศจากอคติใด ๆ และต้องปั้นเธอให้ดีที่สุดเท่าที่ความสามารถของฉันจะมีโดยไม่หวังรางวัลตอบแทนใด ๆ จากเธอ นอกจากปั้นเธอให้เป็นสมบัติอันมีค่าของแผ่นดิน
.............................................
ธรรมทิพย์
๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๔
เห็นคำว่า "ช่างปั้นหม้อ"
นึกถึงบทกวีที่เขียนไว้เลยนำมาฝากครับ
http://www.gotoknow.org/blog/ruamrosbotkawi/364678?refresh_cache=true
สวัสดีค่ะ
ขอให้กำลังใจนะคะ มีครูเล่าเป็นประจำว่า...
เด็กที่ไม่ลืมครู และโรงเรียน มักเป็นเด็กปึกๆ.....สมัยอยู่โรงเรียนเกเร
แต่เขาจะประทับใจครูที่คาดคั้นสั่งสอนอบรมจนเขาผ่านพ้น....
ทุกวันนี้สามีลำดวนเกษียณ เขาเคยได้ชื่อว่าเป็น ครูดุ ครูโหด ครูตำรวจ....
แต่จนทุกวันนี้จะมีเด็กที่จบไปแล้วนานๆ เด็กที่ทำงานแล้ว มาหา มาไหว้ มาเยี่ยมเยียนคุยด้วยเสมอๆ
นั่นแสดงว่าครูที่ใส่ใจในตัวเด็ก คือครูที่เด็กประทับใจค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้อีกคนค่ะ ครูวราภรณ์
เด็กวัยรุ่นชอบแสดงออกแบบสุดโต่ง
เด็กผู้หญิงมักต่อต้านครูผู้หญิง..อย่างเรา
เด็กประถมก็เริ่มเป็นแล้วค่ะ
แต่เราก็ต้องทำหน้าที่ของเราต่อไป..ไม่หยุดยั้ง
สวัสดีค่ะอาจารย์
เป็นกำลังใจให้ค่ะ ชื่นชมในการทำงานและความตั้งใจในการอบรมให้เด็กเป็นคนดี อาจจะด้วยอายุที่ยังน้อย วันนี้เด็กบางคนมองไม่เห็นความตั้งใจที่ดี ความหวังดีที่ครูมีให้ วันหนึ่งเมื่อเขาเติบโตและได้ทบทวนชีวิต เชื่อว่าเขาจะกลับมาขอบคุณคุณครูหรือไม่ก็นึกถึงคำสอนดีๆของคุณครูค่ะ
แต่ละวันคงเหนื่อยใจไม่น้อยเลย นักเรียนทั้งห้อง แบ่งแยกกลุ่มกัน พูดจาไม่น่าฟัง ฯลฯ สอนสิ่งดีๆที่ถูกต้อง เมื่อนักเรียนโตเป็นผู้ใหญ่แล้วพบปัญหา ก็จะคิดถึงคุณธรรมทิพย์ค่ะ หรือเมื่อแต่ละคนมีครอบครัวมีลูก บางอย่างที่ยังจำได้ว่าเคยถูกสอนมา ก็จะได้ไปสอนลูกของเขาได้ค่ะ ขอมอบกำลังใจให้คุณคุณธรรมทิพย์มากๆนะคะ
เป็นกำลังใจให้ครูที่ปรึกษาห้องเรียนดีนะคะ
เด็กเรียนดีบางครั้งก็ไม่สามารถวัดได้ว่าความประพฤติจะดีไปด้วย
สวัสดีครับคุณธรรมทิพย์
เป็นกำลังใจให้ครูนะครับ
ดอกบัว...กว่าจะสวย ผ่านโคลนตม และขวากหนาม
ดอกบัวเหล่านี้ แหละครับครู เค้าห้อยประสบการณ์ของชีวิตเอาไว้...สอนตัวเอง
และเมื่อวันนั้นมาถึง ครูธรรมทิพย์ จะเห็นรอยยิ้มที่เปี่ยมด้วยความรัก จากศิษย์อย่างเต็มหัวใจ
เป็นกำลังใจให้ครูครับ
การเป็นครูนี่ยากจริงๆ ต้องทนรับทุกอย่าง แต่นั่นก็เป็นบททดสอบทางใจ ดีแล้วที่เด็กกลุ่มนี้มาเจอคุณครู ยังไม่สายที่เขาเหล่านั้นจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ขอให้เป็นกำลังใจให้คุณครู
สวัสดีค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ "ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก" ไม้แก่ดัดยากก็จริงแต่ก็ยังดัดได้นะคะ เด็ก ๆ เหล่านี้ยังไม่ถึงกับเป็นไม้แก่ คงไม่เกินความสามารถของคุณครูวราภรณ์อย่างแน่นอน โดยเฉพาะคุณครูมอบหัวใจในการสั่งสอนอบรมเด็ก เชื่อว่าเด็ก ๆ
ก็คงรับรู้ด้วยใจค่ะ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ... อย่างไรก็ตามขอภาวนาให้บุญหนุนกุศลส่ง
ให้เด็ก ๆ คิดได้ในเร็ววันด้วยนะคะ