อดทนด้วย.....พลังความรัก ( สี่ )


ชีวิตต่างถิ่นต่างภาคที่แสนไกลแต่ปรับใจได้

  ชีวิตการช่วยราชการของ krugui  เมื่อมีเริ่มต้นครั้งแรกก็มีครั้งต่อๆมาอีก  โชคชะตาฟ้าลิขิตให้เป็นไปหรืออย่างไร  เมื่อคนใกล้ตัวได้รับคำสั่งให้ย้าย  krugui จึงต้องหอบลูกและทุกอย่างย้ายตามไปด้วย  โดยขนทุกอย่างไปให้มากที่สุดเพราะไม่รู้ว่าสถานที่ที่จะไปเป็นอย่างไร  ส่วนบ้านก็ปิดทิ้งไว้ ( จนภายหลังเมื่อแน่ใจว่าคงไม่ได้กลับมาอยู่แล้วแน่ เลยขายไปให้หมดห่วง )

 



  ชีวิตต่างถิ่นต่างภาคจึงได้เริ่มต้นขึ้น มาอยู่ใหม่ๆรู้สึกยุ่งยากใจกับสำเนียงภาษาที่ฟังไม่ค่อยออก หรือเขาฟังเราไม่ออกก็ไม่รู้  hahaha   ต่างคนต่างต้องมาปรับตัวปรับหูให้เข้ากันทั้งครูทั้งนักเรียนรวมทั้งคนรอบข้าง  สมัยนั้นเรียนกันสามเทอม  krugui  ไปรายงานตัวกับครูใหญ่ได้แค่เทอมเดียว  ครูใหญ่ก็ย้ายไปรับตำแหน่งที่อื่น  ปล่อยให้พวกครู ( ผู้หญิงทั้งหมด ) อยู่กันมาอีกเป็นปีโดยที่ไม่มีผู้บริหารเลย    คงมีผู้รักษาการที่เข้ากั๊นเข้ากันดีชนิดที่ว่าอะไรก็ว่าตามกัน  เพราะฉะนั้นพวกเราจึงไม่มีวันลากันเลย  เหอเหอเหอ

 


 

  ที่นี่ช่างห่างไกลจากตัวจังหวัดอะไรเช่นนั้น  มันดูเหมือนระยะทางจะยาวไกลไม่มีที่สิ้นสุดเสียทีตั้ง 3 ชั่วโมงในสมัยนั้น  อย่าว่าแต่ตัวจังหวัดเลย  แค่ตัวอำเภอก็ไปลำบากมาก  โอ้...ชีวิตอีกแล้ว  ไปครั้งแรกก็ไปสร้างวีรกรรมเอาไว้เมื่อไปรายงานตัวที่จังหวัดแล้วไปต่อว่าเจ้าหน้าที่บุคลากรที่เขาทำเรื่องส่งไปให้อำเภอช้า  ทั้งนี้ทั้งนั้นเพราะระยะทางมันไกล  แล้วก็ไม่รู้จักใครเลยเขาก็น่าจะทำให้เราเร็วๆหน่อยจะได้กลับทัน  ปรากฎว่าตั้งแต่นั้นมาเขาจำ krugui ได้แม่นมากว่ายายนี่มาจากเหนือ  คริคริคริ

 

 

  การใช้ชีวิตที่นี่ไม่มีปัญหามากนัก เพราะสามารถปรับตัวได้ตามสภาพ ด้วยไม่ค่อยคิดหรือเป็นกังวลกับอะไรนานๆ  คงมีแต่ต้องใช้ความอดทนอย่างสูงเพราะไกลคนละภาคกับความคุ้นเคย  ต้องต่อสู้กับความคิดถึงพ่อแม่พี่น้องญาติสนิทมิตรสหาย  รวมทั้งความคุ้นเคยเก่าๆทุกอย่างปิดเทอมทีจึงจะได้เจอหน้ากันที  ใครที่ไม่มีพลังความรักคงอยู่และทำใจได้ยากนะเนี่ย....

 

 

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านนะคะ  สำหรับโรงเรียนนี้มีความประทับใจมากมายเกิดขึ้นที่นี่จึงต้องมีต่ออีกสักบันทึกหนึ่งค่ะ


หมายเลขบันทึก: 448624เขียนเมื่อ 11 กรกฎาคม 2011 21:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:48 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (24)

สวัสดีเจ๊า

  • เพราะพลังรักจากสรรพสิ่งและเจอกับคนรอบข้างที่รู้ใจระยะทางที่แสนไกลจึงไม่ใช่อุปสรรคและปัญหา แต่มันกลับสร้างความแกร่งให้ชีวิตอีกต่างหาก
  • ก็คงเพราะพลังรักและเจอเพื่อนที่รู้ใจนี่แหละทำให้ครูป๋องเลือกอุดมการณ์มากกว่าอุดมกิน...เลยบ่ได้กลับบ้านตัวเอง อิอิ
  • อยู่ไหนขอให้มีสุขทางใจ ยังไงก็อยู่ใต้ฟ้าเดียวกันเนาะเจ๊า

                    

 

สวัสดีค่ะ...

  • เข้าใจปัญหา และมองเห็นสภาพเลยค่ะพี่...เพราะชีวิตก็ผ่านมาคล้าย ๆ กัน...ไม่ได้สุขสบายเช่นทุกวันนี้หรอกค่ะ...
  • คิดถึงพี่เสมอจ้า...

เก็บรวบรวมสถิติจำนวนโรงเรียนที่ย้ายไปอยู่  และช่วยราชการได้เท่าไรคะพี่

สวัสดียามเช้าค่ะพี่krugui

ลำบากนะค่ะ อ่านแล้วเห็นภาพ ด้วยพลังรักจึงมีวันนี้ที่สวยงามค่ะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะพี่สาว คิดถึงนะค่ะ

การไปอยู่ต่างถิ่นแม้จะอยู่ภาคเดียวกันยังต้องปรับตัวเลยครับ เข้าใจความรู้สึกของครูกีร์ที่ไปถึงแล้วฟังภาษาเขาไม่ออกนี่ยิ่งอึดอัดเข้าไปอีก แต่ก็นั่นแหละครับ ครุ แปลว่า หนักอยู่แล้ว อิอิ

เช้าเข้ามาในบันทึกรู้สึกมีพลังเพิ่มขึ้นมากมายกับ  

แสนสวยจาก  +++++++++   ขอบคุณทุกกำลังใจที่

มีให้นะคะโดยเฉพาะคนหลังสุดนี่ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ

นี่คืออีกหนึ่งบทพิสูจน์ของความรักแท้ ไม่ยอมแพ้ระยะทางไกลนะคะ

สวัสดีเจ้า

ยินดีหลายที่เข้ามาเยี่ยมกันเป็นคนแรก  ถูกแล้วจ้าว่าประสบการณ์ที่เพิ่มมากขึ้น

ช่วยให้เราแกร่งและเอาตัวรอดได้ในทุกสถานการณ์

ความจริงก็ไม่ใช่อุดมการณ์อะไรหรอกเพียงแค่ความจำเป็นบวกกับหน้าที่มัน

บังคับให้เราต้องตัดสินใจต่างหาก  แล้วการตัดสินใจแต่ละครั้งก็ไม่เคยผิดหวัง

เพราะมันช่วยให้ชีวิตของเราเปิดกว้างเต็มที่  จนความเชื่อมั่นและมั่นใจในตัวเอง

มีเต็มร้อย  ดีที่ว่าพี่ได้กลับมาบ้านแต่ครูป๋องแป๋งซิ ห้อยต่องแต่งอยู่ที่เพชรบูรณ์

จนจะลืมบ้านตัวเองอยู่แล้วแต่.....ใต้ฟ้าเดียวกันเนาะ

สุขสันต์วันทำงานเน้อเจ้า 

สวัสดีค่ะ

ดีใจนะที่มีคนเข้าใจและใช้ชีวิตคล้ายๆกัน  มันเป็นรสชาติและสีสันของการทำงานที่ยากจะลืมและหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว  ได้แต่เก็บไว้ในความทรงจำด้วยความภูมิใจที่ผ่านมาได้

พี่จึงมีความรู้สึกว่าเข้าใจและเข้าถึงใจคนแต่ละคนได้ไม่ยากนะคะ

มีความสุขกับวันอังคารจ้า 

สวัสดีจ้า

ยังไม่หมดเพียงแค่นี้นะน้องครูแหวว  ยังมีอีกหลายโรงเรียน  สังเกตไหมว่าพี่ขีดเส้นใต้คำว่า...ครูใหญ่....เอาไว้  สมัยนั้นยังเป็นครูใหญ่  แล้วค่อยเลื่อนมาเป็น...อาจารย์ใหญ่....แล้วจึงมาเป็น  ผอ. ทั่วประเทศในตอนนี้

แล้วจะสรุปให้เห็นในตอนจบของบันทึกนะจ๊ะ....อย่ากระพริบตา

เอาใจช่วยกับการงานที่พอกเอ้ย กองอยู่  อิๆๆๆ 

-สวัสดีครับคุณครู..

-แวะมาเยี่ยม/สบายดีนะครับ..

-วันนี้แวะมาชวนไปเรียนรู้เรื่องช้อน ครับ...

-ขอบคุณครับ

น้องอุ้ม

จะว่าลำบากก็ไม่เท่าไหร่นะถ้าเทียบกับคนอื่นอีกมากมาย  เพราะที่พัก(จะเล่าในบันทึกต่อไป) กับโรงเรียนก็ไม่ห่างกัน  อีกทั้งครอบครัวก็อยู่ด้วยกันครบ  เป็นการทดสอบจิตใจทั้งเขาทั้งเรามาจนถึงวันนี้นี่แหละน้องเอ้ย...

คิดถึงเสมอเช่นกันกับน้องสาวคนนี้                    

                                  

สวัสดีค่ะคุณอัยการ   ผู้ที่ช่วงนี้ชอบเบอร์ห้าหลานเป็นพิเศษ อิๆๆๆ

ไปใหม่ๆต้องตั้งใจฟังอย่างมากเลยค่ะ  ไม่รู้จะขำตัวเองหรือสงสารเด็กนักเรียนดี

แต่พวกครูก็ช่วยได้มากเพราะส่วนมากก็ต่างที่เหมือนกัน  แต่ที่ได้ฮากันบ่อยๆคง

ต้องเป็นนักการภารโรงล่ะค่ะเพราะเขาเป็นคนที่นั่นโดยกำเนิด  จะคุยจะขอให้ทำ

อะไรต้องมีท่าทางประกอบอีกต่างหาก เฮ้อ....อึดอัดแต่ฮาค่ะ

สุขใจกับหลานทอฝันคนเสน่ห์แรงนะคะ     

สวัสดีค่ะพี่ใหญ่ 

ขอบคุณกับกำลังใจที่มีให้กันตลอดนะคะ  ช่วงชีวิตของการทำงานของ krugui พิสูจน์จนไม่รู้จะพิสูจน์อย่างไรแล้วล่ะค่ะ  สามชีวิตไปไหนไปกันชนิดเรามีกันและกันแหละค่ะ....ว้าว

กลับมานั่งคิดถึงความหลังแล้วคุ้มค่ากับการใช้ชีวิตมากมาย

มีความสุขทุกวันนะคะ 

สวัสดีค่ะ

ยินดีค่ะที่แวะมาบอกกล่าวกันเรื่องของช้อนที่ไม่ใช่ช้อนธรรมดา  ไปอ่านมาแล้วแต่ยังไม่ได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้แค่นั้นค่ะ

เดี๋ยวจะตามไปอีกรอบเผื่อจะมีความคิดดีๆนะคะ

สบายดีค่ะขอบคุณหลาย  

ขอบคุณมากมายกับ  สีสันสดสวยพร้อมกลิ่นหอม

จาก    และ     มีความสุขทุกวันนะคะ

ความจำเป็นบังคับ นะครับ ท้าทายดีนะครับ

สวัสดีค่ะ

จะว่าเป็นความจำเป็นก็คงใช่หรือจะบอกว่าเป็นสิ่งที่ควรทำก็คงใช่อีก 

เอาเป็นว่าเมื่อทำไปแล้วก็มีเรื่องดีๆและแสนจะทรหดมาเล่าสู่กันฟังนะคะ

เป็นสิ่งที่ท้าทายและน่าลุ้นมากเลยค่ะกับการใช้ชีวิตที่แตกต่าง....ทุกอย่าง

ขอบคุณค่ะที่แวะมาทักทาย 

รถเมล์ที่วิ่งระหว่างตัวเมืองกับอ.สังขละบุรี  จะต้องผ่านอ.ไทรโยคและ

อ.ทองผาภูมิ  ตลอดทางก็จะจอดรับจอดส่งผู้โดยสาร  ทางก็ค่อนข้างแคบทั้งโค้ง

ทั้งไม่เรียบ  ใครจะแวะลงเล่นน้ำที่น้ำตกไทรโยคน้อยก็ได้นะ

            

น้ำตกไทรโยคน้อยจะถึงก่อนน้ำตกไทรโยคใหญ่  ซึ่งขึ้นอยู่กับอุทยานแห่งชาติ

ไทรโยค

หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือนั่งรถไฟจากตัวเมืองไปถึงน้ำตกไทรโยคน้อย  ระหว่าง

ทางก็จะผ่านช่วงโค้งมรณะที่แสนจะหวาดเสียวเพราะคนที่นั่งตู้แรกกับตู้สุดท้าย

จะสามารถมองเห็นกันได้  แล้วผ่านถ้ำกระแซเลียบแม่น้ำแควน้อยไปจนถึงน้ำตก

ไทรโยคน้อยแต่ไปไม่ถึงไทรโยคใหญ่

         

 

            

สะพานแขวนข้ามแม่น้ำแควน้อย  ตรงน้ำตกไทรโยคใหญ่ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลน์

ที่มีผู้ชื่นชอบมาถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก                                                                                          

สวัสดีครับ krugui chutima

  • ชีวิตเหมือนเรื่องขอลอร่า อิงกัลไวเดอร์ เลยทีเดียวเชียว
  • น่าจะเขียนเป็นสารคดีชีวิตพิมพ์จำหน่าย เพราะอ่านแล้วสนุกและน่าสนใจดี ขายไม่ได้ก็เอาไว้แจกตอนมีงาน
  • บางพื้นที่ของเมืองกาญจน์สมัยก่อนก็เหมือนอมก๋อยนั่นเอง
  • ขอบคุณครับที่นำเรื่องราวดีๆมาแบ่งปัน

สวัสดีค่ะ

โอ้...คงไม่ถึงขนาดนั้นมังคะชีวิตของใครก็ของใครแต่คงบังเอิญมาคล้ายกันบ้าง

น่าสนใจนะคะกับการเขียนชีวิตเชิงสารคดีแต่คงต้องขัดเกลาสำนวนให้ดีกว่านี้ 

มันติดขัดตรงนี้แหละค่ะ....ขายไม่ได้ก็เอาไว้แจก....แล้วแจกตอนมีงานซะด้วย

งานอะไรน้อ...อาจารย์ hahahahaha

อาจารย์รู้จัก"อมก๋อย" ด้วยว้าว.....คงเคยมาเยือนแล้วใช่ไหมคะ

ขอบคุณกับข้อเสนอแนะค่ะ....

ขอบคุณดอกไม้น้ำใจ     สีขาวบริสุทธิ์ด้วยจิตใจ

พร้อมส่งกลิ่นหอมจาก  และ     ด้วยความยินดียิ่งค่ะ

สุขสันต์วันพุธนะคะ....

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท