การคิด "นอกกรอบ" ไม่จำเป็นต้อง "ไร้สาระ" แต่การคิด "ไร้สาระ" เป็นเรื่องที่อยู่ "นอกกรอบ" แน่นอน
เมื่อวานนี้ ผมได้รับการร้องขอจากทางต้นสังกัดให้ช่วยพิจารณาการปรับปรุงหลักสูตรให้ "ดีกว่าเดิม" โดยเฉพาะในส่วนของ
- "ปรัชญา"
- "เบื้องหลัง"
- ทางเลือก ทางออก และ
-
"แนวทางการปรับปรุง"
- หลักสูตร
- วิชาต่างๆ
- การเรียนการสอน
- วิธีการสอน และ
- การประเมินผล
ที่ผมก็ได้ช่วยแก้ไขปรับปรุงเชิง "คำพูด" ให้ใกล้เคียงกับสิ่งที่น่าจะเป็น
ทั้งทาง
- สถานการณ์ของโลก
- ระบบธุรกิจข้ามชาติ
- แผนพัฒนาฯของประเทศ
- การเมืองการปกครอง
- เหตุการณ์บ้านเมือง
- ปัญหาทางสังคม
- ความเป็นอยู่ของชาวบ้าน
- ปัญหาในชุมชน
- ปัญหาด้านทรัพยากร และ
- ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม
ที่ทำให้มีความจำเป็นต้อง "ปรับปรุง" หลักสูตร ให้ "ทันสมัย"
แต่การปรับปรุงนั้น
-
กลับเน้นการทำงาน "ตามแผน" พัฒนาประเทศ
- ที่มักวางไว้ "เชิงคำพูด" อย่างสวยหรู
- แต่การปฏิบัติจริงๆ กลับทำไม่ค่อยได้ตามแผน
-
- ทำให้แผนพัฒนาฯ ใหม่ๆ จึงเป็นเพียงการแก้ไขปัญหาของแผนพัฒนาฯที่ผ่านมาแล้ว
- แบบพยายามเรียนรู้ แต่มักไม่ค่อยทันเหตุการณ์
- เนื่องด้วยองคาพยพที่จะทำให้แผนบรรลุเป้าหมายของประเทศ ยังไม่สามารถขับเคลื่อนไปได้ตามแผนที่วางไว้
ดังนั้น
ถ้าองคาพยพยังต้องเดินตามแผนฯ (แบบไม่ค่อยทัน) ก็จะยิ่งทำให้แผนฯมีปัญหาในตัวเองไปเรื่อยๆ
ที่ผมคิดว่า
ในส่วน "วิชาการ" ที่เป็นจุดใหญ่ของการกำหนดทิศทางการพัฒนา กลับต้องมาเดินตามแผนเสียอีก ก็ยื่งจะทำให้แผนมีปัญหาอย่างแน่นอน
แนวทางออกที่สำคัญคือ การทำความเข้าใจแผน และสนับสนุนการทำงานของแผน แบบไม่ต้องคอยเดินตามแผน
ที่เป็นความแตกต่างของระบบคิด "นอกกรอบ" และคิด "ในกรอบ"
การคิดนอกกรอบที่มี "สาระ" โดยวิธีนี้คือ
- การศึกษาที่ไปที่มาของแผนพัฒนา ในแต่ละประเด็นที่เกี่ยวข้อง
- ทำความเข้าใจกลไก ทางเลือกและเป้าหมายของแต่ละประเด็น ที่กำหนดไว้ในแผนฯ
-
ช่วยมองว่าแผนพัฒนาฯ ว่า
- มีปัญหาและอุปสรรคอะไร
- ยังขาดอะไร ที่เป็นเป้าหมายหลักของประเทศ ของคนไทย ของสังคม และการพัฒนาทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ทั้ง
-
-
- ผลกระทบที่มาจากกระแสเศรษฐกิจของโลก
-
- ปัญหาทางสังคม ทรัพยากรระดับโลก
-
- ปัญหาการเมืองการปกครอง ระดับภูมิภาค ระดับประเทศ
-
- ปัญหาการบริหารจัดการระดับท้องถิ่น
-
- ปัญหาทางวิชาการและระบบสนับสนุน
-
- ปัญหาโดยตรงของทรัพยากรและการจัดการ และ
-
- งานพัฒนาทางวิชาการ และนักวิชาการเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
แล้วก็ช่วยกัน
- วางแนวทางการทำงานเพื่อช่วยเหลือกันทำงานให้ได้ผล ตามที่ตั้งใจไว้
- โดยการ "ปิดช่องว่าง" ที่มี ให้เหลือน้อยที่สุด เท่าที่จะทำได้
ที่เป็นการคิด และทำงานแบบ "เชิงรุก" ตามเป้าหมายการพัฒนา "อย่างยั่งยืน"
โดยพยายามสร้างวิสัยทัศนที่
- ทันหรือนำกระแสที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ชุมชน และสังคม
- ทันสมัย ทันเหตุการณ์
- ถูกต้องตามหลักวิชาการ หลักทางเทคนิค และวิธีการ
- ที่เป็นประโยชน์ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
ที่เป็นการ "คิดนอกกรอบ" อย่าง
- "มีเหตุมีผล" และ
- "ไม่ไร้สาระ" แน่นอน
ที่น่าจะดีกว่า
- การคิด "ในกรอบ"
-
ที่พยายาม แค่เดินตามกรอบ
- แต่มักไม่ค่อยทัน
- แก้ปัญหาที่มีอยู่รอบด้านได้ไม่ครบ และ
- ยังมีช่องว่าง ที่เป็นอุปสรรคอย่างมากมาย
ดังนั้น ถ้าเดินตามแนวทางนี้ จะเห็นว่า
- การคิด "นอกกรอบ" ไม่จำเป็นต้อง "ไร้สาระ"
-
แต่การคิด "ไร้สาระ" นั้น เป็นเรื่องที่ไม่มีประโยชน์
-
ที่อยู่ "นอกกรอบ" แน่นอน
- ที่เป็นคนละเรื่อง คนละแนวทางกัน
-
คือ ความคิดแบบปราศจาก "หลักการ" และหลักของ "ความเป็นจริงแท้"
- อย่างมากก็อาจใช้ "ความจริงเสมือน" ในการคิด
- ที่มัก "หลงทาง" ไปสู่ความ "ไร้สาระ" ดังกล่าว
ผมจึงนำข้อเสนอดังกล่าวไปสู่
- การพัฒนาหลักสูตร และ
- ลงรายละเอียดไปถึงเนื้อหาการเรียนการสอน
- ที่จะต้องปรับปรุงให้สอดคล้องกัน
เพื่อทำให้งานวิชาการ
- สามารถชี้นำการพัฒนา
-
แทนที่จะใช้งานพัฒนามาชี้นำงานวิชาการเพียงด้านเดียว
จึงนำมาบันทึกช่วยคิด ไว้ ณ ที่นี้ครับ