พิจารณา โครงการ Contract farming มาตรการส่งเสริมด้าน เศรษฐกิจหรือแค่การวางกรอบด้านนโยบาย
กลับมาอีกครั้งแล้วนะคะสำหรับภาคต่อของ ACMECS และคิดว่าคงจะมีภาคต่อไปเรื่อยๆเลยคะ หวังว่าคงจะยัง ไม่เบื่อกันนะคะ สำหรับวันนี้เราจะมาพิจารณาในส่วนของโครงการ contract farming กันนะคะว่ามันเป็นมาอย่างไรและมันเกี่ยวข้องกับ ACMECS อย่างไร
Contract farming ถ้าแปลตรงตัวมันคือการทำฟาร์มสัญญา ซึ่งหมายถึงการเลี้ยงปศุสัตว์หรือเพาะปลูกพืชที่มีการทำสัญญาซื้อขายกันโดยส่วนใหญ่จะมีการกำหนดราคาผลผลิตไว้ตายตัว ซึ่งเรียกว่า ฟาร์มประกันราคา หรือฟาร์มประกัน โดยการทำสัญญาฟาร์มประกันมีคู่สัญญา 2 ฝ่าย ฝ่ายแรกเป็นฝ่ายฟาร์ม เรียกว่า ฟาร์มประกัน ซึ่งก็คือฝ่ายเกษตรกรเจ้าของฟาร์ม ส่วนฝ่ายที่ 2 เป็นคู่สัญญาที่สัญญาจะซื้อผลผลิตคืนกลับ ในราคาประกันที่เรียกว่า ผู้รับประกัน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในรูปบริษัท เช่น บริษัทเจริญโภคภัณฑ์ บริษัทเบทาโกร บริษัทแหลมทองสหการ เป็นต้น
ในการจัดทำ Contract farming ในประเทศไทยได้มีการดำเนินการไม่น้อยกว่า 30 ปี เป็นการประกันราคาพืชผลทางเกษตรส่วนใหญ่
ผลดี คือ มีปริมาณผลผลิตที่ต้อนอย่างต่อเนื่องและเพียงพอ ผู้ส่งออกสามารถวางแผนการตลาดล่วงหน้าได้
ผลเสีย คือจะต้องมีวิธีการวางแผน การดำเนินการที่ดีและมีคู่สัญญาราคาฟาร์มประกันราคาจำนวนมากเพียงพอจึงจะได้กำไรและประสบผลสำเร็จ
ตอนนี้คงจะได้ทราบกันแล้วใช่มั้ยหละคะว่าโครงการ contract farming มันคืออะไร ซึ่งจะเห็นได้ว่าโครงการนี้มีมานานกว่า 30 ปีมาแล้ว ซึ่งแน่นอนว่ามันมีอยู่ก่อนความร่วมมือทางเศรษฐกิจภายใต้ชื่อว่า ACMECSแน่นอน อ้าวแล้วมันมาเกี่ยวข้องกันได้อย่างไรหละ ใจเย็นๆคะ กำลังจะตอบให้เดี๋ยวนี้คะ
พิจารณา contract farming กับ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจภายใต้กรอบ ACMECS
หลักการนี้ถือเป็นนโยบายร่วมในการผลิตและส่งเสริม การผลิต การค้า และการลงทุนภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ(ACMECS) ที่มุงเน้นการช่วยตัวเอง และการช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างประเทศกำลังพัฒนา เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน สร้างฐานการผลิตชายแดนระหว่างไทยกับประเทศสมาชิกใหม่อาเซี่ยน ด้านการเกษตร/ อุสาหกรรมและการบริการ สร้างงานและลดช่องว่างรายได้ของชาวไทยและประเทศสมาชิกใหม่อาเซี่ยน ลดการเคลี่อนย้ายแรงงานผิดกฎหมาย ลกปัญหายาเสพติด สร้างความมั่นคงและมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย ลาว กัมพูชา และพม่า ร่วมกันอย่างยั่งยืน โดยสนับสนุนให้ภาคเอกชนของไทย มีส่วนร่วมเข้าไปส่งเสริมการผลิตและรับซื้อสินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้าน ในระบบ contract farming และส่งออกมายังไทยภายใต้สิทธิ์พิเศษทางภาษีศุลกากร AISP สำหรับสินค้าเกษตร 8 รายการ ประกอบด้วย ถั่วเหลือง ข้าว มันฝรั่ง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ข้าวโพดหวาน ละหุ่ง เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วลิสง ยูคาลิปตัส สำหรับลาวได้สิทธิพิเศษเพิ่ม ในการส่งออกสินค้าเกษตรอีก 1 รายการคือ ลูกเดือย
หลักการที่สำคัญ
ภาคเอกชนไทยทีให้ความสนใจในการจัดทำ contract farming กับประเทศเพื่อนบ้านโดยประสานกับจังหวัด หอการค้า สภาหอการค้าไทย ขั้นตอนในการดำเนินงาน
1 เจรจาทำความตกลงกับประเทศเพื่อนบ้านกำหนดพื้ฯที่เป้าหมายเพาะปลูกให้ชัดเจน
2 กำหนดพืชเป้าหมาย ประสานนักลงทุนทั้งส่วนกลางและท้องถิ่นเข้าลงทุนในพื้นที่ที่กำหนด
3 นำคณะผู้แทนทางการค้าเดินทางไปทำสัญญา contract farming4 ติดตามความก้าวหน้าและประสานให้เกิดผลในทางปฏิบัติ เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับการทำcontract farming ร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านภายใต้กรอบความร่วมมือที่เรียกย่อๆว่า ACMES
เอาเป็นว่าในครั้งต่อไปผู้เขียนจะนำเสนอในแง่มุมไหนของเรื่องนี้ก็ต้องคอย ติดตามกันนะคะ
ขอขอบคุณอาจารย์เสาวณีย์...